Icon Close

SET อุ้มรักพรางใจ+อุ้มรักลวงหัวใจ

SET อุ้มรักพรางใจ+อุ้มรักลวงหัวใจ
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
20 กุมภาพันธ์ 2564
ความยาว
323 หน้า (≈ 50,249 คำ)
ราคาปก
258 บาท (ประหยัด 50%)
SET อุ้มรักพรางใจ+อุ้มรักลวงหัวใจ
SET อุ้มรักพรางใจ+อุ้มรักลวงหัวใจ
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
หากเข้ามาพบราคาหนังสือเกินกว่า 119 บาท ให้รอโปรโมชั่นรอบถัดไปนะคะ ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ไรท์อยากให้นักอ่านทุกท่านซื้อในราคาที่ไม่แพงค่ะ ^_^ ขอฝากนิยายไว้ด้วยนะคะ ถ้าอ่านตัวอย่างแล้วสนใจเพียงเล่มใดเล่มหนึ่ง สามารถซื้อแยกเล่มได้เพราะเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวโยงกัน ด้านล่างจะมีเล่มเดี่ยวแต่ละเล่มแสดงไว้ให้คลิ๊กค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการสนับสนุนของคุณนักอ่านทุกท่านนะคะ

+++อุ้มรักพรางใจ+++
เพราะความจำเป็นทำให้ ‘ป่านทอ’ ตัดสินใจรับจ้างอุ้มบุญให้พ่อเลี้ยง ‘ปัถต์’ แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องส่งลูกให้กับผู้ว่าจ้างเธอกลับตัดใจปล่อยลูกไปคนเดียวไม่ได้จึงพยายามหาทางไปอยู่ดูแลลูกใกล้ๆ นั่นคือการอ้อนวอนขอร้องให้พี่ปรางทิพย์ซึ่งเป็นคนจัดหาพี่เลี้ยงให้คุณปัถต์ส่งเธอไปทำหน้าที่นั้น และนั่นเป็นการเริ่มต้นของเรื่องราวระหว่างเขาและเธอ...

เด็กน้อยทำหน้างอแงใส่เมื่อยังอยากให้ผู้เป็นแม่ซึ่งอยู่ในสถานะพี่เลี้ยงจำแลงพาเดินเล่นต่ออีกสักหน่อย

“ได้เวลากินนมนอนแล้วนะครับคนเก่ง เดี๋ยวเราค่อยไปเดินเล่นกันใหม่พรุ่งนี้นะ” แต่พอได้กินนมแล้วใบหน้าน่ารักนั้นก็ปรากฏรอยยิ้ม ปากเล็กๆ กระจุ๋มกระจิ๋มดูดนมจากเต้าของคนป้อนพร้อมกับมองตาแป๋วตั้งใจฟังเสียงที่คุ้นเคย

ดวงตากลมหวานจ้องใบหน้ากลมมนเคล้าหยาดน้ำตา “แม้แต่จะเรียกหนูว่าลูกต่อหน้าคนอื่นแม่ก็ยังทำไม่ได้เลย วาสนาของแม่คงเป็นได้แค่พี่เลี้ยง แต่ไม่เป็นไรนะครับ ขอแค่ให้ลูกของแม่กินอิ่ม นอนหลับ และมีชีวิตที่สุขสบาย แค่นั้นแม่ก็พอใจแล้ว”

“เธอพูดว่าอะไรนะป่านทอ” เหมือนปัถต์จะได้ยินเธอเรียกลูกชายของเขาว่าลูก! และแทนตัวเองว่าแม่!

“คุณปัถย์! เอ่อ...เปล่าค่ะ ป่านแค่คิดถึงลูก ก็เลยเผลอพูดกับน้องข้าวปั้นน่ะค่ะ” หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า หวังว่าเขาจะไม่ได้ยินที่เธอพูดตั้งแต่แรกหรอกนะ

พอได้ฟังแบบนั้นพ่อเลี้ยงหนุ่มก็เข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะคิดถึงลูกของตนเองจนเผลอแทนตัวเองว่าแม่กับลูกของเขา ปัถต์มองผ่านใบหน้าหวานลงไปยังลูกชาย ก่อนจะต้องรีบหันหลังให้เมื่อเห็นข้าวปั้นกำลังดูดกินนมจากอกอวบอิ่มของหญิงสาวอย่างเอร็ดอร่อย

