Icon Close

Creative Mate Book 1

Creative Mate Book 1
สำนักพิมพ์wellgohub
หมวดหมู่สุขภาพ
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating
ซีรีส์
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
21 เมษายน 2566
ความยาว
255 หน้า
ราคาปก
159 บาท (ประหยัด 37%)
Creative Mate Book 1
Creative Mate Book 1
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating
ฉันเป็นคนแบบไหน ?
เช็คพื้นฐานสุขภาพตนเองด้วยทฤษฎีแพทย์จีน
ทฤษฎีพื้นฐานสุขภาพของร่างกายทางศาสตร์การแพทย์แผนจีน
เป็นการนำเอาองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนจีน
ซึ่งเกี่ยวกับพื้นฐานทางสุขภาพของร่างกาย
มาศึกษาวิจัยในเชิงวิทยาศาสตร์กับการแพทย์แผนใหม่
โดยการศึกษาจะครอบคลุม
ทั้งในด้านนิยาม ความเป็นมา ลักษณะพิเศษ การจัดแบ่งกลุ่ม และกฎเกณฑ์ความแตกต่าง
รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเกิด การเจ็บป่วย
การดำเนินของโรค การเปลี่ยนแปลง และการลุกลามของโรค
ตลอดจนการนำเอาทฤษฎีดังกล่าว
มาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ การวิเคราะห์
เพื่อป้องกันและรักษาโรคในสังคมยุคใหม่

- การบริโภคอาหารไม่เพียงพอ
พื้นฐานสุขภาพของร่างกายมักอ่อนแอ

- การเลือกบริโภคอาหาร
พื้นฐานสุขภาพของร่างกายมักขาดความสมดุล หรือเจ็บป่วยง่าย

- การบริโภคอาหารมันหรือรสหวานมากเกินไป
พื้นฐานสุขภาพของร่างกายมักจัดอยู่ในกลุ่มเสมหะชื้น

- การบริโภคอาหารรสเผ็ดมากเกินไป
พื้นฐานสุขภาพของร่างกายมักจัดอยู่ในกลุ่มอินพร่อง ไฟแกร่ง

- การบริโภคอาหารรสเค็มมากเกินไป
พื้นฐานสุขภาพของร่างกายมักจัดอยู่ในกลุ่มชี่หัวใจพร่อง

- การพักผ่อนอย่างเพียงพอ
นอกจากช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าแล้ว
ยังช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
ทำให้พื้นฐานสุขภาพของร่างกายจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น

- การพักผ่อนมากเกินไป
จะส่งผลให้การไหลเวียนของชี่และเลือดไม่สะดวก
เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง
ประสิทธิภาพการทำงานของม้ามและกระเพาะอาหารลดลง
ทำให้พื้นฐานสุขภาพของร่างกาย
มีแนวโน้มอยู่ในกลุ่มเสมหะอุดตันหรือเลือดคั่ง

- สภาวะอารมณ์ที่ดี
ส่งผลให้ชี่และเลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ
อวัยวะต่าง ๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลให้พื้นฐานสุขภาพของร่างกายแข็งแรง

- สภาวะอารมณ์ที่ไม่ดี
อาจก่อให้เกิดการอุดอั้นของชี่
และทำให้เกิดความร้อนภายใน
ส่งผลให้พื้นฐานสุขภาพของร่างกาย
จัดอยู่ในกลุ่มหยางแกร่ง หรือกลุ่มอินพร่อง

- ผู้ที่อาศัยในภาคเหนือ
จะมีร่างกายที่บอบบาง อ่อนแอ รูขุมขนจะเปราะบาง
- ผู้ที่อาศัยในภาคใต้
จะมีร่างกายแข็งแรงกำยำ รูขุมขนปิดแน่น
- ผู้ที่อาศัยในเขตใกล้แหล่งน้ำ
จะพบโรคที่เกี่ยวกับความชื้นและเสมหะมาก
- ผู้ที่อาศัยในเขตที่มีอากาศหนาวและชื้น
จะมีพื้นฐานสุขภาพแบบอินแกร่งหรือความชื้นแกร่ง

การแบ่งกลุ่มลักษณะพื้นฐานสุขภาพของร่างกาย
ตามหลักการของแพทย์แผนจีนนั้น
จะใช้ทฤษฎีสุขภาพองค์รวมเป็นหลัก
และนำมาจัดแบ่งกลุ่ม
โดยอาศัยทฤษฎีอิน-หยาง และทฤษฎีปัญจธาตุ
ผสานกับพื้นฐานทฤษฎีอวัยวะภายใน
สารจำเป็น ชี่ เลือด และสารเหลวในร่างกาย

การแบ่งกลุ่มในอดีตมีความแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย
เช่น คัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง (黄帝内经)
จะแบ่งกลุ่มตามหลักปัญจธาตุออกเป็น 5 กลุ่ม
ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุโลหะ ธาตุน้ำ
และใช้แนวคิดทฤษฎีอิน-หยาง
แบ่งแต่ละกลุ่มออกเป็น 5 ระดับ
จึงเกิดเป็นลักษณะพื้นฐาน 25 กลุ่ม

