(THE HELL GUARD) เฮ้! ยูอย่ามาแหย็ม Hey! Don't mess with my heart

วรัญยูเด็กหนุ่มผู้ที่มีเนื้องอกอยู่ภายในสมอง ตั้งแต่ยังเล็กเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกและให้เคมีบำบัดอยู่เป็นระยะ จวบจนวันหนึ่งแม่ของวรัญยูไม่สามารถทนมองลูกชายของตนได้อีกต่อไปเธอจึงตัดสินใจขอหย่าแยกทางกับสามีและพาลูกชายฝาแฝดคนโตไปเลี้ยงดู เมื่อวรัญยูมีอายุครบ 14 ปีอาการเจ็บปวดก็เริ่มโจมตีเขาอย่างรุนแรงอีกครั้ง ครั้งนี้วรัญยูได้รับการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ชั้นนำผู้เชี่ยวชาญแม้ว่าการผ่าตัดจะสำเร็จไปได้ด้วยดีร่างกายหายเป็นปกติแต่วรัญยูกลับไม่ยอมตื่นขึ้นมา

วิญญาณของวรัญยูดำดิ่งสู่ปรโลกที่ซึ่งวิญญาณคนตายมารวมกัน ในขณะที่เส้นทางไปสู่โลกหน้าอันหลากหลายปรากฏขึ้น วรัญยูได้พบชายชราคนหนึ่งที่กำลังเดินฝ่าแม่น้ำสีเลือด ชายคนนั้นล้มลงอย่างเจ็บปวกทรมานจนเด็กหนุ่มต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ ชายชราผู้นี้รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของเด็กคนนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยปกติแล้ววิญญาณคนตายที่เดินทางมายังปรโลกจะมองเห็นเส้นทางไปยังภพหน้าเพียงเส้นทางเดียวตามบุญกรรมที่ได้ทำมาแต่วรัญยูกลับมองเห็นทุกเส้นทางและวิญญาณคนอื่นๆ

วรัญยูอุ้มชายชราพาดหลังของตนเตรียมตัวเดินฝ่าแม่น้ำนรกตามที่ชายชราต้องการ เพียงแค่ก้าวมาได้ไม่กี่ก้าวร่างกายกก็หนักอึ้ง ชายชราที่วรัญยูอุ้มไว้มีลักษณะที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เสื้อผ้าเก่าขาดบัดนี้แปลเปลี่ยนเป็นเสื้อคุมยาวใบหน้าที่เคยเหี่ยวย่นก็กลับมาเป็นหนุ่มสูงวัยใบหน้าละม้ายคล้ายคนตะวันออก

ชายคนนั้นเปิดเผยว่าตนเองชื่อ อิมรานเป็นยมทูตเจ้าของนรกขุมหนึ่งในบัดดาหลายร้อยขุม เขาเพ่งมองไปในจิตวิญญาณของวรัญยูแล้วพบว่า เด็กหนุ่มคนนี้เป็นวิญญาณคนเป็นที่ยังไม่ถึงเวลาตาย อิมรานได้ให้ทางเลือกกับวรัญยู 3 อย่างคือ

1. กลับไปมีชีวิตเวียนว่ายในปัจจุบันอีกครั้งโดยลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่และจะต้องทนรับความเจ็บปวดจากอาการป่วยไปตลอตชีวิต
2. วรัญยูสามารถเลือกตายตอนนี้และเดินทางไปยังภพภูมิหน้าเพื่อเกิดใหม่อีกครั้ง
3. เลือกที่จะทำสัญญาแห่งยมโลกเพื่อเป็นตัวแทนยมทูต หากเลือกเส้นทางนี้จะต้องอยู่และเรียนรู้เส้นทางในยมโลก และนรกทุกขุมเป็นเวลานานถึงหกปีเต็ม จากนั้นวรัญยูจะฟื้นขึ้นโดยไม่มีวันเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บอีกเลยแต่ก็ต้องแลกด้วยการทำหน้าที่พิพากษานำดวงวิญญาณที่หลบหนีกลับมายังปรโลก และที่เลวร้าวกว่านั้นเข้าจะต้องต่อสู้กับเหล่ามาร อสูร ที่ออกมาจะโลกมืดด้วย

เด็กหนุ่มไม่ลังเลที่จะเลือกข้อ 3 แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานถึงหกปีเต็ม แต่วรัญยูก็อยากกลับไปหาคุณพ่อ คุณแม่ และพี่ชายฝาแฝดของเขาเพราะนั่นคือสิ่งที่วรัญยูรักมากที่สุดในชีวิต