“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังให้นมข้าวปั้นอยู่” ให้ตายเถอะ เมื่อครู่เขาเผลอจ้องเนินเนื้อสล้างนั้นด้วยใจสั่นๆ ยังไงชอบกล

พอเขาพูดแบบนั้นหญิงสาวก็เพิ่งนึกขึ้นได้ เธอรีบหันหลังให้เขาด้วยแก้มร้อนผ่าวเช่นกัน

“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่คุณปัถต์มีอะไรเหรอคะ”

“วันนี้ฉันอยากนอนกับลูกน่ะ เลยว่าจะมารับข้าวปั้นไปนอนด้วย”

“ถ้าอย่างนั้นคุณปัถต์ไปรอที่ห้องก็ได้นะคะ เดี๋ยวถ้าน้องข้าวปั้นกินนมเสร็จแล้วป่านจะพาน้องไปส่งให้”

“เอาอย่างนั้นก็ได้ ฉันเตรียมนมกับแพมเพิสเอาไว้เผื่อลูกตื่นกลางดึกแล้วนะ เธอไม่ต้องเตรียมอะไรไปเพิ่ม”

“ค่ะคุณปัถต์”
=======================

“อะไรกันหนูอร หนูป่าน ข้าวปั้นเป็นอะไรทำไมร้องไห้หนักขนาดนี้”

“ป่านทอกำลังจะฆ่าข้าวปั้นค่ะคุณป้า อรได้ยินป่านพูดว่าจะฆ่าข้าวปั้นให้ตายจากนั้นก็บีบคอหลาน พอข้าวปั้นดิ้นป่านก็ล็อกแขนล็อกขาหลานเอาไว้ อรก็เลยร้องให้คนมาช่วยแล้วแย่งข้าวปั้นออกมา คุณป้าดูนี่สิคะ ที่แขนกับขาของข้าวปั้นยังมีรอยแดงเป็นปื้นอยู่เลยค่ะ”

“อะไรนะ!” บุหงารีบเข้าไปอุ้มหลานจากมืออรนิภาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ก่อนจะสำรวจร่างกายหลานรักและเห็นว่าเป็นปื้นรอยนิ้วมือสีแดงจางๆ “จริงเหรอเนี่ย!”

“ไม่จริงค่ะ ป่านไม่ได้ทำนะคะคุณบุหงา คุณอรต่างหากที่เดินเข้ามาตีน้องข้าวปั้น จากนั้นป่านเลยเข้าไปอุ้มน้องออกมา แต่คุณอรไม่ยอมแถมพยายามมาแย่งข้าวปั้นไปจากป่าน พอป่านไม่ให้ก็ทั้งดึงทั้งและกระชากน้องไป ป่านทนไม่ได้ที่เห็นข้าวปั้นเจ็บก็เลยยอมปล่อยน้องให้คุณอรค่ะ” ป่านทออธิบาย

“แกน่ะสิโกหก อรมีหลักฐานนะคะคุณป้า นี่ค่ะ เมื่อครู่อรอัดเสียงไว้” อรนิภาเปิดไฟล์เสียงที่ลงทุนจ้างคนตัดต่อให้จากสิ่งที่เธอคุยกับป่านทอเรื่องยาฆ่าแมลง อาหารเสริม และการให้ยาเด็กในวันนั้นให้ทุกคนฟัง

...ตายยากตายเย็นนักนะไอ้เด็กเวร ขนาดฉันเอายาฆ่าแมลงผสมในอาหารให้กินก็ยังแค่ท้องเสีย ถึกทนนักใช่ไหม วันนี้แกได้ตายแน่ๆ...

+++อุ้มรักลวงหัวใจ+++
...เพราะความผิดพลาดในอดีตทำให้ ‘รัชชานนท์’ ต้องสูญเสียเมียและลูกไป แต่ตอนนี้เขาคิดได้และกลับตัวกลับใจแล้ว จึงได้พยายามตามหา ‘น้ำหนึ่ง’ และลูกเรื่อยมา แต่ทว่าพอพบแล้ว เธอกลับจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยนอกจากบทสนทนาสุดท้ายที่ทิ้งเอาไว้เพียงความเกลียดชัง....