อย่างไรก็ตาม แพทย์จีนในยุคปัจจุบัน
ได้มีการแบ่งกลุ่มตามมุมมอง
หรือประสบการณ์ของตนเองที่แตกต่างกันไป
เช่น แบ่งเป็น 4 กลุ่ม 6 กลุ่ม 7 กลุ่ม 12 กลุ่ม เป็นต้น
อนึ่งแม้ว่าการแบ่งกลุ่มจะแตกต่างกัน
แต่พื้นฐานล้วนมาจากทฤษฎีระบบการทำงานของอวัยวะภายใน
เส้นลมปราณ สารจำเป็น ชี่ เลือด และสารเหลวในร่างกาย
ซึ่งเป็นพื้นฐานทฤษฎีของศาสตร์การแพทย์แผนจีนด้วยกันทั้งสิ้น


ในสังคมจีนเชื่อเรื่องความสมดุลของหลักปรัชญา
ยิน-หยาง ซึ่งอธิบายการก่อเกิดของจักรวาล
พลังยิน (มืด) หยาง (สว่าง)
เกื้อกูลและควบคุมทุกสรรพสิ่งในจักรวาล
ก่อเกิดเป็นดุลยภาพ
ส่วนการอธิบายโครงสร้างของจักรวาลนั้น
สังคมจีนมีความเชื่อเรื่องพลังแห่งธาตุทั้งห้า
อันประกอบด้วย ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ

สิ่งที่น่าสนใจคือ ธาตุทั้งห้าได้ให้กำเนิดซึ่งกันและกัน
และขณะเดียวกันก็ทำลายกันเอง เกิดเป็นทฤษฎีธาตุกำเนิดและธาตุปรปักษ์

จากจักรวาล สู่กายมนุษย์
ธาตุทั้งห้าสร้างและควบคุมซึ่งกันและกัน
เพื่อให้เกิดสมดุลกลมกลืน
เมื่อธาตุทั้งห้าเป็นพลังจักรวาล
ในร่างกายของมนุษย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล
จึงมีธาตุทั้งห้าเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย

จำแนกเป็น
อวัยวะที่มีสภาพเป็นหยาง ประกอบด้วย ตับ หัวใจ ม้าม ปอด ไต
ส่วนอวัยวะที่มีสภาพเป็นยิน ได้แก่ ถุงน้ำดี ลำไส้เล็ก กระเพาะ ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ
โดยอวัยวะเหล่านี้เกื้อหนุนและทำลายกันอย่างเป็นระบบ

การสร้างและควบคุมดำเนินควบคู่กันในลักษณะสมดุล
เพื่อทำให้ร่างกายของมนุษย์เกิดขึ้น เจริญเติบโต
ดำรงอยู่และดับไปตามวงจรธรรมชาติ

ในหลักฮวงจุ้ยนั้นจะแบ่งบุคคลออกเป็น 5 ธาตุ ได้แก่ น้ำ ไฟ ทอง ไม้ ดิน
ซึ่งแต่ละธาตุนั้นก็จะมีความเกื้อหนุน และความขัดแย้งที่แตกต่างกันไป
โดยทางโหราศาสตร์จีนสามารถคำนวณได้ว่า
มนุษย์แต่ละคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้
จะได้รับการสะสม พลังธรรมชาติของธาตุทั้ง 5
มากน้อยแตกต่างกัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัน เดือน ปี และเวลาตกฟากของแต่ละคน

หากถามว่าหากรู้ว่าตัวเองเป็นธาตุอะไร
แล้วจะมีประโยชน์ตรงไหน?
จะตอบคำถามนี้ง่ายว่ามีประโยชน์แน่นอนครับ
เพราะจะส่งผลถึงตัวคุณ
รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทุกๆ อย่างที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ
เช่นเรื่อง สี, รูปทรง หรือลักษณะงานที่เหมาะสม เป็นต้น

รูปทรงอาคารกับพลัง 5 ธาตุ
มีประโยคที่มักกล่าวในทางฮวงจุ้ย
“อาคารเป็นเช่นไรคนก็เป็นเช่นนั้น”
ในความหมายก็คือ
ผู้ที่อยู่ในอาคารย่อมมีลักษณะและนิสัยใจคอ
เป็นอย่างเช่นอาคารนั้นๆ
จากคำกล่าวนี้
นำไปสู่หลักการทางฮวงจุ้ย
ในการเลือกที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับของแต่ละคน
ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างกันในแง่ของความต้องการ
เช่น ส่งเสริมกิจการ ส่งเสริมชีวิตและสุขภาพ เป็นต้น

บ้านแต่ละบ้านจะต้องมีทิศมังกรที่ชัดเจน
และจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลรักษา เป็นอย่างดี เพื่อให้บ้านแต่ละหลังนั้น
มีความเข้มแข็งของการเป็นมังกรที่ดี