…หกปีต่อมาวรัญยูฟื้นขึ้นในสถาบันจิตประสาทในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีเจ้าของสถาบันเป็นนักบำบัดจิตอันมีชื่อเสียงคอยดูแลเป็นอย่างดี ในตอนที่ฟื้นขึ้นเธอได้เล่าว่าบิดาของวรัญยูได้มอบหมายให้ดูแลลูกชายเพราะเชื่อว่าบุตรชายคนนี้จะต้องฟื้นกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน เพียงแต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะฟื้นขึ้นได้มีรอยสักดาวห้าแฉกตรงกลางมีหมายเลยเจ็ดปรากฏขึ้นจนทุกคนยังแปลกใจ

หลังจากทำกายภาพบำบัดและเช็กอาการทางร่างกายอย่างดีแล้ว วรัญยูเริ่มร่ำเรียนพิเศษอย่างหนักเพื่อกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่พ่อเป็นเจ้าของ พร้อมกับเริ่มทำภารกิจในฐานะตัวแทนยมทูตควบคู่กันไปด้วย

ด้วยความมุ่งมั่นเด็กหนุ่มได้สอบติดคณะแพทย์ได้สำเร็จ และเดินทางมายังประเทศไทยในอีกครึ่งปีต่อมา วันแลกที่เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยวรัญยูได้พบชายคนหนึ่งที่มองเขาเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อ ชายคนนั้นเป็นรุ่นพี่คณะจากคณะนิเทศศาสตร์ ตอนที่ไปถ่ายรูปทำบัตรนักศึกษาชายหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ได้เตือนให้วรัญยู อย่างมาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่นี่โดยพูดเพียง

“ตัวมึงมีกลิ่นไอแห่งความตาย อย่างได้คิดทำร้ายใครเด็ดขาดไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน”

ตั้งแต่วันนั้นวรัญยูก็ถูกจับตามองเป็นพิเศษ แม้จะได้กลับมามีชีวิตเป็นปกติอีกครั้ง แต่รุ่นพี่ต่างคณะที่ชื่อพลังก็พยายามหาเรื่องเขาไม่หยุดหย่อน ในเย็นวันหนึ่งพลังได้ลากตัววรัญยูขึ้นรถตู้ไปยังสุสานแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพเพื่อเปิเเผยตัวตนที่แท้จริง และตอนนั้นเองที่ทั้งคู่โดนดึงเข้าสู่โลกวิญญาณ พลังถูกใครคนหนึ่งทำร้ายจนบาดเจ็บจนและเปิดเผยว่าแท้จริงแล้ววรัญยูไม่ใช่วิญญาณร้ายหรือมารอสูรจากโลกมืด ฐานะที่แท้จริงคือตัวแทนยมทูตผู้ล่าวิญญาณต่างหาก

หลังจากที่พลังรู้เรื่องทั้งหมดก็เล่าว่าตัวเองเป็นร่างทรงทำหน้าที่ปัดเป่าวิญญาณที่ยังไม่ไปสู่สุคติ แม้ทั้งคู่จะไม่รู้ว่าคนที่ทำร้ายพวกเขาเป็นใครแต่วรัญยูเชื่อว่า คนคนนี้ได้ทำสัญญาบางอย่างกับโลกมืดไปแล้วและชีวิตของเขาทั้งคู่ก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

แม้ความสัมพันธ์ของวรัญยูและพลังจะเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ และคนที่เคยทำร้ายจะไม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกเลยก็ตาม ในวันที่วรัญยูต้องไปตรวจสุขภาพตามคำสั่งของคุณแม่ผู้เป็นเจ้าของโรงพยาบาล ทั้งสองคนก็โดนดึงเข้าสู่โลกวิญญาณอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ทุกอย่างกลับดูเลวร้ายและน่ากลัวขึ้นกว่าทุกที่ เพราะมีใครบางคนได้ทำการเรียกอสูรร้ายจากโลกมืดขึ้นมาด้วย

วรัญยูได้เปิดเผยถึงพลังของตัวแทนยมทูตด้วยการเรียกประตูนรกขึ้นมายังโลกมนุษย์ เขาสามารถอัญเชิญประตูนรกได้กว่า 666 ประตู และแต่ละประตูก็มียมทูตที่มีความสามารถในการล่าวิญญาณที่แตกต่างกันไป ในขณะเดียวกันพลังเองก็เปิดเผยความลับของร่างทรง ทั้งการร่ายคาถาป้องกันต่าง ๆ จากพระอาจารย์เกจิชื่อดังหรือแม้กระทั้งเรียกวิญญาณนักบุญที่เคยดับสูญไปแล้วมาประทับร่าง จนทั้งสองคนหนีรอดออกมาจากสถานการณ์เลวร้ายได้สำเร็จ

ทั้งคู่เริ่มสืบหาว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวการทำร้ายเขาจนในที่สุดก็รู้ว่า คนร้ายกลับอยู่ใกล้แค่เอื้อม