การจัดการบริษัทที่โครงการ MBA ไม่เคยสอน

ผมเขียนคํานําของหนังสือเล่มนี้ในบ่ายของวันอาทิตย์ที่ท้องฟ้ากําลังโกรธกริ้ว มีเสียงฝนดังขู่ตลอดเวลา บรรยากาศในขณะนี้ช่างดีจริงๆ ครับ

การออกตัวเพื่อจะกรุยทางสู่การทําความเข้าใจในเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ และประโยชน์ที่ท่านผู้อ่านจะได้รับ เป็นเรื่องที่จําต้องได้รับการกล่าวถึงหนังสือเล่มนี้มีชื่อที่ผมคิดขึ้นเองว่า “การจัดการบริษัทที่โครงการ MBA ไม่เคยสอน” มันถือได้ว่าเป็นหนังสือในซีรีส์ของชายชราสอนการจัดการสากล ซึ่ง ณ ขณะนี้ ซีรีส์ของหนังสือในชุดนี้ก็มีด้วยกันถึง 5 เล่มแล้ว (รวมเล่มนี้)

สําหรับเล่มนี้ที่บอกกับท่านว่าผมตั้งชื่อ “การจัดการบริษัทที่โครงการ MBA ไม่เคยสอน” เป็นเจตนา เป็นความตั้งใจของผมโดยเฉพาะที่อยากจะโจมตีโครงการ MBA ทั้งหลาย ว่าถึงเวลาแล้วที่ท่านผู้มีอํานาจจะได้พยายาม หรือริเริ่มที่จะทําการปรับหลักสูตร เพื่อให้หลักสูตร MBA สามารถที่จะนําไปใช้ในแง่ของการบริหารและจัดการธุรกิจได้จริง ไม่ใช่ว่าเก่งแต่ฟอร์มและภาพพจน์ผู้ดี สุดท้ายแล้วจบออกมาทําธุรกิจไม่เป็น หรือหากจะทําเป็น ก็ทําเป็นแบบไม่ค่อยครบ 100% ทําเป็นแบบพิกลพิการ ทําเป็นแบบไม่เข้าใจ ว่าที่สุดของความถูกต้องในการจัดการธุรกิจนั้นเป็นเช่นไร จริงๆ แล้วแค่ใส่วิชากฎหมายว่าด้วยการจัดการธุรกิจเข้าไป และสอนพวกเขาถึงกรณีศึกษาที่เหล่านักธุรกิจได้กระโดดลงไปแย่งชิงผลประโยชน์ดูไม่ต่างอะไรจากหมาที่กัดกัน ซึ่งผลสุดท้ายของกรณีศึกษาเหล่านั้นมีตอนจบเป็นเช่นไร ...หลักกฎหมาย ...หลักธรรม คําสอนของพระพุทธเจ้าที่นํามาประยุกต์กับวิชาบริหารธุรกิจสาขาต่างๆ ดี และวิเศษกว่า ทฤษฎีที่ปรากฏในตําราต่างประเทศเป็นไหนๆ ทําไมเหล่าคนเรียน MBA ไม่สนใจ กลับจะไปสนใจตําราภาษาอังกฤษที่ถือกันอย่างดูเท่ห์และโก้หรู มากกว่าจะเห็นคุณค่าของเนื้อหาในตํารา ซึ่งเมื่อใกล้สอบก็อ่านชีทที่เพื่อเล็คเชอร์ในห้องเรียนเป็นหลัก และสุดท้ายก็จบการศึกษาได้ดีกรี MBA ออกมากลายเป็นมหาบัณฑิต

ผมเป็นคนหนึ่งล่ะครับที่สนับสนุนการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นทางเดียวที่ ฝึกฝนบ่มเพาะสติปัญญาของคนให้กรุยทางไปสู่การค้นหาพระเจ้าได้ ...พระเจ้า ที่หน้าตาเหมือนกับตัวเราเองเปี๊ยบ การศึกษาจะพาให้คนค้นพบสัจจะความ จริงอันเป็นหนทางที่หลุดพ้น และเป็นสิ่งสูงสุดที่คนทุกคนจะพึงได้รับต่อเมื่อ เกิดขึ้นมาแล้วบนโลกใบนี้

การศึกษาที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะพาให้คนเราเข้าใจ ได้เข้าใจถึงวิธีการในการบริหารและจัดการธุรกิจ ว่าวิธีการของมันเป็นเช่นไร รายละเอียดทุกซอกทุกมุมที่คนทําธุรกิจต้องรู้มีอะไรบ้าง การพึ่งพิงตัวเองคืออะไร การเป็นทั้งนักการเงิน นักกฎหมาย นักบัญชี และนักภาษีอากรเบ็ดเสร็จอยู่ในตัวเอง และมีธรรมที่เป็นวิทยาศาสตร์คอยเป็นตัวเชื่อมศาสตร์ทั้ง 4 สาขานี้เป็นอย่างไร ...จะสร้างให้เกิดขึ้นในตัวเองได้อย่างไร ...ทําไมคนทําธุรกิจจึงไม่พยายามรู้ ให้ลึกซึ้งต่อปัญหา และสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วเฝ้าพยายามเรียนรู้วิชาเคล็ดลับอันนําไปสู่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และหลังจากนั้นปัญหาก็จะจบกันไป ทําไมคนทําธุรกิจจึงไม่เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และฉลาดขึ้นทุกทีจากความผิดพลาดนั้น.... ทําไม… ทําไม.. ทําไมคนทําธุรกิจส่วนใหญ่ต้องเผชิญชะตากรรมที่ไม่ต่างอะไรจากการรับกรรมดีๆ นี่เอง ชีวิตของพวกเขาเกิดมา เหมือนกับว่าจะรับกรรม เออ..ไม่ใช่ซินะ มันเป็นการรับกรรมจริงๆ

การจัดการบริษัทที่โครงการ MBA ไม่เคยสอนเล่มนี้คงช่วยท่านได้มากในการ จุดประกายความคิดที่จะสร้างและบริหารจัดการธุรกิจของท่านให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด หรือหากท่านเดินเจอหลุมลึก เจอกับดักอยู่แล้ว หนังสือเล่มนี้ก็สามารถช่วยท่านได้ ...โดยส่วนตัวผมคิดกับหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นผลึกทางความคิดที่สร้างขึ้นจากหลักวิชาควบรวมประสบการณ์ ผสมผสานด้วยจิตวิญญาณ (ธรรมของพระพุทธเจ้าที่เป็นวิทยาศาสตร์) ทําให้ผมได้ค้นพบความจริงที่ไม่เปลี่ยนต่อวิธีการที่ว่า ทําอย่างไรธุรกิจที่รักดั่งดวงใจจึงจะประสบความสําเร็จได้

ก่อนจากกันไปก็คงขอยืนยันกับท่านว่า ผลึกทางความคิดที่ถ่ายทอดออกมาสู่หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นความจริงที่ไม่เปลี่ยน และไม่มีสอนใน MBA ครับ

คุณงามความดีของหนังสือเล่มนี้มอบให้แด่แม่ที่ผมยังคงคิดถึงอยู่เสมอ

ชาย กิตติคุณาภรณ์
www.fpmcource.com
www.advicefpm.com
E-MAIL : sumrej2011@gmail.com