Icon Close

ข้าคือท่านแม่ของนางร้ายในนิยาย เล่ม 2

ข้าคือท่านแม่ของนางร้ายในนิยาย เล่ม 2
4.67
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
9 Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
23 ตุลาคม 2565
ความยาว
401 หน้า (≈ 72,303 คำ)
ราคาปก
220 บาท (ประหยัด 9%)
ข้าคือท่านแม่ของนางร้ายในนิยาย เล่ม 2
ข้าคือท่านแม่ของนางร้ายในนิยาย เล่ม 2
4.67
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
9 Rating
***เล่ม 2 มี 40 ตอน
***ราคาขายบน Web จะถูกกว่านะคะ


ตอนที่ 51 ทายาทหนึ่งเดียวของจวนโหว!

ทางด้านกู้เนี่ย นางยกยิ้มพอใจเมื่อได้ยินรายงานจากเสี่ยวจิง แต่เมื่อได้ยินเสี่ยวจิงบอกว่าสิบกว่าหีบ กู้เนี่ยก็ถึงกับตกใจสำลักน้ำลายคิ้วขมวดฉับ นางชะงักมือที่กำลังป้อนข้าวลูก เสี่ยวหวาหวาที่อ้าปากรับข้าวเป็นลูกนกจึงส่งเสียงประท้วงมารดาอย่างไม่พอใจ
“อื้ออออ”
กู้เนี่ยได้สติรีบป้อนข้าวลูกต่ออีกคำและยกชามข้าวให้เสี่ยวหรูจัดการต่อ
“เสี่ยวหวาหวาให้พี่เสี่ยวหรูป้อนนะลูก แม่ต้องออกไปต้อนรับแขกหน้าจวน หลิงเกอก็อยู่เป็นเพื่อนน้องที่นี่ เดี๋ยวน้ากลับมา” กล่าวจบนางก็ลุกเดินออกไปพร้อมเสี่ยวจิงและเสี่ยวชิงที่เดินมาสมทบ
เมื่อไปถึงหน้าจวน นางก็พบกับคุณชายชายรองยืนยิ้มหน้าเจื่อนรออยู่ด้านข้างท่านโหวและฮูหยินซึ่งพึ่งจะมาสมทบเมื่อสักครู่
“คารวะท่านโหวและฮูหยิน” นางประสานมือคารวะก่อนจะมองไปที่หีบสมบัติมากมายเต็มลานบ้านของนาง องค์หญิงจื่อเว่ยเห็นสายตานางจึงกล่าวขึ้น
“เราได้รับรายงานว่าบุตรชายของเราสีหน้าดีขึ้นมาก …สมบัติเหล่านี้ล้วนนำมาเพื่อขอบคุณหมอกู้ และวันนี้ข้ากับท่านโหวก็ตั้งใจจะมาเยี่ยมลูก”
“สกุลฟงเห็นความสำคัญของบุตรชายยิ่งนัก เสี่ยวจิง… เจ้าจงนำทางผู้อาวุโสทั้งสองไปที่ห้องของท่านโหวซื่อจื่อ เสี่ยวชิงเจ้าจงไปเตรียมของว่าง” กู้เนี่ยสั่งการ
“เจ้าค่ะนายหญิง”
“เสี่ยวหวาหวาเล่า?” ท่านโหวมองไปโดยรอบ เมื่อไม่เห็นหลานสาว จึงเอ่ยปากถามขึ้น กู้เนี่ยได้ยินท่านโหวถามถึงลูกนางก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไร นางคิดว่าท่านโหวและฮูหยินฟงคงเพียงนึกเอ็นดูเสี่ยวหวาหวาเช่นคนอื่น เพราะลูกสาวนางนั้นใครเห็นก็ต้องนึกรัก ยามตอบคำถามเรื่องลูกใบหน้าของนางจึงอ่อนโยนขึ้นมาก
“เสี่ยวหวาหวากำลังรับประทานมื้อเช้าอยู่เจ้าค่ะ หากนางรับประทานเสร็จแล้ว พี่เลี้ยงของนางคงพานางออกมาเดินเล่น เดี๋ยวข้าจะให้พี่เลี้ยงพาเสี่ยวหวาหวาไปคารวะผู้อาวุโสในภายหลัง”
“อืม เช่นนั้นพวกเราจะไปพบไป่ฮูก่อน” ท่านโหวได้ยินก็พอใจ แม้ใจจะอยากเจอหลานสาวอีกในตอนนี้ แต่ก็รอได้
