กุ๊กกู๋ผีหัวไข่

ว่ากันว่าความตายคือจุดจบของชีวิต แต่กับนิยายเรื่องนี้มันคือจุดเริ่มต้น เมื่อผีเด็กนามว่ากุ๊กกู๋เกิดเล่นสนุกผิดที่ ทำให้พลาดตกขบวนรถไฟที่จะไปเกิด สมุดประจำตัวขาดไปครึ่งซีก ข้อมูลของพ่อแม่คนใหม่หายไปหมดเกลี้ยง
ไหนจะโดนตามล่าจากกลุ่มสัมภเวสีหิวโซที่อยากได้แสงบุญจากผีเด็ก ยมทูตก็งี่เง่า! ครั้นจะพูดกับใครเขาก็ต้องพูดเป็นบทกลอนเพราะไม่มีมนุษย์หน้าไหนมองเห็น กุ๊กกู๋จะได้ไปเกิดไหม? ผองเพื่อนมนุษย์จะช่วยเขาได้ยังไง? ต้องทดลองอ่านดู
.
.
.
“อะไรอ่ะกุ๊กกู๋ ลุงเขาเป็นอะไร!” ทิกเกอร์ถาม
.
“น่ากลัวจัง กรี๊ดดดดดด! แกลุกขึ้นยืนแล้ว! หันมาทางพวกเราด้วย ฉันกลัววว!”
สมุดซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของทิกเกอร์ ตัวเธอสั่นเทาเป็นลูกนก ทิกเกอร์เองก็ไม่ต่างกัน เสื้อยืดที่ชุ่มเหงื่อบ่งบอกได้ถึงทุกสิ่งว่าตัวเองก็ทำอะไรไม่ถูกในตอนนี้เหมือนกัน
.
ตาของลุงกลวงโบว๋ดำทะมึน เลือดกำเดาไหลหยดติ่งๆ พลางเดินกระท่อนกระแท่นเข้ามาหาเด็กทั้งสามที่ยืนแข็งทื่ออยู่ส่วนท้ายของรถ
.
“เฮ้!....นี่ลุงจะทำอะไรพวกผม ถอยไปเดี๋ยวนี้นะ! ออกไป! ไม่งั้นแจ้งตำรวจ!”
น้ำเสียงสั่นเครือสุดๆ กลัวแทบขาดใจแต่ทิกเกอร์ก็ต้องขู่เอาไว้ก่อน ลุงคนขับไม่สนแกยังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้าๆ จนได้ยินเสียงครือครางออกมาจากปากแก
.
“หนี....หนี....หนี....ห..นี....ไป”
.
ผิวหนังปริแยกออกจากกันดังเปรี๊ยะ!ๆๆ! เกิดเป็นลำแสงประหลาดตัดผ่ากลางลำตัวในแนวดิ่ง ชั่วขณะจิตกุ๊กกู๋ถึงกับสำลัก เขาหยุดบินพลางรั้งให้ทุกคนหันกลับมาดู
.
แล้วก็ได้เห็นว่าร่างของลุงนั้นแยกออกจากกันเป็นสองซีก มือหนาจากข้างในฉีกตัวลุงออกมาราวกับปลอกเปลือกผลไม้ เผยให้เห็นคนอีกคนที่ซ่อนอยู่ข้างในอย่างกับใส่ชุดซ้อนกันเอาไว้ เขาใส่หูฟัง , ใส่ถุงมือ , ใส่เสื้อสูทสุดเนี๊ยบ ในมือมีกระเป๋าเอกสารสุดไฮเท็คที่ใส่อุปกรณ์สำหรับจับวิญญาณไว้ครบครัน
.
“ท่านยมทูต! ” กุ๊กกู๋อุทานลั่น