ปานชีวา

ปรมัตถ์ อัครเมคิน หรือคุณชายเก้า ฉากหน้าของเขาคือเจ้าพ่อหนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจบ่อนกาสิโนในอเมริกาและเอเชีย ชายหนุ่มเจ้าสำราญที่ถูกรุมล้อมด้วยสาวๆ มากหน้าหลายตา และปรมัตถ์ก็ติดใจโสเภณีนางหนึ่งเข้าอย่างจัง แต่หล่อนกลับปฏิเสธเขาอย่างไร้เยื่อใย คนไม่เคยถูกปฏิเสธอย่างปรมัตถ์จึงรู้สึกท้าทาย เหมือนถูกปลุกสัญชาตญาณนักล่าให้ฮึกเหิมยิ่งนัก แต่ใครจะไปรู้เล่าว่า หญิงสาวที่เขาคิดว่าหล่อนคือโสเภณีนั้น กลับเป็นคุณหนูขี้โมโห ใจร้อน จอมวีนแตก และไร้เหตุผลเป็นที่สุด แต่ในเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มชอบและหลงใหลหล่อนยากเกินจะถอนตัว อะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ เพราะเขาต้องได้หล่อนมาเคียงคู่ในเร็ววัน โดยที่ปรมัตถ์ลืมคิดไปว่า ฉากหลังนั้น ตนเป็นสมาชิกในองค์กรลับแห่งหนึ่งเพื่อกำจัดพวกมีอิทธิพลซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของโลกภายใต้องค์กรบูรพา และแน่นอน ชีวิตของเขาอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวาเช่นหล่อน ทว่าทุกอย่างก็สายเกินแก้ไปเสียแล้ว เมื่อหัวใจไม่ยอมฟังเหตุผล เอาแต่เรียกร้องหาแต่คุณหนูสาวจอมพยศคนนี้นี่สิ!!

เพราะครอบครัวกำลังจะล้มละลาย ปานชีวา บูรพาพิศาล อดีตคุณหนูจอมเหวี่ยงจึงอาสาใช้หนี้แทนบิดาด้วยการทำงานกลางคืน หญิงสาวสาดเหล้าใส่หน้าปรมัตถ์เพราะความเข้าใจผิด แต่แทนที่เขาจะสั่งเก็บหล่อนโทษฐานทำร้ายเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ เขากลับคอยตามตื๊อขอเป็นแฟนกับหล่อน ความหล่อเหลาของชายหนุ่มพานให้หัวใจของสาวน้อยบริสุทธิ์สั่นระรัว ปานชีวาพ่ายแพ้ต่อมนต์เสน่ห์ที่ยากเกินต้านทานของเขา จนกระทั่งหลงรักผู้ชายดุดัน เอาแต่ใจ ฉลาด สุขุม และรุนแรง หลงรักหรือ? หล่อนบังอาจไปหลงรักเขาได้อย่างไร เมื่อปรมัตถ์คือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอนาคตไกล แต่หล่อนกำลังจะมีอนาคตที่มืดมัวนัก ถ้าเขารู้ว่าหล่อนเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว อีกสักพักเขาก็คงเลิกตอแยไปเอง หากปานชีวาหารู้ไม่ว่า เมื่อเขายกให้หล่อนเป็นผู้หญิงของเจ้าพ่อหนุ่มแล้ว เขาก็จะรักหล่อนเท่าชีวิต เปรียบหล่อนเป็นดั่งปานชีวาของปรมัตถ์ อัครเมคิน!!

“ฟังให้ดีนะปานชีวา ผู้หญิงที่จะเคียงข้างผมต้องไม่ใช้แต่อารมณ์ ไม่เอาแต่ใจ ต้องมองเห็นหัวคนอื่น ไม่ตัดสินใครที่ภายนอก ไม่...”
สาวน้อยยกฝ่ามือขึ้นปิดปากหนาที่ขยับไม่หยุด ผละจากอกกว้างแล้วเงยหน้าสบตาเขา
“เอาแบบสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ รวบรัดอะ ทำเป็นปะ”
ปรมัตถ์ส่ายหัวระอา พูดไม่ทันขาดคำแม่ยอดขมองอิ่มก็เสียมารยาทขัดคออีกละ
“สั้นๆ เหรอ อืม...ไม่งี่เง่าและมีมารยาทอะ ทำเป็นปะ”คนตัวโตเล่นลิ้นบ้าง คนถูกหลอกด่าหน้าคว่ำ ฉับพลันก็ปั้นยิ้มจนตาหยีใส่ดวงตาครั่นคร้ามของอีกฝ่ายเมื่อคิดอะไรดีๆ ออก
“เพคะ หม่อมฉันจะมีมารยาท จะเป็นหมอนให้พระองค์หนุนยามฝัน จะเป็นหมอนข้างให้พระองค์กอดยามนอน จะเป็นนกเอี้ยงคอยเคียงข้างพระองค์...อย่างนี้ดีหรือไม่เพคะ”
คนฟังยิ้มเคลิ้มกับคำหวานก่อนจะหุบฉับเมื่อตีความประโยคสุดท้ายของเธอออก...ว่าเราเป็นควายนี่หว่า แต่...ไม่หรอก เขาจะไม่บีบคอเธอทั้งที่อยากทำใจแทบขาดก็ตาม มันมีวิธีที่ดีกว่านั้น

“ดีมากจ้ะ พี่รักเจ้านะเด็กโง่ ยิ่งโง่ก็ยิ่งรัก อย่าหายโง่นะที่รัก เดี๋ยวพี่ไม่รักนะเด็กโง่”ว่าพลางบีบจมูกรั้นอย่างมันเขี้ยว

สาวน้อยกัดฟันปั้นยิ้มให้เขา พยายามระงับโทสะที่กำลังก่อตัว เอาชนะอีตานี่ไม่เคยได้เลยให้ตายเหอะ!!