Icon Close

ชีวา ณ เคหาสน์ อาศรม อารมณ์ อาลัย เล่ม 3

ชีวา ณ เคหาสน์ อาศรม อารมณ์ อาลัย เล่ม 3
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
18 เมษายน 2566
ความยาว
346 หน้า
ราคาปก
159 บาท (ประหยัด 37%)
ชีวา ณ เคหาสน์ อาศรม อารมณ์ อาลัย เล่ม 3
ชีวา ณ เคหาสน์ อาศรม อารมณ์ อาลัย เล่ม 3
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating
‘หยิน’ (สีดำ) เป็นตัวแทนของความมืด ความเย็นและความสงบนิ่ง
ในขณะที่ ‘หยาง’ (สีขาว) เป็นตัวแทนของความสว่าง ความร้อนและการเคลื่อนไหว

‘หยิน-หยาง’ คือหลักแห่งความสมดุล
ในดำมีขาว ในขาวมีดำ ถ้าไม่มีสีดำก็จะไม่มีสีขาว
เช่นเดียวกันหากไม่มีสีขาวก็จะไม่มีสีดำ
เพราะหากไม่เกิดการเปรียบเทียบเราก็จะไม่รู้ว่าสีขาวนั้นขาวแค่ไหน และสีดำนั้นดำอย่างไร
ซึ่งที่กล่าวมานี้คือความขัดแย้งที่ขาดกันไม่ได้ เป็นความแน่นอนที่ไม่แน่นอน
ตรงกับหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่ว่า ‘ทุกสิ่งคือความไม่เที่ยง’

‘หยิน-หยาง’ หากเปรียบเป็นคันชั่ง ข้างนึงเป็นหยางส่วนอีกข้างเป็นหยิน
…จุดที่ดีที่สุดของคันชั่งคือจุดสมดุลตรงกลาง แต่จุดสมดุลตรงกลางนั้นมักจะอยู่ได้ไม่นาน
เพราะเมื่อคนเราต้องการสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้โดดเด่น
เราก็มักจะสร้างสรรค์มันไปข้างใดข้างหนึ่งจนเป็นกระแสขึ้นมา

แต่แน่นอนว่าหากเราเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งมากกว่าแล้ว
เมื่อยกน้ำหนักที่วางเอาไว้ออก (เมื่อถึงจุดอิ่มตัว)
คันชั่งก็จะแกว่งกลับไปอีกด้าน
โยกซ้ายขวาจนกว่าจะกลับเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง
และการแกว่งนี้
เมื่อเทียบเป็นการใช้ชีวิตก็จะค่อนข้างมีผลมากทีเดียว
และการจะกลับสู่จุดสมดุลก็ต้องใช้เวลา

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาก็ได้ยินคำพูดที่เข้าใจยากแบบนี้มาอธิบายคำว่าหยินหยางอยู่เสมอ
จนรู้สึกว่าเจ้าหยินหยางนั้นเป็นเรื่องไกลตัว
แต่จริงๆ แล้วหยินหยางมีอยู่รอบตัวเรา
ทั้งในปรัชญา ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงงานออกแบบตกแต่งภายใน

ในด้านปรัชญา หยินหยางคือหลักสัจธรรมแห่งความสมดุล
มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ คือแก่นของการใช้ชีวิต
เช่น การกินอาหาร ที่จะมีการแบ่งหมวดหมู่อาหารออกเป็นหยินหยาง หรือมีฤทธิ์เย็นกับฤทธิ์ร้อน
ยกตัวอย่างคือผักกับเนื้อ หากกินอย่างใดอย่างหนึ่งมากไปก็จะไม่เป็นผลดีกับร่างกาย

ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคงจะเป็นเรื่องของแฟชั่น
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วนั้น
มักจะเป็นอะไรที่ตรงข้ามกันเสมอ
เช่น หลังจากยุคที่คนนิยมเสื้อผ้าที่มีลวดลายเยอะๆ
เสื้อผ้าก็จะเน้นการออกแบบที่ใช้ผ้าสีพื้นเป็นหลัก
หลังจากที่คนนิยมใส่กางเกงขาม้าที่บานออก
…กางเกงที่ฮิตในยุคต่อมาก็คือกางเกงขาเดปป์ที่แนบเนื้อ
หรือหลังจากที่คนนิยมใส่เสื้อผ้าฟูฟ่องหลายชั้นมากที่สุด
ต่อมาก็จะเป็นยุคที่ทุกคนใส่อะไรเรียบง่ายมากที่สุดเช่นกันนั่นเอง
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
18 เมษายน 2566
ความยาว
346 หน้า
ราคาปก
159 บาท (ประหยัด 37%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า