ไม่เรียน MBA แต่เก่ง

บนเส้นทางสายชีวิต ผ่านขวากหนามเกี่ยวเนื้อหลุดไปมากมาย ทุกคนล้วนมีบาดแผล ฝากเอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ...แผลเป็นบางแผลนั้นสวยงาม บางแผลบางคนอยากไปทําศัลยกรรม

บนเส้นทางสายธุรกิจผ่านทางแยกมากมาย หลายคนหลงเดินผิดทางหลงลึกไปในห้วงแห่งทิฐิของตนเอง ปัญหาจึงโยงใยกันยิ่งกว่าปมเชือกที่ถูกผูกหลายซับหลายซ้อน

บนเส้นทางสายชีวิตและธุรกิจ ผ่านกาลเวลาที่มืดมน เฝ้าเพียรพยายามค้นหาแสงสว่างที่ปลายทาง จนถึงที่สุดแห่งการเจ๊ง จึงรู้ว่าแสงสว่างนั้นติดตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา

ธรรมชาติของทุกสรรพสิ่งยืนยันและสอนความจริงอย่างชัดเจนว่า เมื่อใดคนมี รูปแบบ มีฟอร์มมีความเป็นผู้ดีจอมปลอมมากเกินกว่าเหตุ คนคนนั้นกําลังถือทิฐิ (ความยึดมั่นถือมัน) เมื่อนั้นสมองจึงไม่มีสิทธิดี

วกกลับเข้ามาสู่เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้ ที่มีชื่อว่า ที่ปรึกษาสอน...ไม่เรียน MBA แต่เก่ง เป็นความพยายามของผมเองที่จะบอกกับท่านว่า คนเรานั้นไม่ได้เก่งจากการเรียนในตํารา แต่คนเรานั้นต้องเก่งจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ความจริงที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และอะไรล่ะที่จะทําให้เราเข้าใจชีวิตได้ดีเหลือเกิน ก็คงตอบว่า ความผิดพลาดทั้งหลายทั้งปวงนั่นเอง

หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกท่านเก่งกับการดําเนินธุรกิจ เก่งกับการจัดการ เก่งกับการวิเคราะห์ เก่งกับหลายๆ หลักวิชา อันต้องถูกหยิบยกมาใช้ในธุรกิจ ...ทั้งหมดทั้งสิ้นของความเก่งไม่ปรากฏว่ามีการเรียนการสอนให้เกิดการ ตระหนักระลึกได้อย่างสุดซึ้งในรั้วมหาวิทยาลัยที่แข่งกันเปิดสอน MBA

เมื่อวัตถุประสงค์ของหนังสือเป็นดังนี้ ท่านก็คงรู้ทันทีว่า เรื่องราวของเทคนิควิธีปฏิบัติจะปรากฏอย่างเต็มเพียบในหนังสือเล่มนี้ และมันคงจะช่วยให้ท่านกดปุ่มแสงสว่างได้ที่ตัวของท่านทันที (แสงสว่างที่ปลายทางจึงไม่จําเป็นซักเท่าใด เพราะท่าน เรืองแสงได้ด้วยตัวของท่านเอง... ธุรกิจของท่านจึงรอดและสําเร็จสู่ความร่ํารวยได้จริง)

ส่วนเนื้อหาของหนังสือกล่าวถึงเรื่องอะไร ก็ขออนุญาตให้ท่านพลิกดูที่สารบัญ ท่านก็จะได้คําตอบว่า หนังสือเล่มนี้ควรจะวางไว้บนชั้นขายหนังสือต่อไปหรือไม่

คุณงามความดีของหนังสือเล่มนี้ ผมขอมอบให้แม่ของผมที่จากไปไกล คนที่ผมรักทุกคน และท่านทั้งหลายที่พยายามจะหลุดพ้นจากทุกข์ให้ได้

ชาย กิตติคุณาภรณ์
www.fpmcource.com,
www.advicefpm.com,
E-MAIL : sumrej2011@gmail.com