Icon Close

มนตราพ่ายรัก [เสือหาญ x อรทินทุ์]

มนตราพ่ายรัก [เสือหาญ x อรทินทุ์]
สำนักพิมพ์l’m 20 D
หมวดหมู่นิยายรัก
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
3 Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
19 กันยายน 2568
ความยาว
235 หน้า (≈ 31,666 คำ)
ราคาปก
179 บาท (ประหยัด 22%)
มนตราพ่ายรัก [เสือหาญ x อรทินทุ์]
มนตราพ่ายรัก [เสือหาญ x อรทินทุ์]
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
3 Rating
แสงไฟหลากสีจากโคมไฟประดับเวทีสะท้อนประกายระยิบลงบนสระน้ำในสวนหลวง ผู้คนแต่งกายหรูหราแห่กันมาชมงานประกวดนางสาวสยาม ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่านี่คือเวทีที่เฟ้นหาสตรีผู้เพียบพร้อมที่สุดแห่งยุค ทว่ากับมีเสียงเล่าลือเรื่องประวัติขุนโจรโฉดภาคกลาง ดังแว่วออกมาจากกลุ่มชายสูงวัย ที่กำลังเล่านิทานหลอกเด็กน้อย แทนที่จะพูดถึงหญิงงามที่เข้ามาประกวด

“แสงจันทร์ทอประกายเหนือสายน้ำเจ้าพระยา เสียงเกลียวคลื่นซัดกระทบหัวเรือสำเภาเก่าดังก้องในความเงียบงัน ทว่าไม่อาจกลบกลิ่นคาวเลือดที่โชยมาจากริมฝั่งได้ เสือหาญ ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หัวเรือ”

“…”

“แววตาคมเข้มภายใต้คิ้วหนา ประกายความเย็นยะเยือก เขาคือเสือใหญ่แห่งภาคกลาง หัวหน้าผู้โหดเหี้ยมของแก๊งเสือสี่ภาค ชื่อที่เพียงได้ยินก็กระตุกความหวาดหวั่นไปทั่วพระนคร เสือหาญไม่ใช่โจรธรรมดา เขากำหนดชะตาความเป็นความตายของใครหลายคน ซ้ำยังใจกล้าและโหดเหี้ยม อำมหิตมากไปด้วยบารมี”

เด็ก ๆ เบิกตากว้าง ทั้งหวาดกลัว ทั้งตื่นเต้น แต่เสียงหัวเราะของใครบางคนกลับดังขึ้นจากทางด้านหลังพวกเขา เรียกให้ทุกคนหันไปมองตาขวาง ชายในชุดสากลตะวันตกสีเข้มเดินผ่านมาได้ยินพอดิบพอดี พลันนึกขำกับเรื่องเล่าเกินจริงของเสือหาญ เด็กน้อยพากันมองอย่างขุ่นเคือง เพราะเขาคนนั้นกล้ามาหัวเราะใส่ตำนานเสือหาญ ขุนโจรที่ทวงความยุติธรรมจากผู้ทรงอิทธิพลให้คนรากหญ้า

“อย่ามาดูหมิ่นเสือหาญของพวกเรานะ” หนูน้อยตะโกนบอก

“ช่างเขาเถอะ เรามาฟังเรื่องเสือหาญกันต่อดีกว่า” ชายสูงวัยเอ่ยปรามเพราะรู้ดีว่าชายผู้นั้นเป็นใคร

เขาคือ ท่านไทธัช ก้องวัฒนะกุล เจ้าของสัมปทานเหมืองแร่ในหลายจังหวัดของภาคกลาง มั่งคั่งและเต็มไปด้วยเส้นสาย จนบรรดาเจ้าของเวทีประกวดต้องเชื้อเชิญมาเป็น หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและบารมีให้กับงาน ร่างสูงเดินผ่านกลุ่มเด็ก ๆ ไปทางเวที ที่มีสตรีสาวงามจากทั่วสารทิศกำลังยืนเรียงรายรอการตัดสิน

ทว่าสายตาของท่านไทธัชกลับเหลือบมองไปที่หญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งไม่ได้ยืนแข่งขัน หากแต่นั่งอยู่ท่ามกลางแขกผู้ทรงเกียรติด้านล่าง เธอคือ หม่อมราชวงศ์อรทินทุ์ ก้องวัฒนะกุล ภรรยาของท่านไทธัช แม้จะอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปี แต่ชื่อเสียงของเธอกลับล่วงหน้าไปไกลเกินวัย

หม่อมราชวงศ์อรทินทุ์เป็นแพทย์หญิงรุ่นแรก ๆ แห่งพระนคร เธอกล้าลุกขึ้นท้าทายค่านิยมที่ว่าสตรีคู่ควรกับงานพยาบาลหรือการงานในเรือนมากกว่า ซ้ำหม่อมราชวงศ์อรทินทุ์ยังเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของ หม่อมเจ้าภาคิไนย ราชสกุลผู้มีเกียรติ

กิริยาท่าทางเรียบร้อยของคุณหญิง ไม่อาจกลบแววเด็ดเดี่ยวในดวงตาคู่งามนั้นได้ ทุกครั้งที่เธอยกถ้วยน้ำขึ้นจิบหรือหันไปสนทนากับสุภาพสตรีข้างกาย ล้วนเผยให้เห็นความสง่า สมกับเลือดผู้ดีเก่าที่ไหลเวียนอยู่ในกาย

“นั่นหรือภรรยาของท่านไทธัช” เสียงซุบซิบดังแผ่วเบาระหว่างผู้ชม ทำให้ชายร่างสูงที่ยืนมองภรรยาอยู่ไม่ไกลได้ยิน

“ไม่เพียงงามอย่างเดียว คุณหญิงท่านยังสำเร็จการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาเชียวนะ”

