วิธีประเมินราคาหุ้นบริษัทจำกัด (ชื่อเดิม "เรียนการเงินเพื่อทำธุรกิจใน 18 วัน")

ผมใช้เวลาเขียนหนังสือเล่มนี้อยู่ 3-4 วัน เห็นจะได้ โดยได้แรงบันดาลใจมา จากข่าวการขายหุ้น SHIN ของครอบครัวท่านผู้นํา ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างว่า 73,000 ล้านบาท ที่ขายในตลาดหุ้น ทําไมไม่ต้องเสียภาษี

SHIN เป็นหุ้นที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย มีมูลค่าหุ้นที่กําหนด 1 บาท/หุ้น มีราคาขายให้กับกองทุนเทมาเส็ก 49 บาทหุ้น หลายคนคงแปลกใจว่า ทําไมหุ้น SHIN เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้นมากมายถึง 48 บาท/หุ้น

อาการอิจฉา...เอ๊ยไม่ใช่ อาการของคนที่สงสัยว่า ทําไมราคาขายหุ้นจึงได้สูงถึง 49 บาทหุ้น แล้วถ้าหากเราจะเลียนแบบการทําธุรกิจ ซึ่งในวันหนึ่ง เราจะขาย หุ้นให้มีกําไรอย่างมากมาย เอาแบบให้เกิดอาการรวยเสียให้เข็ด คนธรรมดา อย่างเราที่ทําธุรกิจในรูปบริษัทจํากัดทั้งที่อยู่ในตลาดหุ้น และไม่ได้อยู่ในตลาด หุ้นอย่าง SMEs ทั่วฟ้าเมืองไทยจะเลียนแบบและเอาอย่างบ้างได้ไหม เพื่อจะได้รวยกันได้อย่างทั่วหน้า

ประเด็นความสงสัยตรงนี้เป็นสาระหลักของหนังสือ ที่จะอธิบายถึงวิธีการที่ทฤษฎีการเงินถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกําหนดราคาหุ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เอาความเชื่อมั่นว่า กิจการจะสร้างกองเงินจากการทําธุรกิจได้ใหญ่โตมโหฬาร ใหญ่โตเท่าภูเขาเลากามารวมคํานวณอยู่ในราคาหุ้นที่จะขายออกไป ไม่ว่าจะ ขายทิ้งหุ้นที่ตนเองถือครองอยู่เดิมอย่างกรณีหุ้น SHIN และการขายหุ้นเเพิ่มทุนเพื่อระดมเงินทุนเข้าสู่บริษัท

ราคาหุ้นไม่ว่าจะขายในกรณีใดตามที่กล่าวล้วนมีที่มาจากทฤษฎีการเงินเดียวกัน ซึ่งได้แก่ ทฤษฎีการคิดราคาหุ้นด้วยวิธีการกระแสเงินสดส่วนลด หรือพูดอย่างโก้เก๋ว่า วิธีการ Discounted Cash Flow หรือ DCF

วิธีการนี้นี่เองเป็นเรื่องที่ถ้าหากคนทําธุรกิจเข้าใจวิธีการ เขาสามารถจ ทางลัดได้โดยไม่จําเป็นที่จะต้องรอให้ธุรกิจประสบความสําเร็จ 100% เช่น ท่านทําธุรกิจมาซักระยะหนึ่ง ดําเนินงานได้เป็นไปตามแผนธุรกิจทุกประการ ก่อเกิดเงินเพิ่มพูนขึ้นจากการทําธุรกิจอยู่ทุกปี จนคนอื่นๆ ที่เฝ้ามอง อาการน้ําลายหก เพราะเห็นกิจการรวยเอารวยเอา งานนี้เขาจึงเกิดอาการ อยากได้กิจการของท่านมาเป็นเจ้าของ หรืออยากจะขอเข้ามามีเอี่ยวใน กิจการของท่าน เพื่อจะร่วมแบ่งปันความร่ำรวย

กรณีความเชื่อว่ากิจการจะเกิดกองเงินใหญ่โตมโหฬาร ส่งผลให้กองเงินดัง กล่าวถูกนํามารวมคํานวณเป็นราคาหุ้นด้วย ทั้งๆ ที่กองเงินที่เกิดจากการทำธุรกิจนี้ยังไม่ได้เกิดจริง แต่แค่เพียงความเชื่อเท่านั้น กองเงินที่ยังได้ กลับกลายเป็นเงินจริงๆ ให้ท่านได้จับต้องได้ในทันที

หลักคิดที่กล่าวตะกี้เป็นเรื่องที่ท่านผู้นําชอบพูดอยู่เสมอว่า ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นเงินได้

กระดาษคืออะไร....ตอบว่ากระดาษก็คือแผนธุรกิจที่ประกอบไปด้วยประมาณ
การกระแสเงินสด หรือ Cash Flow Projection ที่บ่งบอกไปในอนาคตว่า กิจการจะมีเงินสดรับเข้ามากกว่าเงินสดจ่าย ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ที่งอกเงยเพิ่มขึ้นตลอดเวลาทุกปี

ตลอดระยะเวลาของการคาดการณ์กองเงินที่เกิดขึ้นบนเศษกระดาษ แล้ว ปรากฏว่ามีคนเชื่อ และคนเชื่อคนนั้นเป็นนักธุรกิจเป็นนักลงทุน งานนี้จึงเกิดการซื้อกิจการ ซื้อหุ้น ขายหุ้นเพิ่มทุน การเปลี่ยนมือในธุรกิจจึงเกิดขึ้นตลอดเวลา และนี่คือวัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ที่สอนท่านถึงเรื่องว การในการเสกกระดาษให้เป็นเงินอย่างที่ท่านสามารถจะทําความเข้าใจเพื่อเลียนแบบได้

ปิดท้ายคํานํานี้อาจมีหลายท่านตั้งคําถามถามว่า แล้วบริษัทจํากัดที่เป็นกิจการ เล็กๆ ไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก สามารถจะใช้วิธีการเช่นนี้ได้เหรอ ขอตอบว่า ได้ เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทยมาตรา 1105 บัญญัติไว้ชัดเจนให้บริษัทจํากัดขายหุ้นให้กับนักลงทุนอย่างมีส่วนเกินมูลค่าได้ เช่น 10 บาท/หุ้น ขายที่ 90 บาท/หุ้น หลายท่านอาจจะตั้งคําถามถามต่อ ว่าทําไมเรื่อง นี้ไม่รู้กันอย่างแพร่หลาย ขอตอบว่า เจ้าของกิจการไม่รู้ว่ากฎหมายได้ให้ โอกาสไว้ เพราะความไม่รู้นี้เองจึงกลายเป็นข้อจํากัดของการสร้าง SMEs ให้เติบใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อรู้ว่า SMEs ก็ดําเนินการในลักษณะเช่นเดียวกับครอบครัวท่านผู้นําที่ขายหุ้น SHIN ได้ งานนี้ความอิจฉาก็จะหมดไป เพราะท่านกําลังจะดําเนินรอยตาม

ความร่ำรวยไม่ว่ามาจากการขายหุ้นทิ้งบางส่วนหรือทั้งหมด จนตัวเองกลาย เป็นเศรษฐี หรือความร่ำรวยของบริษัทจากการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบมีส่วนเกินมูลค่า เป็นเรื่องที่หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการให้กับท่านอย่างทะลุปรุโปร่ง

ชาย กิตติคุณาภรณ์
www.fpmcource.com
www.advicefpm.com
E-MAIL : sumrej2011@gmail.com