ต้นไม้กิ่งเพชร

อย่าปองเรียนอาถรรพ์ ชีวิตจะฉิบหายวายม้วยได้ การเชื่อไสยศาสตร์
ย่อมไม่ยั่งยืน การผ่านการเรียน การสอนจากสถาบันการศึกษา
มีกระบวนการศึกษา อย่างเป็นระบบเชิงศาสตร์รับรองมีวุฒิบัตร จะมั่งคั่ง
และยั่งยืนกว่า….ยังมีต้นไม้วิเศษมีกิ่งเป็นเพชร ถูกปลุกเสกจากหมอผี ร่ายมนต์ปลุกเสก
ต้นไม้กิ่งเพชรไว้ ในเรือนอาถรรพ์ เพื่อความมั่งคั่งของเจ้าของเรือน…โจรก็ได้ลักขโมย
ต้นไม้กิ่งเพชรไป ก็หายสาบสูญไป เป็นเวลานับสิบปี เจ้าของเรือนยังใจเย็น
เพราะหมอผีเคย บอกว่า ถ้าใครได้ขโมยต้นไม้กิ่งเพชร จะตกยากและยากจน
ขโมยสำนึกได้ มันย่อมนำมาคืน แล้วถ้าขโมยพา ต้นไม้กิ่งเพชรไปขายต่อ
…..จะเป็นต้นไม้ธรรมดาๆต้นหนึ่ง ไม่มีราคาค่างวดอะไร แล้วโจรก็สิ้นเนื้อประดาตัว
……ก็ได้นำต้นไม้กิ่งเพชร คืนกลับมายังเรือนอาถรรพ์ แต่กระนั้นเอย หมอผีนั้นที่ปลุกเสก
เทียวเล่นแร่แปรธาตุ เรื่องไสยศาสตร์ต่างๆ ก็ได้รับผลร้าย หมอผีพลันฉิบหายวายม้วย
ชีวิตตกต่ำเทียวเดินร่อนเร่ ขอข้าวเขา เพราะการใช้ไสยศาสตร์นั้น ย่อมเป็นสิ่งไม่ดี
เทียวปลุกเสกของขลังเป็นอวิชชา มิใช่ปัญญาแท้ที่ได้บำเพ็ญ ศีล สมาธิ ปัญญา
…..เมื่อสิ้นเจ้าของเรือนอาถรรพ์ ก็ได้มีพระอรหันต์ โปรดและขอบิณฑบาต ต้นไม้กิ่งเพชร
ออกจากสถานที่ตั้ง ไปเก็บรักษาไว้ ยังศูนย์ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน เพื่อเป็นอนุสรณ์
อุทาหรณ์สอนใจคน “อย่าปองเรียนอาถรรพ์” พลันฉิบหายวายม้วยได้ เกิดมาเป็นคน
ต้อง เจียรนัย ให้มีปัญญาดั่งเพชร เยี่ยงวิญญูชนบัณฑิต เมื่อน้อยเรียนวิชา
อันจะยังแก่ฐานเงินเดือนเลี้ยงตัวเอง สร้างอาชีพพร้อมด้วย กระบวนการเชิงศาสตร์และศิลปะ