“เก่งสมกับเป็นบุตรสาวของหม่อมเจ้าภาคิไนย” คำพูดซุบซิบยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ก่อนร่างสูงสง่าจะเดินฝ่าเสียงนั้นไปนั่งลงข้างภรรยาผู้เพียบพร้อม

การสมรสระหว่างท่านไทธัชกับหม่อมราชวงศ์อรทินทุ์ หาได้เกิดจากความรักใคร่เสน่หาดังชายหญิงทั่วไป หากแต่มีเหตุจำเป็นเป็นที่ตั้ง เดิมทีหญิงสาวนั้นมีสัญญาหมั้นหมายกับพ่อเลี้ยงสิงห์คำ ผู้เป็นน้องชายของท่านไทธัช ทว่าด้วยชะตาและเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อแม่เลี้ยงศศิประภาได้ประกาศยกเลิกคำมั่นต่อหน้าผู้คน เป็นดั่งการหักหน้ากลางพระนคร สร้างความกระอักกระอ่วนใจแก่หม่อมเจ้าภาคิไนยยิ่งนัก

หม่อมเจ้าจึงไม่ปรารถนาจะสืบต่อการหมั้นหมายอันเป็นที่ครหาของผู้คน ด้วยเกรงจะเสียเกียรติและถูกเยาะหยัน ไทธัชเห็นแบบนั้นก็ไม่อาจปล่อยให้สตรีผู้เพียบพร้อมทั้งชาติตระกูลและการศึกษา ต้องตกอยู่ในสถานการณ์น่าเวทนา กลายเป็นที่ซุบซิบนินทาของชาวพระนคร ด้วยน้ำใจอันกว้างขวาง ท่านจึงเอ่ยปากอาสาแต่งงานแทนน้องชาย เพื่อรักษาหน้าตาและศักดิ์ศรีของทั้งสองฝ่ายให้คงอยู่ต่อไป

ฐานะ อิทธิพล ตลอดจนบารมีของท่านไทธัชนั้น คู่ควรกับหม่อมราชวงศ์อรทินทุ์เป็นอย่างยิ่ง แม้จะไม่ใช่คู่ที่กำหนดไว้แต่แรก แต่ก็หาใช่คู่ที่จะก่อเกิดความเสื่อมเสียแก่ฝ่ายหญิงไม่ ตรงกันข้ามกลับเป็นการยกเกียรติให้สูงส่งขึ้นไปอีก เพราะท่านไทธัชนั้นเป็นบุคคลที่ผู้คนต่างให้ความเคารพนับถือ ด้วยเหตุนี้ หม่อมเจ้าภาคิไนยจึงยอมให้การสมรสจัดขึ้นโดยไม่ขัดขวาง

ก่อนที่หม่อมราชวงศ์อรทินทุ์จะต้องเดินทางไกลไปศึกษาวิชาแพทย์ ณ มลรัฐอเมริกา อันเป็นความใฝ่ฝันที่หญิงสาวตั้งใจมาแต่เยาว์วัย งานวิวาห์จึงเกิดขึ้นท่ามกลางการยอมรับของสองตระกูลใหญ่ นับแต่นั้นมา ทั้งสองก็ห่างเหินกันไปเกือบห้าปีเต็ม เพราะภาระการศึกษาและเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกัน กว่าหม่อมราชวงศ์อรทินทุ์จะสำเร็จการศึกษา หวนคืนกลับสู่แผ่นดินสยาม เวลาก็ล่วงเลยไปเนิ่นนาน

กระทั่งวันนี้ ทั้งสองได้กลับมาครองเรือนร่วมชายคาอยู่กินในฐานะสามีภรรยาอย่างแท้จริงเป็นเวลาสองเดือนเศษแล้ว หากแต่ความสัมพันธ์นั้นยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา ไม่ใช่เพราะเกลียดชัง แต่เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีหัวใจให้กันมาแต่แรก จุดเริ่มต้นของชีวิตคู่จึงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

“ท่านไทธัชชอบสาวงามคนไหนหรือคะ”

หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่อีกด้านเอ่ยถาม ทำให้ชายหนุ่มรูปงามหันไปมองหน้าภรรยา ทว่าหม่อมราชวงศ์นิ่งเฉยไม่ได้สนใจใยดีสามี ท่านไทธัชจึงเหลียวมองสาวงามบนเวที ก่อนจะเห็นว่ามีหนึ่งคนที่ส่งสายตามาให้ ราวกับยั่วยวน เกินงามจนภรรยาของท่านสังเกตเห็น แต่ถึงอย่างนั้นหม่อมราชวงศ์ก็ยังคงเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย

“คนนั้นครับ ที่ห้องเสื้อยุพินส่งเข้าประกวด” เขาตอบประชดคนข้างกาย เพราะเห็นว่าคุณหญิงทำเป็นไม่สะทกสะท้านอะไร ตอนสามีโดนหญิงสาวคนนั้นยั่วยวนทางสายตา

“หล่อนชื่อมะลิค่ะ อายุเพิ่งจะสิบเก้าปี ยังสาวยังสวย หากท่านไทธัชสนใจ ฉันจะติดต่อให้” หญิงวัยกลางคนกระซิบพอให้ได้ยินกันสองคน

“ไม่ล่ะ ผมมีภรรยาแล้ว” คำตอบของสามีทำให้หม่อมราชวงศ์ปรายตามองเขาเล็กน้อย พลันนึกชื่นชมอยู่ในใจที่ชายวัยสี่สิบเก้าไม่บ้าตัณหาคว้าเด็กรุ่นลูกมาเป็นเมียน้อย
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
19 กันยายน 2568
ความยาว
235 หน้า (≈ 31,666 คำ)
ราคาปก
179 บาท (ประหยัด 22%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า