“เชิญท่านโหวและฮูหยิน” กู้เนี่ยผายมือ พร้อมส่งสัญญาณให้เสี่ยวจิงนำทางพวกท่านทั้งสองไป พ้นหลังผู้อาวุโสทั้งสอง... กู้เนี่ยจึงหันไปพูดกับคุณชายรอง
“สมบัติเหล่านี้มากมายเกินไป ข้าจะรับเพียงหมื่นตำลึงตามที่มีประกาศไว้ ส่วนที่เหลือคุณชายรองก็ยกกลับไปเถิด” แม้นางจะอยากได้เงิน แต่ก็ไม่คิดจะฉวยโอกาส ฟงเซียนเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็รีบปฏิเสธทันควัน
“คงมิได้ สมบัติเหล่านี้เป็นของพี่ใหญ่ข้า พี่ใหญ่สั่งให้ข้านำมา ข้านั้นไม่มีสิทธิ์ยกกลับไป… หากหมอกู้ลำบากใจจะรับ ท่านก็ลองไปคุยกับพี่ใหญ่เองเถิด” คุณชายรองกล่าวพร้อมลอบมองสีหน้านาง แต่ก็ไม่เห็นว่านางจะมีปฏิกิริยาใดเป็นพิเศษ เขายิ่งนึกสงสัยนักว่านางและพี่ชายรู้จักกันมาก่อนจริงๆ น่ะหรือ… ไม่เพียงรู้จักกัน แต่กระทั่งมีเสี่ยวหวาหวาออกมาได้อย่างไรกัน
“เช่นนั้นก็รบกวนคุณชายรองให้คนยกหีบพวกนี้ตามข้ามา” กู้เนี่ยถอนหายใจ
“ย่อมได้” ฟงเซียนเสวี่ยรับคำ
กู้เนี่ยจึงพาคนไปที่ห้องๆหนึ่งที่อยู่ติดกับห้องนอนของนาง หลังจากที่คนยกหีบสมบัติเข้าไปเก็บเรียบร้อย นางก็ปิดประตูล็อกห้องนั้นไว้ตามเดิม
“เจ้าให้คนอื่นกลับไปเถิด เพียงเจ้าเท่านั้นที่จะเข้าไปเยี่ยมท่านโหวซื่อจื่อได้”
“อืม” ฟงเซียนเสวี่ยส่งสัญญาณให้พวกทหารที่ตามเขามา กลับออกจากโรงหมอไป เมื่อคนอื่นจากไปเหลือเพียงนางและเขา คุณชายรองจึงได้ถามสิ่งที่เขาสงสัย
“เจ้าไม่คิดจะทำคลังเก็บสมบัติหน่อยหรือ? ประตูเพียงเท่านั้นคงไม่อาจเก็บสมบัติได้หากมีโจรคิดจะมาปล้นจวนของเจ้า” เมื่อได้ยินคำถาม กู้เนี่ยก็เหลือบตามองเขาแล้วตอบว่า
“หากพวกเขาสามารถฝ่าคนของจวนโหวเข้ามาปล้นได้ ก็ให้พวกเขาเอาไปเถิด”
“!!!!!!!!” ฟงเซียนเซวี่ยตกตะลึงไปครู่ ก่อนที่ชายหนุ่มจะกระแอมไอกลบกลืนท่าทางมีพิรุธของตัวเอง พลางคิดในใจว่านางรู้งั้นหรือว่าตอนนี้เรือนของนางมีทหารเงาของจวนโหวแฝงกายอยู่มากมาย แต่จะเป็นไปได้อย่างไร… เขาไม่รู้สึกถึงลมปราณจากตัวนางเลยสักนิด หากนางไม่มีลมปราณย่อมไม่ใช่ผู้มีวรยุทธ์ และหากไม่มีวรยุทธ์ นางจะล่วงรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
กู้เนี่ยเห็นท่าทางตกใจของคุณชายรองได้ชัดเจน แต่นางไม่คิดจะทักท้วงให้เขาอับอายที่ความลับของพวกเขานั้นถูกนางเปิดเผยได้อย่างง่ายดายนัก ความจริงนางหาได้จำเป็นต้องมีห้องเก็บสมบัติในจวน ในเมื่อนางสามารถเก็บของจำนวนเท่าใดก็ได้ในมิติสมบัติ ขอแค่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต นางจะเก็บสิ่งใดมากมายแค่ไหนก็ย่อมได้ทั้งนั้น!
