อ่านออก เขียนเป็น เรียนภาษาอังกฤษเริ่มต้นจากศูนย์

ปัจจุบันผู้ปกครองหันมาสนใจส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษของลูกหลานมากขึ้น ในเด็กเล็กนั้นทักษะการฟังและพูดเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก แต่ในเด็กวัยที่อยู่ในวัยประถมขึ้นไปหรือผู้ใหญ่ หากพื้นฐานภาษาอังกฤษแทบไม่มีเลย การส่งเสริมทักษะการสะกดและการอ่านนั้นจะช่วยส่งเสริมทักษะอื่นๆให้ดียิ่งขึ้นไป สาเหตุที่ครูแนะนำดังนั้นเป็นเพราะว่า หนึ่งการเรียนโดยการได้อ่านด้วยช่วยทำให้จำได้มากขึ้น ลองคิดดูว่าถ้าเราต้องการจำประโยคภาษาอังกฤษประโยคหนึ่งโดยการฟังอย่างเดียว อาจจะทำให้จำได้ยากกว่าทั้งการฟังและการอ่านประโยคไปพร้อมๆกัน

สองการอ่านออกนั้นทำให้เราสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตนเองมากขึ้น เมื่อเราอ่านออกแล้วนั้น เราสามารถเลือกอ่านหนังสือต่างๆ ได้ตามใจชอบ และเป็นการเรียนรู้โครงสร้างประโยคและหลักไวยกรณ์จากสิ่งที่เราอ่าน และนั่นช่วยให้ส่งเสริมทักษะการพูดและการเขียนของเราไปในตัว

สามสำหรับเด็กๆแล้ว จะละเลยการอ่านออกเขียนเป็นไม่ได้เลย เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าข้อสอบและการเรียนต่อในระดับสูงต้องพึ่งการอ่านออกเขียนเป็น สำหรับเด็กที่สามารถฟังพูดภาษาอังกฤษได้คล่องตั้งแต่เล็กๆน้อย ก็ยังต้องฝึกฝนทักษะการอ่านเขียนเช่นกัน ถ้าจะเปรียบให้เข้าใจง่ายก็ดังเช่นคนเราฟังพูดภาษาไทยได้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องเรียนสะกด อ่านและเขียนที่โรงเรียนนั่นเอง

ในประเทศไทยเรายังไม่มีหนังสือที่ส่งเสริมด้านการสะกดภาษาอังกฤษมากนัก วิธีการสอนในหนังสือเล่มนี้ครูได้ศึกษามาจากหนังสือและสื่อการสอนต่างๆจากต่างประเทศ นอกจากนี้มาจากประสบการณ์การสอนสะกดภาษาอังกฤษของตัวเอง และได้นำสิ่งที่ได้ศึกษาและประสบการณ์มาประยุกต์กับความรู้ภาษาไทยเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจมากที่สุด การสะกดในหนังสือนี้เป็นการสะกดที่เป็นขั้นเป็นตอน เริ่มจากการผสมเสียงกับสระเดี่ยวห้าตัวครึ่งจนไปถึงสระผสมที่มีความซับซ้อน

ในหนังสือเล่มนี้ได้ออกแบบคำและประโยคที่อ่านให้เหมาะสมและง่ายกับผู้อ่านเริ่มต้นจริงๆ นอกจากนี้ยังมีคู่มือการสอนสำหรับครู และผู้ปกครองที่จะนำไปถ่ายทอดต่อให้นักเรียนและลูกๆ ซึ่งครูและผู้ปกครองสามารถสามารถนำไปประยุกต์ให้เข้ากับแนวทางการสอนของตนและสถานการการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ ถ้าคุณไม่เคยสอนการอ่านให้ใครมาก่อน หนังสือเล่มนี้ได้วางแผนการเรียนการสอนของคุณได้เป็นขั้นเป็นตอนไว้แล้ว