กำแพงคิดสุขุม

ความสุขุมคัมภีรภาพ จะช่วยแก้ต่างข้อเสียเปรียบได้ดีกว่าการบู้ด่วนพลัน
ดังนั้นคนมีหลักการทำงานใจเย็นจะกอปรกิจสำเร็จ แล้วก็กลับมาเป็นผู้ชัยชนะ
…..กำแพงอิฐและรั้วไม้ ก็ยังมีคู่อริซึ่งอยู่ชิดติดกัน คือ ประตูเหล็ก ซึ่ง
ประตูเหล็กนี้ มักมีนิสัยอวดเบ่ง เห็นว่าตนเป็นประตูเหล็กผู้ยิ่งใหญ่
จึงมักแสดงนิสัยแข็งกร้าว ข่มขวัญกำแพงอิฐผู้สุขุม และรั้วไม้ธรรมดาๆซึ่ง
ไม่ยิ่งใหญ่อะไร แล้วกาลเวลาก็ย่างเข้าฤดูร้อน ขุนนางหยุดปฎิบัติราชการ
ก็ได้เดินทางมาพักผ่อนยัง คฤหาสน์หลังนี้ พร้อมด้วยเมียและลูกๆ ขุนนางก็
ได้เดินทาง มาถึงยังคฤหาสน์ ประตูเหล็กเชื้อเชิญว่า “ข้าแต่ผู้ยิ่งใหญ่ ข้าพเจ้า
ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะรับใช้ท่านตลอดฤดูร้อนนี้” พอขุนนางเดินทางผ่านเข้าสู่
บริเวณบ้าน ขุนนางก็เหลียวมองย้อนไปที่ กำแพงคิดสุขุม แล้วถามว่า
“เจ้ากำแพงหัวใจเฉิ่มๆเชยๆเจ้าจะสร้างความปลอดภัย ป้องกันผู้บุกรุกให้เรา
ตลอดทั้งฤดูร้อนได้หรือไม่” กำแพงก็ตอบว่า “ถึงแม้เราจะเป็นกำแพงที่
ไม่มีเกียรติอะไรเกรียงไกรอะไร มีความคิดบุ๋นมากกว่า บู้ดั่งประตูเหล็ก
ที่มักจะอวดอ้าง สร้างผลงานเอาใจเจ้านายเก่ง” เราเชื่อมั่นว่าด้วย ความ
สุขุมคัมภีรภาพ จะเป็นกำแพงที่ตั้งโด่งตระหง่าน อย่างมีมนต์ขลัง อยู่เป็น
กำแพงคิดสุขุม ทำให้เหล่าร้ายผู้บุกรุก เป็นที่ครั่นคร้ามไหวหวั่นไปตามๆกัน
เพราะการวางท่วงท่าที่สุขุม ย่อมทำให้ผู้อื่นเห็นว่า เขาอาจเป็นผู้มีวาสนาดี
อันมีท่วงท่า สุขุมคิดลุ่มลึก ศัตรูมักจะนิราศภัยไปเองโดยปริยาย