ทางด้านท่านโหวและฮูหยิน
ผู้อาวุโสทั้งสองเมื่อได้เห็นหน้าบุตรชายคนโตก็ต้องตกใจยิ่ง ผู้เฒ่าทั้งสองรีบก้าวเดินเร็วๆเข้าไปใกล้ลูกเพื่อมองสำรวจทั่วร่างกายของบุตรชายให้ชัด! ร่างกายที่เคยผอมแห้งจนเนื้อหนังติดกระดูกกลับดูเต็มฟูขึ้น ผิวกายซีดเซียวจนแทบกลายเป็นสีเทาเริ่มมีเลือดฝาดบนใบหน้า ภาพลักษณ์ของบุตรชายในตอนนี้ต่างจากเมื่อวานเสียจนแทบจำไม่ได้ ฮูหยินฟงนั้นถึงกับร้องไห้โฮออกมาด้วยความดีใจที่เห็นลูกชายอาการดีขึ้น ท่านโหวเองก็น้ำตาซึมเช่นกัน หลายปีที่ผ่านมาสองสามีภรรยานั้นทุกข์ใจไม่น้อย พวกเขาไปวัดสวดมนต์ขอพรเกือบทุกสัปดาห์เพื่อขอให้สวรรค์ช่วยอวยพรให้บุตรชายกลับมาแข็งแรงดังเดิม
ตั้งแต่เกิดเรื่องกับฟงไป่ฮู่… คนจวนโหวนอกจากคุณชายรองนั้นก็ไม่มีใครเข้าร่วมงานสังคมอีกเลย ส่วนฟงเซียนเสวี่ยนั้นก็จำต้องเข้าร่วมบ้างเพราะหน้าที่การงาน
“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าขอโทษที่ทำให้พวกท่านต้องทุกข์ใจ” ฟงไป่ฮู่ลุกขึ้นจากเตียงเตรียมจะคุกเข่าลงบนพื้นไม้ แต่ท่านโหวและฮูหยินก็รีบประคองเขาไว้ พร้อมทั้งส่ายหน้า
“เจ้าอย่าได้ขอโทษ แค่ได้เห็นเจ้าดีขึ้น… คนเป็นแม่เช่นข้าก็ยินดียิ่งแล้ว อย่าได้เอ่ยเรื่องที่จะทำให้บรรยากาศเศร้าหมองลงเลย”
“ฟังแม่เจ้าเถิด แค่เจ้าดีขึ้นก็เป็นพอแล้ว แม่ของเจ้าร้องไห้เพราะนางดีใจ เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ” ท่านโหวเสริมคำของกับภรรยา
ฟงไป่ฮู่ยกยิ้มบาง ขณะนั้นเสี่ยวชิงก็ยกชาและขอว่างมารับรองแขก ก่อนจะเดินกลับออกไป เมื่ออยู่กันเพียงลำพังสามคนพ่อแม่ลูก ท่านโหวก็ถามเรื่องที่บุตรชายให้ยกสมบัติมามากมายในทันที
“เจ้าคิดจะมาอยู่กินกับนางที่นี่หรือ นางยินยอมแล้วหรือ?”
