จังหวะของชีวิตกับอิทธิฤทธิ์ดาวจร

ในโลกดนตรี บทเพลง บทขับร้อง ทั้งหลาย ล้วนมีจังหวะอยู่ในตัวทั้งสิ้น เช่น จังหวะช้า จังหวะเร็ว จังหวะเบา จังหวะหนัก ฯลฯ การเต้นรำ การขับร้อง ฯลฯ ล้วนเป็นกิจกรรมที่เน้นในเรื่องของการเข้าจังหวะเป็นหัวใจสำคัญยิ่ง

วิถีชีวิตคนเราก็เช่นกัน ดำเนินเป็นจังหวะๆ เช่น บางช่วงอยู่ในจังหวะร้าย บางช่วงอยู่ในจังหวะดี บางช่วงก็จังหวะเสี่ยง บางช่วงก็จังหวะอันตราย ฯลฯ

สำหรับวิถีชีวิตของมนุษย์ เครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยให้เราสามารถประเมินสภาพของเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ก็คือ วิชาโหราศาสตร์

สิ่งใดก็ตามที่ดำเนินอย่างสอดคล้องต้องกันเป็นจังหวะจะโคน เมื่อได้มอง ได้ฟัง ฯลฯ ย่อมสัมผัสรับรู้ได้ถึงความสวยงาม ชื่นตา ชื่นใจ น่ายินดีปรีดา ฯลฯ ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เห็นแล้ว ได้ยินแล้ว เกิดอาการขัดหู ขัดตา ขัดใจขึ้นมาทันที เพราะความกระด้างกระเดื่อง ไม่สอดคล้องกับท่วงทำนองลีลาของธรรมชาติ

“ผู้ใดสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสอดคล้องต้องกันกับห้วงจังหวะทำนองของธรรมชาติ ย่อมประสบกับความผาสุข สำเร็จสมประสงค์ได้อย่างง่ายดาย และราบรื่น ตรงกันข้ามกับผู้ที่ดำเนินชีวิตขัดหรือสวนทางกับธรรมชาติ”

และหนังสือเล่มนี้ จะเป็นทั้งคู่มือและเครื่องช่วยให้คุณได้รู้จักและสัมผัสกับจังหวะของชีวิตในมิติแห่งกาลเวลาที่แตกต่างกัน ด้วยการใช้เครื่องมืออันทรงพลังของศาสตร์โบราณเก่าแก่ที่สุดในโลกศาสตร์หนึ่ง มาเป็นเครื่องมือช่วยจับจังหวะชีวิตได้อย่างแม่นยำ

อนึ่ง คำว่า อิทธิฤทธิ์ แปลว่า อำนาจศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ใช้คำว่า อิทธิฤทธิ์ ในบริบทที่ต้องการสื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นถึงความแม่นยำลงตัวในแง่มุมการหมุนวนเป็นจังหวะๆ ของดาวจรบนฟ้าที่สามารถบอกช่วงเวลาการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต ที่คล้องจองสัมพันธ์กันอย่างน่าอัศจรรย์ใจ หาใช่ อิทธิฤทธิ์ ในแง่การดลบันดาลความเป็นไปของชีวิตไม่

“สรรพสิ่ง ในสิ่งๆ หนึ่ง….. สิ่งๆ หนึ่งในสรรพสิ่ง”

สำหรับชาวพุทธ ที่เชื่อเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม เมื่อมีโอกาสเข้ามาศึกษาโหราศาสตร์ภาคพยากรณ์จร จะเกิดความเข้าใจในเรื่องกรรมลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องลำดับการให้ผลของกรรมดี กรรมร้าย ที่กระทำมาในอดีต หรือ
คิวกรรม นั่นเอง