พูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก (หนังสือเสียง)

หนังสือเสียง (Audio Book) เล่มเดียวของโลก วิชา “พูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก”
Speaking English from Your Heart เขียนจากประสบการณ์จริงที่สร้างเป็นทฤษฎี
ที่แตกต่างสุดขีด จากการสอนทั่วไปในท้องตลาด ที่..

1. สอนให้คุณท่องคำศัพท์
2. เรียงภาษาไทยในหัวก่อน แล้ววางแผน แปลลงมาเป็นภาษาอังกฤษตัวต่อตัว
3. จำประโยคใช้บ่อยมาพูด แต่พอเจอ “ฝรั่ง” ตัวจริง “แป้ก”
4. เก่งจังเลย จำสำนวนมา พอถึงเวลา คำง่าย ๆ ยังไม่ออกจากปาก
5. เรียนไวยากรณ์ (Grammar) มาเป็นสิบปี แต่ลืมไปว่า พูดภาษาไทยไม่ได้คิดแบบนั้น
6. สอนพูดตามบทสนทนาในหนังสือ พอเจอของจริง ก็ “แป้ก” อีกที
7. เรียนกับเจ้าของภาษา แต่พอเจอของจริง ฝรั่ง พูดเร็ว ไม่ชัด อยู่ในคอ รวบ ๆ
8. อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น บอกคุณว่า ต้องกล้า ต้องได้ใช้ (ตอบเหมือนกำปั้นทุบดิน)

หนังสือเสียง (Audio Book) เล่มนี้ สนุก มีเสียงแบ็คกราวน์ สบาย ๆ ธรรมชาติ
อธิบาย สอน กึ่งเล่า พร้อมตัวอย่างเคสจริง ๆ ปูพื้นฐานจากแบบพื้นฐานโคด ๆ
ไปจนถึง “การพูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก” ลิขสิทธิ์เดียวในโลก
ของ อ.บี (เจ้าของเพจ พูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก) www.facebook.com/teacherbeever
และเจ้าของ E-Book ที่เป็น Best Seller มาแล้วทุกแพล็ตฟอร์ม

เนื้อหา (แตกต่างจาก E-Book) ระยะเวลา 4 ชั่วโมง 48 นาที
1. บทนำ
2. ระบบสมองในการพูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก
3. เจาะลึก 10 ขั้นตอนในการพูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก
4. ล้างความเชื่อเดิม
5. การสะกดแบบใหม่ (ไม่ใช่โฟนิกส์)
6. 5 เทคนิคการออกเสียงชัด และชิล + แปลความหมายแบบดัชนีความรู้สึก
7. เทคนิคการฟังภาษาอังกฤษ (จริง)
8. การเพาะไอเดียลงในความรู้สึก
9. แหล่งกำเนิดไอเดียภายใน 1-10
10. ความผิดพลาด
11. การเรียนรู้ แก้ไข
12. ประสบการณ์
13. ตัวอย่างใช้จริง
14. Bonus 1 – การต่อยอด
15. Bonus 2 – การใช้อารมณ์ที่ใจรู้สึก
16. Bonus 3 – องค์ประกอบที่มีผลต่อการพูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก

เหมาะสำหรับ
1. บุคคลที่ไม่มีพื้นฐานใด ๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไง
2. บุคคลที่เคยไปเรียนที่อื่นมาแล้ว แต่พอเจอของจริง “คิดไม่ทัน”
3. บุคคลที่ต้องการต่อยอดในการพูดภาษาอังกฤษได้จากใจ
และเป็นตัวของตัวเอง
4. ครู ผู้สอน ทุกท่านที่ต้องการพัฒนาการสอนรูปแบบจริง และตลอดกาล
5. บุคคลสนใจทั่วไป ที่ต้องการเพิ่มทักษะในการสร้างรายได้ และเลื่อนตำแหน่ง

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากจะพูดว่า
“ฉันไม่แคร์ใครหรอก ฉันแค่ทำให้ฉันมีความสุขทุกวัน” (อย่าเรียงในหัว)
I understand myself, so I watch my happiness everyday
หรือ nobody knows about my happiness, but I can say “I’m so happy”
หรือ My friends say something to me in bad way, but I don’t care because this is my nature.
จะพบว่า พูดได้หลากหลาย ไม่จำกัด อิสระ และเป็นตัวของตัวเอง
และแต่ละช่วงเวลาแตกต่างกันออกไป เป็นธรรมชาติ

หากคุณคิดว่า ทำไมหนังสือเสียงเล่มนี่ ถึงแพงจัง อย่างที่บอกครับ
ว่า นี่คือ #ที่เดียวของโลก ลองไปหาได้เลยครับ