นักลงทุนหุ้นแนว VI ฉบับหมดเปลือก

คำนำ
หนังสือเล่มโตมโหฬารนี้มีชื่อว่า "นักลงทุนหุ้นแนว VI ฉบับหมดเปลือก" ชื่อหนังสือก็สื่อความชัดเจนมากว่า หนังสือมีเนื้อหาสอนคนให้เป็นนักลงทุนหุ้นแนว VI

จากประสบการณ์การลงทุนหุ้นของผมเองตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี ที่ไม่เคยหยุดการเรียนรู้เรื่องการลงทุนในหุ้น โดยมีเจตนามุ่งมั่นว่า ต้องเอาชนะหุ้นให้ได้ จะไม่มีทางเดินออกจากตลาดหุ้นแบบยกธงขาวอย่างผู้แพ้เด็ดขาด

เวลาที่ผ่านไปเนิ่นนานจากวันแรกที่ย่างเท้าเข้าสู่ตลาดหุ้น แบบไม่รู้อะไรเลย รู้เพียงแต่ว่าตลาดหุ้นมีทองให้ผมขุด ผมจะเข้าไปขุดทอง ถ้าผมขุดทองได้ ผมจะกลายเป็นคนรวย ใจที่ปรารถนาจะเป็นคนรวยในทุกลมหายใจเข้าออก ได้กระโดดถีบผมให้ถล่ำเข้าไปสู่ความหายนะ สิ่งที่คิดเอาไว้ว่าจะรวยกลับไม่รวย แถมมันยังให้ผลลัพธ์เป็นการเจ๊งเงินลงทุนมากมาย ทำมาหาได้สายตัวแทบขาดตลาดหุ้นเอาไปหมด แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ผมจึงลุกขึ้นสู้ สู้ แล้วก็สู้

การสู้ของผม เริ่มจากการกลับไปตั้งคำถามว่า ทำไมมีคนลงทุนที่ประสบความสำเร็จตลอดเวลา เล่นหุ้นตัวใดก็รวย แล้วทำไมเราและใครๆ ที่ยากจนไม่มีเงินทุนมาก ทำไมเล่นอะไรก็เจ๊ง มันจะต้องมีความลับอะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆ ความลับนี้หากนำมาปฏิบัติตามคนที่เล่นหุ้นแล้วรวยตลอด ตัวผมเองก็ต้องรวยได้เหมือนกับเขา

วอร์เรน บัฟเฟตต์ และปีเตอร์ ลินซ์ สองคนนี้ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นนักลงทุนหุ้น VI ตัวพ่อ หากใครอยากรู้ความลับต้องเรียนรู้วิธีจับนักลงทุนระดับโลก สองคนนี้ ซึ่งเมื่อศึกษาลงไปในวิธีการจะพบว่าทั้งสองคนไม่นิยมการเล่นหุ้นระยะสั้น หลงใหลการเล่นหุ้นระยะยาว แล้วจะไม่ยอมใช้คำว่า "เล่นหุ้น" แต่จะใช้คำว่า "ลงทุน" ตลอดเวลา

จะรวย จึงต้องลงทุน ไม่ใช่เล่น เพราะการลงทุนเปรียบเหมือนการเลือกไม้ผลพันธุ์ดี จะกินตอนมาปลูก แล้วรอคอยอย่างมีความสุขให้ต้นไม้โตขึ้น โดยตลอดระยะเวลาที่รอคอย สองคนนี้จะประเมินการเจริญเติบโตของต้นไม้ว่า ตกลงมันใช่ไม้ผลพันธุ์ดีที่จะให้ผลอย่างงามในอนาคตอันใกล้หรือเปล่า ถ้าประเมินออกมาใช่ จะรอคอยต่อไป ซึ่งเป็นการรอคอยที่รู้กำหนดเวลาการออกดอกออกผลของต้นไม้ต้นนี้ด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงทั้งสองคนนี้รู้ธรรมชาติของต้นไม้ที่ตัวเองปลูกเป็นอย่างดี

ถ้าเทียบเคียงว่าต้นไม้เป็นหุ้น งั้นต้องหมายความว่าคนลงทุนต้องเลือกหุ้นดี ในอนาคตจะสร้างกำไรที่มากขึ้นทุกปี ทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ โดยตลอดเวลาทั้งก่อนและหลังการลงทุนซื้อหุ้นไป ต้องประเมินผลงานของหุ้นว่า ทำมาค้าขายเข้าเป้าและประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังเอาไว้หรือไม่ ซึ่งการประเมินหุ้น ก็คือ การมีความสามารถที่จะวิเคราะห์งบการเงินในปัจจุบัน และคาดการณ์งบการเงินที่จะออกมาในอนาคต เพื่อตอบคำถามบรรทัดสุดท้ายว่า ตกลงแล้วกำไรสุทธิต่อหุ้นหรือ EPS โตขึ้นเท่าไหร่จากปีก่อน ถ้าโตขึ้น หุ้นขึ้น ถ้าโตขึ้น 100% หุ้นขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์