“เธอจำฉันไม่ได้เหรอน้ำหนึ่ง”

หญิงสาวยิ้มเจื่อน ก่อนจะพยักหน้ารับเล็กน้อย “ค่ะ ...แล้วคุณเป็นไครเหรอคะ”

“ฉันเป็นสามีของเธอ เป็นพ่อของต้นน้ำ”

เพียงเท่านั้นใบหน้างามที่เปื้อนยิ้มเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงพร้อมแสดงความเจ็บปวดออกมา “กลับไป แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก” เธอกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเคล้าแรงบีบอัดข้างใน ซ้ำยังมีความรู้สึกปวดหนึบที่ศีรษะอย่างรุนแรงจนแทบจะทนไม่ไหว

แม้จะจำอะไรไม่ได้แต่คำพูดสุดท้ายของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกกลับหลอกหลอนให้เธอเจ็บปวดเรื่อยมา แม้กระทั่งความจำเสื่อมก็ยังคงจำถ้อยคำนั้นได้ไม่เสื่อมคลาย และตอนนี้ใบหน้าของเขาก็ลอยมาพร้อมกับคำพูดพวกนั้น

=======================
“น้ำหนึ่ง มีอะไรให้ฉันช่วยรึเปล่า” เขาถามหญิงสาว

“ช่วยไปไกล ๆ แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีกก็พอค่ะ”

แทบหน้าชาเมื่อได้รับคำตอบแบบนั้นจากผู้หญิงที่เขาเคยคิดว่าคงเป็นคนท้าย ๆ ที่จะทำร้ายความรู้สึกของเขาได้

“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นฉันขอเข้าไปหาลูกหน่อยได้ไหม” เขาเอ่ยขออนุญาต

“ไม่ได้” น้ำหนึ่งปฏิเสธเสียงแข็ง

ใบหน้าคมเศร้าลงทันที

“อย่าพรากพ่อพรากลูกเค้าเลยนะน้ำ มันจะเป็นบาปเปล่า ๆ นะลูก” นางนิ่มช่วยพูดกับลูกสาวให้เมื่อเธอเดินออกมาได้ยินที่ทั้งสองกำลังคุยกันพอดี

“ต้นน้ำไม่เคยมีพ่อมาตั้งแต่แรกค่ะแม่” น้ำหนึ่งพูดกับมารดาแต่ทว่าสายตากลับมองไปยังร่างสูงอย่างประชดประชัน

=======================
ทั้งรัชชานนท์และน้ำหนึ่งต่างก็มองตากันอย่างเข้าใจว่าลูกต้องการอะไร นั่นทำให้เธอและเขาพาลูกเข้าไปยังห้องนอนก่อนจะวางเจ้าตัวเล็กไว้ตรงกลางแล้วตามลงไปนอนเคียงข้างทั้งทางซ้ายและทางขวา

ชายหนุ่มหยิบขวดนมของลูกที่เขาอุ่นเตรียมเอาไว้แล้วมาป้อนต้นน้ำ ในขณะที่น้ำหนึ่งตบตูดให้ลูกน้อยเบา ๆ เพื่อเป็นการกล่อม

ปลายจมูกรั้นหอมลงบนแก้มนุ่มนิ่มของลูกชายแต่ทว่าป่าป๊ากลับก้มลงมาหอมก่อน ทำให้ริมฝีปากและปลายจมูกของเธอแตะลงบนสันกรามของเขาแทน

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” เธอไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่ขอโทษด้วยแก้มร้อนผ่าว

“ไม่เป็นไร ฉันชอบนะแบบเมื่อกี้” รัชชานนท์หยอกเย้าพลางมองใบหน้าหวานด้วยรอยยิ้ม

“ตั้งใจป้อนนมลูกไปเถอะค่ะ” น้ำหนึ่งตัดบทเพราะทำตัวไม่ถูก

“เวลาเธอเขินน่ารักมากเลยนะน้ำหนึ่ง”

“ไม่ต้องมาพูดจาเอาใจหรอกนะคะ ไม่ตกหลุมพรางง่าย ๆ หรอก” แม้จะพูดแบบนั้นแต่หัวใจกลับพองโตไม่หยุด

“ไม่ได้พูดเอาใจสักหน่อย พูดความจริงต่างหาก”

“เลิกจ้องหน้าฉันได้แล้วค่ะ ป้อนนมลูกก็ดูลูกด้วยสิคะ” ทำเป็นเอ็ดเขา

“ก็อยากมองทั้งหน้าแม่หน้าลูกไปพร้อมกันนี่นา
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
20 กุมภาพันธ์ 2564
ความยาว
323 หน้า (≈ 50,249 คำ)
ราคาปก
258 บาท (ประหยัด 50%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า