กรณีศึกษาการบริหารการเงิน (ฉบับสมบูรณ์)

5 ปีเห็นจะได้แล้วครับที่หนังสือกรณีศึกษาการบริหารการเงิน (ฉบับสมบูรณ์) ได้เขียนเสร็จ แล้วออกสู่สายตาของประชาชนของนักธุรกิจของคนที่มาเรียนหนังสือกับผม

หนังสือเล่มนี้โดยข้อเท็จจริงหมดไปจากท้องตลาดนานมากแล้ว และก็มีหลายคนถามถึงเป็นระยะๆ ว่าเมื่อไรจะทําการพิมพ์ใหม่ พวกเขาอยากจะอ่านเรื่องบางเรื่องที่ดูเป็นคติสอนใจ และเรื่องอีกหลายเรื่องในหนังสือเล่มนี้ที่ดูเหมือนจะออกนอกเรื่องของการบริหารการเงินแต่ได้คุณค่าทางความรู้สึก สะกิดเตือนให้คนอ่านได้เข้าใจและคิดได้ต่อเรื่องราวของชีวิตเพิ่มเติม ดูๆ แล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกันเลยกับเนื้อหาของการบริหารการเงิน แต่คงเป็นเพราะคนเขียนเขียนหนังสือเล่มนี้เมื่ออายุยังน้อย เมื่อชีวิตยังไม่ถึงจุดที่เก๋าพอ หนังสือก็เลยออกมาอย่างที่ท่านเห็น คือเมื่อผมอ่านมันซ้ําดูอีกทีหลังจากไม่ได้อ่านมา 5 ปีเห็น ผมกลับ จะไม่ค่อยพอใจในผลงานเขียนซักเท่าไร ไม่พอใจทั้งแนวของการดําเนินเรื่องคําอธิบายที่ปรากฏตลอดจนการสรุปเนื้อหาที่พาให้ท่านไม่ต้องปวดหัว

การไม่พอใจหนังสือเล่มนี้ตามที่กล่าวไป ผมก็มานั่งทบทวนดูว่า บางทีผู้อ่านบางท่านอาจจะโมโหอาจจะโกรธ ตรงที่มันเขียนอะไรของมันวะ ด้วยเหตุตามที่ผมกล่าวไปก่อนหน้านี้ แต่บางท่านก็อาจจะอมยิ้มและชอบ กับเรื่องราวที่อ่านแล้วชวนให้ต้องคิดต่อ ว่าผู้เขียนต้องการสื่อสารอะไร บางทีการคิดต่ออาจก่อให้เกิดจินตนาการต่อเรื่องราวของธุรกิจของชีวิตได้มากมาย เพราะหนังสือเล่มนี้หากจะบอกว่ามีดีอยู่อย่างหนึ่งที่สําคัญ คือหนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนังสือในยุคที่ 2 ของการทําธุรกิจ ส่วนตัวของผมหลังจากที่ประสบกับวิกฤติสถานการณ์เจ๊ง หนังสือเล่มนี้จึงปรากฏปริศนาอะไรแปลกๆ ในหลายๆ ประเด็น มันเหมือนกับว่า ผมอยู่ระหว่างการรู้สึกถึงการบริหารธุรกิจที่ใช้พลังขับเคลื่อนมาจากภายใน ซึ่งก็คือเรื่องของธรรมตามที่เป็นจริงตามที่พิสูจน์ได้ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ตามที่ปรากฏคําสอนในศาสนาพุทธว่า สูงสุดของความ สําเร็จของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ทุกคนต้องพึ่งพิงตนเอง ทุกคoต้องสร้างตนให้กลายเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ ประเด็นที่สําคัญในส่วนนี้ ผมเริ่มสัมผัสได้ หลังจากสร่างเมาจากอาการเจ้ง ด้วยเหตุนี้เอง ถ้าจะบอกกับท่านว่า หนังสือเล่มนี้มันก็มีเสน่ห์ของมันตรงที่การอธิบายภาพของการทําธุรกิจ ด้วยงบการเงินเริ่มไม่แข็งที่อ เริ่มที่จะมีสีสัน มีชีวิตชีวา เริ่มที่จะอธิบายให้ท่านเข้าใจได้อย่างเห็นภาพที่ชัดเจนได้ในระดับหนึ่ง