คำว่า “มังกร” เป็นนามธรรม
มีความหมายแสดงถึงความมีอำนาจ
หรือจุดที่มีพลังงานมากที่สุด
เป็นตำแหน่งที่ทำให้บ้านเหมือนมีพลังแม่เหล็ก
ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหา

ก่อนอื่น
เราต้องรู้จักทิศมังกรของบ้านแต่ละหลังก่อน
แล้วดูว่าบ้านแต่ละหลังนั้น
ตำแหน่งมังกรเสียหรือไม่ ต้องปรับแต่งแก้ไขตรงนั้น
ที่มักกล่าวอยู่เสมอว่า
บ้านมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตอยู่ที่ตำแหน่งมังกร

สมมุติว่าตำแหน่งมังกรของบ้านเราเสีย
บ้านหลังนั้นก็มีสภาพเหมือนไม่มีชีวิต ไม่ได้ให้พลัง
ไม่ได้ส่งเสริมผู้ที่อยู่อาศัย

โดยกำหนดทิศจากบ้านเรา
ใช้หลักทิศหลังอิง ไม่ได้ดูจากทิศของหน้าบ้าน
ให้ดูว่าหลังบ้านของเรานั้นอิงทิศใด
เพื่อคำนวณหาตำแหน่งมังกรของตัวบ้าน
ให้ใช้ทิศหลังบ้านเป็นหลัก

ตำแหน่งมังกรมีความสำคัญค่อนข้างมาก
ในบ้านแต่ละหลังไม่ควรให้ตำแหน่งมังกรเสีย
เพราะจะทำให้ไม่ส่งเสริมเจ้าของบ้านด้วย
แต่ถ้าเราไม่แน่ใจในตำแหน่งมังกร
เราก็ควรจัดบ้านให้สะอาด โปร่ง ไม่รก
และหมั่นดูแลห้องเก็บของ จัดวางให้เป็นระเบียบ ปัดกวาดให้ดี
เพราะเผื่อว่ามังกรของบ้านจะไปอยู่ในห้องเก็บของ

ตำแหน่งมังกรที่ขาดหายไป
เหมือนกับบ้านหลังนั้นจะไม่เสริมตัวเจ้าของบ้าน
เป็นบ้านที่ขาดพลัง
เพราะฉะนั้นทางที่เราจะทำได้
สมมุติว่าบ้านมีบริเวณ เป็นรูปตัวแอล
และตำแหน่งที่ขาดอยู่ตรงที่แหว่งพอดี
ให้ทำสิ่งปลูกสร้างที่มีหลังคา
เช่นซุ้มดอกเห็ด ทำชิงช้า
สวนหย่อม หรือต้นไม้ใหญ่ก็ได้
นั่นคือเราจำเป็นต้องใช้พื้นที่นั้น อย่าให้แหว่ง

หลักการจัดบ้าน
หรือฮวงซุ้ยคนเป็น เรียกว่า "จัดหยาง"
เป็นหลักการเดียวกับการจัดฮวงซุ้ยคนตาย หรือ "จัดหยิน"
เราทำฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษของเราดี
จะส่งผลต่อลูกหลานถึง 7 ชั่วคน
โดยที่เราเองก็ไม่ได้ใช้ฮวงซุ้ยนั้น
แต่ว่าที่บ้านเรา ห้องที่อยู่อาศัย
ตำแหน่งมังกรทำไว้ดีแล้ว
ถึงจะไม่ได้ใช้ แต่ถ้าจัดทำเลไว้ถูกต้องตามดวงชะตา
สิ่งเหล่านี้
ก็จะส่งผลเพราะที่นี่คือบ้านหลัก
ส่วนเจ้าตัวอาจจะถูกทำเลส่งไปเรียนก็ได้และก็ไปดี

ถ้าเราจัดห้องได้ถูกต้อง
ตามทำเล ตามดวงชะตา ตรงกับธาตุของเรา
เราไปอยู่ที่ไหน
กลับมาก็จะได้รับธาตุที่ดี ธาตุที่ดีก็จะส่งไปที่ที่ดี

เรื่องของตำแหน่งมังกร
สามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจของทุกคนได้อีกด้วย
คำว่ามังกรที่เป็นนามธรรมนี้
ยังหมายถึงในแถบถิ่นที่อยู่อาศัยของเรานี้ ว่าเราเป็นหัว
เราเป็นคอ เป็นท้อง หรือเป็นหางมังกร
อย่างที่เคยพูดคุยกันมา
ถ้าเราทำบ้านของเราให้ดี เด่น ดูสวยงาม ในแถบนั้น
ใครๆก็ต้องหันมาดู ในซอยนั้นบ้านเราสวยที่สุด
บ้านเราก็เป็นมังกร
ในความหมายที่ไม่ได้มีตำแหน่งทิศ แต่เป็นความเด่นหรือการดึงดูด

เพราะว่าคำว่ามังกร
ที่เป็นนามธรรมนี้
จะมีความหมายถึง "พลังแห่งการดึงดูดทุกอย่างเข้ามา"
ซีรีส์
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
21 เมษายน 2566
ความยาว
255 หน้า
ราคาปก
159 บาท (ประหยัด 37%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า