“…….” ฮูหยินฟงได้ยินก็คิ้วขมวด ฟงไป่ฮู่เห็นมารดามีสีหน้าไม่ดี เขาจึงตอบคำถามบิดาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นางเป็นผู้มีพระคุณ เป็นภรรยาและเป็นมารดาของบุตรีข้า”
“แต่เจ้าและนางยังไม่ได้สมรสกัน อีกทั้ง…”
“ฮูหยิน” ท่านโหวยกมือขึ้นแตะหลังมือภรรยาพร้อมทั้งส่ายศีรษะห้ามไม่ให้นางพูด
ฟงไป่ฮู่มองมารดาด้วยสายตาเข้าใจ เขารู้ว่ามารดานั้นยังไม่อาจทำใจยอมรับได้ ที่เขาเลือกกู้เนี่ยมาเป็นภรรยา มารดาของเขาเป็นถึงเชื้อสายตรงของกษัตริย์ นางจึงได้พิถีพิถันในการเลือกฮูหยินให้เขานัก เมื่อก่อนก็เคยคิดจะให้เขาหมั้นหมายกับท่านหญิงบุตรีของชุนอ๋องซึ่งเป็นญาติห่างๆ แต่เมื่อเขาถูกพิษปางตายเมื่อเกือบห้าปีก่อน ชุนอ๋องก็ปฏิเสธคำขอหมั้นที่ท่านแม่ส่งแม่สื่อไป ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลไม่อาจกลับมาญาติดีกันได้ดังเดิม หลังจากนั้นแม้มารดาจะไม่เคยเอ่ยเรื่องแต่งงานของเขากับใครอีก แต่เขาย่อมรู้ว่าในใจมารดานั้นต้องการสตรีที่เพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและวงศ์ตระกูลมาเป็นสะใภ้ใหญ่ วันนี้นางจึงได้ยังมีท่าทีเช่นนี้แม้จะพยายามทำใจมาหลายปีแล้วก็ตาม
“ท่านแม่… ท่านพบเสี่ยวหวาหวาแล้วมิใช่หรือ? ท่านยอมเห็นนางเป็นบุตรนอกสมรสของข้าต่อไปได้หรือ” ฟงไป่ฮู่ถามมารดาเสียงอ่อนโยน
“ข้า…” องค์หญิงจื่อเว่ยชะงักงัน
“มีอีกเรื่องที่ท่านพ่อและท่านแม่อาจจะยังไม่ทราบ เยว่หมิงมิใช่เพียงสหายธรรมดาของภรรยาข้า แต่เขากำลังหมายตานางอยู่และเขาก็ขอเป็นบิดาบุญธรรมของเสี่ยวหวาหวาแล้วด้วยเช่นกัน”
ปัง!
“จะได้อย่างไร! ทายาทจวนหย่งอันโหวของข้า เยว่อ๋องจะมาชุบมือเปิบไปเช่นนี้ไม่ได้!” ท่านโหวกล่าวเสียงหงุดหงิด
“ใช่! เสี่ยวหวาหวาเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของข้า เห็นทีข้าต้องว่ากล่าวตักเตือนเสียนเฟยให้อบรมเยว่หมิงให้ดีเสียแล้ว” องค์หญิงจื่อเว่ยเองก็ไม่พอใจเช่นกัน
ฟงไป่ฮู่แอบลอบยิ้มเจ้าเล่ห์ หากพูดถึงเรื่องหลาน ผู้เฒ่าหัวแข็งทั้งสองคนจากบ้านเขาย่อมไม่คิดจะยอมใครอยู่แล้ว …หลังจากที่เขาผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ทิฐิของมารดาก็ได้ลดน้อยลงไปมาก และต่อให้มารดามีทิฐิมากเพียงใด แต่ในเมื่อมารดารู้ว่าเขาและกู้เนี่ยมีบุตรด้วยกันแล้ว อย่างไรก็ต้องยอมให้เขารับนางมาเป็นภรรยา และช่วยเขากำจัดเยว่อ๋องให้พ้นทางอย่างแน่นอน!
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
23 ตุลาคม 2565
ความยาว
401 หน้า (≈ 72,303 คำ)
ราคาปก
220 บาท (ประหยัด 9%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า