ภาพชัดที่ว่าอาจจะส่งผลต่อความรู้สึกของผู้อ่านที่คิดจะทําธุรกิจ ว่าภาพที่เกิดขึ้นในจิตจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ มันเป็นภาพที่คล้ายๆ กับว่าธุรกิจกับชีวิตของท่านหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันแบบแยกจากกันไม่ออก ในภาวะแบบนี้มันคล้ายกับเป็นการนําไปสู่การบริหารและจัดการธุรกิจให้ประสบความสําเร็จได้อย่างไร

หนังสือเล่มนี้แม้ว่าผมอยากจะแก้ไขให้มันอ่านแล้วสามารถทําความเข้าใจได้ตรงไปตรงมาแบบ 100% แต่มันก็อาจจะเสียอรรถรสในการเป็นหนังสือที่ได้รับอิทธิพลจากความรู้สึกของผมเอง ดังนั้นผมจึงตัดสินใจ ไม่แก้ไขเลยจะดีกว่า เพื่อเก็บเอาไว้ให้เป็นที่ระลึกกับตัวของผมเองกับสมาชิกของบริษัทที่เฝ้าติดตามหนังสือของบริษัทมาโดยตลอด หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนกับงานเพลงเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้ศึกษาควบคู่ไปกับการได้สัมผัสกับร่องรอยของอารยธรรมทางความคิดของ FPM CONSULTANT ในอดีต ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบการเงิน และการบริหารการเงิน

กลับมาสู่หนังสือเล่มนี้กัน หนังสือได้บอกให้คนที่สนใจจะทําธุรกิจเข้าใจงบการเงินอันได้แก่ งบดุล และงบกําไรขาดทุน ด้วยธรรมชาติของ ธุรกิจที่เป็นจริง....การเข้าใจงบการเงินมีความหมาย เท่ากับว่า ท่าน สามารถจะอ่านและวิเคราะห์งบการเงินได้ มันเป็นการอ่านที่ทําให้ท่าน เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกิจการของท่าน เมื่อท่านอ่านและเข้าใจมันแล้ว ท่านก็สามารถจะคิดหาหนทางการแก้ปัญหาเพื่อพาให้กิจการของท่านหายจากอาการป่วย แล้วก้าวเดินต่อไปในเส้นทางสายธุรกิจได้อย่างสําเร็จงดงาม

เนื้อหาของหนังสือนอกจากอธิบายหลักทฤษฎีทางการเงินที่เรียนกันใน รั้วมหาวิทยาลัย ยังอธิบายเพิ่มเติมให้ประเด็น และชี้แนะเรื่องที่ต่อยอดจากความเข้าใจในเชิงทฤษฎีให้มาสู่ความเข้าใจในเชิงปฏิบัติ ซึ่งเป็นความเข้าใจในฐานะเจ้าของธุรกิจที่แสนจะเก่งการบริหารการเงิน

ท้ายนี้คงขอจบการโม้ต่อหนังสือเล่มนี้เอาไว้เพียงแค่นี้ ดีใจเหลือเกินครับ ที่สร้างหนังสือเล่มนี้ให้เป็นหนังสือที่พิมพ์ใหม่ โดยไม่ได้แก้ไขใดๆ เลยหวัง ว่าหนังสือจะให้สิ่งดีๆ กับท่านไม่มากก็น้อย ในส่วนบางตอนที่ท่านอ่านแล้วไม่รู้เรื่องขอได้โปรด E-mail เข้ามาด่า และถามกันที่ E-mail ได้ครับ

ชาย กิตติคุณาภรณ์
www.fpmcource.com,
www.advicefpm.com,
E-MAIL : sumrej2011@gmail.com