คู่มือจับลูกหนี้ติดคุก (ชื่อเดิม "กู้แล้วโกง เขาทำกันอย่างไร")

เขาหลับตาแล้วหวนย้อนกลับไปนึกถึงวันคืนที่เขาวางแผนเอาเงินกู้จาก ธนาคารมาใช้ ว่าทําอย่างไร เขาจะได้ไม่ต้องใช้เงินกู้คืน การล้มบนฟูกเป็น ปริศนาคาใจเขามานาน ว่ามันมีวิธีการอย่างไรจึงจะได้ฟูกก้อนโตๆ มาเป็น เจ้าของ

เขาขวนขวายค้นคว้าอยู่นานหลายปี จนวันหนึ่งเขาจึงพบว่า การล้มบนฟูกเป็นเรื่องของคนทําธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและแม่นยําในข้อกฎหมาย เขาสามารถจะใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือให้เขาล้มบนฟูกได้ โดยธนาคารหมดสิทธิที่จะเล่นงานเขา

ไม่เพียงแค่การคิดที่จะทําให้ธนาคารเจ็บช้ําน้ําใจ เขายังคิดที่จะทําให้เจ้าหนี้การค้า ซึ่งเป็นอะไรที่โกงง่ายที่สุดยินยอมที่จะลดหนี้ให้กับเขาในจํานวนเยอ หรือถ้าหากเขายังมีจิตใจที่เมตตาอยู่ เขาอาจจะสอนเจ้าหนี้การค้าว่า การให้โดยไม่หวังว่าจะได้รับสิ่งตอบแทนเป็นเรื่องของคนดีที่จะพบซึ่งความจริง ความสงบเย็น ดังนั้นอย่าได้เอาเงินค่าสินค้าคืนเลยซักบาท

ทั้งธนาคารและเจ้าหนี้การค้าต่างอยู่ในหัวอกเดียวกัน ตรงที่ถูกลูกหนี้ปฏิบัติการโต้ตอบอย่างเลือดเย็น ทําให้สถานการณ์ที่เจ้าหนี้ตกเป็นต่อในวันเริ่มปล่อยเงินกู้กลายเป็นว่าตกเป็นรองทันที หลังจากที่ลูกหนี้นําเงินกู้ไปใช้เรียบร้อยแล้ว

กู้แล้วโกงเขาทํากันอย่างไรเป็นเรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้ การเปิดเผยใดๆ ทําให้เหตุการณ์กู้แล้วโกงนี้ยังคงอยู่คู่กับโลกใบนี้ไปอีกนาน มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่ถ้าหากคนกู้เงิน คนทําธุรกิจ จะมีปัญญาแบบเฉโกรู้ลึกแบบชนิดที่รวมศาสตร์ได้ว่า คนคนหนึ่งที่สามารถเข้าใจธุรกิจของตนเอง เข้าใจข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการกู้เงิน การโกงเจ้าหนี้ เข้าใจเรื่องราวทางบัญชี และหลักปฏิบัติทางภาษี จะกลายเป็นคนที่โกงเก่งที่สุดคนหนึ่ง และคนแบบนี้นี่เองที่ใครๆ ชอบพูดว่า มันล้มบนฟูก

หนังสือเล่มนี้จะเปิดเผยวิธีการล้มบนฟูกว่ากระทํากันอย่างไร มุมหนึ่งอาจดูเหมือนเป็นการชี้นําให้โจรรู้ช่องทางปล้นบ้านใครต่อใคร แถมยังชี้ช่องให้ เอาอาวุธมาปล้นด้วยอีกต่างหาก แต่หากคนมองในอีกมุมหนึ่ง มันเป็นการบอกกับเจ้าหนี้ทั้งหลาย ว่าเมื่อกระทําการใดๆ จนเกิดลูกหนี้ขึ้น ขอให้รู้เรื่องการโกงทุกเรื่องตามที่เขียนเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้อาจเกิดขึ้นได้ หรือกําลังเกิดขึ้นอยู่โดยที่ธนาคารและเจ้าหนี้การค้าไม่รู้ตัวเลยซะด้วยซ้ํา

อุทธาหรณ์สอนใจสําหรับหนังสือเล่มนี้ แม้จะถูกมองว่าเป็นดาบสองคม ก็อยู่ที่สติปัญญาของท่านผู้อ่านจะใคร่ครวญคิด มันคงไม่ต่างอะไรจาก หนังชีรีส์ยอดฮิต..CSI ซึ่งมุมหนึ่งก็สอนฆาตกรให้รู้จัก วิธีการฆ่าที่มากขึ้น และในอีกมุมหนึ่งก็สอนคนดีให้รู้จักตามให้ทันฆาตกรที่ไม่ธรรมดา ซึ่งสุดท้ายของผลลัพธ์ก็จบลงตรงที่ ใครรู้ลึก รู้ละเอียดไรๆ และเข้าใจอะไรๆ มากกว่ากัน คนนั้นก็เป็นผู้ชนะ และเช่นกันหนังสือเล่มนี้ก็ประสงค์จะให้คนดี เป็นผู้ชนะ

คุณงามความดีของหนังสือเล่มนี้ ขอมอบให้แด่แม่ที่จากไปไกล และอย่าลืมนะแม่ มารับผมไปอยู่ด้วยเมื่อวันนั้นมาถึง

ชาย กิตติคุณาภรณ์
www.fpmcource.com
www.advicefpm.com
E-MAIL : sumrej2011@gmail.com