การลงทุนหุ้นแนว VI จึงมุ่งหวังกำไรจากราคาหุ้นแบบมโหฬารเป็นหลัก 100% ไม่ใช่แค่ต้องการไม่กี่เปอร์เซ็นต์แล้วก็ขายทิ้ง แบบการเล่นหุ้นที่ใช้เครื่องมือทางเทคนิค (ดูกราฟ) ที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับพื้นฐานของหุ้น ที่ต้องดูจากงบการเงิน ข้อมูลการลงทุนในอดีตถึงปัจจุบัน และการทำนายอนาคตของผลประกอบการ เสน่ห์ของการลงทุนหุ้นแนว VI ที่สามารถทำกำไรให้กับคนลงทุนได้เป็นหลัก 100% ต้องการเวลาที่คนลงทุนต้องยอมรับการรอคอยให้ราคาหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ ตามกำไรสุทธิต่อหุ้นหรือ EPS ที่โตขึ้นทุกปี ด้วยเหตุนี้เองหากจะเปรียบการลงทุนแนว VI ว่าเป็นเหมือนการหมักบ่มไวน์เกรดดีชั้นเลิศ ซึ่งสามารถขายได้ขวดละเป็นแสน หรือการสร้างงานศิลปะชั้นเลิศ พี่สามารถขายภาพเขียนได้เป็นมูลค่าหลายล้านที่ต้องอาศัยจิตใจที่มีความพิเศษ ในเรื่องของความรัก ความพิถีพิถัน ความเอาจริงและความสงบ ซึ่งความพิเศษของจิตใจนี้ถูกรวมเรียกว่า ศิลปะ
การลงทุนหุ้นแนว VI ให้ประสบความสำเร็จจึงไม่ได้ใช้ศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่กลับต้องใช้ศิลปะผสมร่วมด้วย ซึ่งสำหรับผมแล้ว หากสร้างสถานการณ์สาดให้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับศิลปะได้ ชีวิตของคนลงทุนจะมีความสุขมาก เพราะการลงทุนจะเหลือเวลามากมายเหลือเกิน เพื่อเอาเวลาที่เหลือนั้นไปทำอย่างอื่น

อย่างอื่นที่ว่านั้น ผมอยากให้นึกถึงเรื่องการงานอาชีพ หรือสัมมาอาชีพในมรรคมีองค์แปดที่สามารถสร้างรายได้หล่อเลี้ยงชีวิตและครอบครัว ทำให้คนลงทุนมีชีวิตที่มีสมาธิ มีสติ และระลึกรู้ต่อเป้าหมายที่ตัวเองต้องเดินทางไปให้ถึง โดยระหว่างทางได้สร้างกิจกรรมการลงทุนหุ้นเอาไว้ให้ชีวิตมีสีสัน และวันหนึ่งหุ้นที่ลงทุนเอาไว้ได้กลายเป็นเครื่องจักรปั๊มเงินก้อนโตให้ชีวิต สามารถพลิกจากคนธรรมดากลายเป็นเศรษฐีได้ นี่คือรูปแบบและลักษณะของการลงทุนหุ้นแนว VI

วกกลับมาที่เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ มันได้ตอบโจทย์เรื่องศาสตร์และศิลปะที่สื่อสารวิธีว่าลงทุนหุ้นแนว VI ต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร หากท่านพลิกกลับไปที่ข้อเขียนบนหน้าปกท่านจะเห็นขั้นตอนของการลงทุนหุ้นแนว VI 4 ขั้นตอน ซึ่งทั้ง 4 ขั้นตอนนี้มีรายละเอียดปรากฏในหนังสือเล่มนี้รวม 79 บท แบ่งหมวดหมู่ของ 79 บทออกเป็น 9 ภาค ซึ่งรายละเอียดของภาคและบทต่างๆท่านสามารถคลิกดูได้ในหน้าสารบัญ

การเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมา มีเจตนาที่จะให้หนังสือกลายเป็นคัมภีร์ที่ตอบโจทย์ผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นแนว VI ทั้งที่มีพื้นฐานหรือไม่มีพื้นฐานเรื่องหุ้นมาก่อน สามารถอ่านและเข้าใจได้แบบร้องอ๋อกันทุกคน แล้วปรากฏรอยยิ้มที่มุมปาก เกิดความสุขกับการได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และระลึกถึงหนังสือเล่มนี้ไปตลอดชีวิต ว่ามันเป็นหนังสือที่ท่านจะไม่มีวันทิ้งมันไปไหนเล่มหนึ่งจนวันตาย เพราะหนังสือได้เข็นท่านไปสู่การเป็นนักลงทุนหุ้นแนว VI ได้สำเร็จ

ท้ายนี้ ผมต้องกล่าวคำขอบคุณ อาจารย์ดุษิต จงสุทธนามณี ที่เขียนเนื้อหาทางวิชาการเรื่องการเงินว่าด้วยการวิเคราะห์หุ้น ซึ่งอาจารย์ดุษิตเขียนถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาที่แสนจะเข้าใจง่าย ตรงตามเจตนารมย์ของผมที่ต้องการทำศาสตร์ทางการเงินยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็สามารถจับต้องได้ ด้วยการใช้ภาษาที่เรียบง่ายแบบที่ชาวบ้านทุกคนสามารถเข้าใจได้ และเมื่อนำศาสตร์ของอาจารย์ดุษิต มารวมกับศาสตร์และศิลปะที่ถ่ายทอดออกมาจากประสบการณ์การลงทุนหุ้นของผมเกือบ 30 ปี หนังสือเล่มนี้จึงบรรลุนิยามของ 3 คำคือ "ศาสตร์ ศิลปะ และประสบการณ์" ทำให้ท่านที่ต้องการเป็นนักลงทุนหุ้นแนว VI นำไปศึกษา เลียนแบบ พัฒนา และต่อยอดกลายเป็นนักลงทุนแนว VI ที่หาตัวจับได้ยากต่อไป

สุดท้ายของคำนำนี้ ผมขออวยพรให้ท่านที่อ่านหนังสือเล่มนี้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่คิดหวังปรารถนา มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง หากติดขัดไม่เข้าใจอะไร สามารถเขียน E-mail มาหาผมได้ที่ sumrej2011@gmail.com ผมจะรีบตอบคำถามของท่านอย่างตั้งใจ

ชาย กิตติคุณาภรณ์