ล็อกอินเข้าระบบ
เข้าระบบผ่าน Social Network
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Line
เข้าสู่ระบบด้วย Apple
เข้าสู่ระบบด้วย Google
หรือ เข้าระบบด้วยบัญชี meb
จำ Password ไม่ได้
จำ Username ไม่ได้
หากยังไม่สมัครบัญชี meb โปรด
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก MEB Account
กรุณาใส่ข้อมูลที่มีเครื่องหมาย * ให้ครบถ้วน
Username
*
ต้องมีไม่ต่ำกว่า 4 ตัวอักษร และยาวไม่เกิน 32 ตัวอักษร และใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ a ถึง z, A ถึง Z หรือเครื่องหมาย _-@.
Password
*
ระบุอย่างน้อย 8 ตัว
Retype Password
*
E-mail
*
Display name
*
Phone
ระบุเฉพาะตัวเลข
First Name
Last Name
Gender
Not specified
Male
Female
ส่งข้อมูล
ล็อกอินเข้าระบบ The1
สำหรับผู้ที่มีบัญชี meb อยู่แล้ว
ครอปรูปภาพ
ล็อกอินเข้าระบบ / สมัครสมาชิก
ล็อกอินเข้าระบบ
ตะกร้า
จัดการอีบุ๊กที่วางขาย
จัดการอีบุ๊ก
อีบุ๊กทั้งหมด
เมนู
อีบุ๊กทั้งหมด
นิยายทั้งหมด
นิยายแปล
การ์ตูนทั้งหมด
อีบุ๊กทั่วไป
หนังสือเด็ก
หนังสือเรียน
หนังสือเสียง
บุฟเฟต์
หมวดหมู่ทั้งหมด
สำนักพิมพ์
เลือกหมวดหมู่ย่อย
ค้นหาสำนักพิมพ์
หน้าแรก
ขายดี
มาใหม่
โปรโมชัน
ฟรีกระจาย
ฮิตขึ้นหิ้ง
แนะนำ
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ล็อกอินเข้าระบบ
กรุณายืนยันบัตรประชาชนก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ไปยืนยันบัตรประชาชน
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชน
กรุณาดำเนินการใหม่อีกครั้งในภายหลังค่ะ
ขออภัยค่ะไม่สามารถเข้าชมได้
เนื่องจากเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ฟาเร ภาค 1 : การเดินทางสู่เกวนโดลีน
โดย
Miss YA
สำนักพิมพ์
MissYA
หมวดหมู่
นิยายแฟนตาซี
ทดลองอ่าน
ซื้อ 199 บาท
5.00
7 Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
Miss YA
สำนักพิมพ์
MissYA
หมวดหมู่
นิยายแฟนตาซี
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
ประเภทไฟล์
pdf, epub
(สารบัญ)
วันที่วางขาย
03 เมษายน 2558
ความยาว
1635 หน้า (≈ 207,869 คำ)
ราคาปก
380 บาท (ประหยัด 47%)
ฟาเร ภาค 1 : การเดินทางสู่เกวนโดลีน
โดย
Miss YA
MissYA
นิยายแฟนตาซี
ทดลองอ่าน
ซื้อ 199 บาท
5.00
7 Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
Miss YA
สำนักพิมพ์
MissYA
หมวดหมู่
นิยายแฟนตาซี
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
โรงละครที่เลื่องลือว่าเป็นเจ้าแห่งศิลปะทุกแขนง
ที่ปิดตัวมานานได้เปิดการแสดงขึ้น
บัตรเชิญถูกส่งไปทั่วมหานคร ผู้คนต่างกระหายที่จะได้ครอบครอง
ฟาเร เป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ความทรงจำในวัยเด็กโดยสิ้นเชิง
เธอได้รับจดหมายจากผู้ปกครองที่ทิ้งเธอไปตั้งแต่ยังเด็ก
ในซองเก่า ๆ นั้นบรรจุ "บัตรเชิญสีทอง" เอาไว้
ไม่่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า นั่นอาจเป็นบัตรเชิญสู่ความจริงที่เธอจากมา
ครอบครัวที่เธอโหยหา
หรือแม้กระทั่ง...โลกใหม่ที่รอเธออยู่
==============> [
บทบรรเลงที่ ๑
“บัตรเชิญกิตติมศักดิ์”
เสียงโมบายหวานแว่ว ดังกรุ๋งกริ๋งตามสายลมที่พัดพาเอาไอแดดอุ่นๆมากระทบผิวอ่อนๆของเด็กน้อยตัวเล็ก ที่ขดตัวเพื่อเลี่ยงแสงแดดที่มาเคาะประตูบอกเวลาว่าเช้าแล้ว เสียงรูดม่านลูกไม้โปร่งตาอย่างเบามือด้วยเกรงว่าเจ้าของเตียงจะตื่นจากนิทราแสนสุขซึ่งนั่นก็ทำให้เจ้าของเตียง ยิ้มริมปากหลับตาแน่น
ริมฝีปากอุ่นๆบรรจงจูบลงบนหน้าผากเนียนละเอียดของเด็กน้อยแก้มใสที่หลุดเสียงคิกคักออกมา เธอยกมือเล็กมาอุดเสียงไม่ให้ลอดออกไปจนเสียงขลุกขลักน่าเอ็นดู แล้วสุดท้ายก็ต้องลืมดวงตาใสแจ๋วขึ้น
“อรุณสวัสดิ์” เสียงเล็กแหบพร่าเมื่อเอื้อนเอ่ยคำแรกหลังจากนิทรามายาวนานเพื่อทักทายชายร่างสูงที่บรรจงวางนิ้วเรียวลูบเบาๆ อย่างเอ็นดูไปบนเส้นผมนุ่มละไม เขาคลี่ยิ้มอบอุ่นมาให้เป็นคำตอบ
แขนยาวรั้งร่างเล็กของหลานสาวขึ้นมาจากเตียงสีเหลืองมะนาวแสนนุ่มนั้น เด็กน้อยก็ราวกับจะรู้ดีจึงสอดแขนเข้าที่ลำคอของคนร่างสูง แล้วซบหน้าลงกับบ่าของเขาด้วยความเคยชิน
“โฮซ ไม่โกนหนวดนะเนี่ย!”นิ้วเล็กตีเบาๆที่แก้มของโฮเซ่ ที่ยิ้มโชว์ฟันขาว ชายหนุ่มจึงตอบแทนด้วยการหันมาแกล้งหอมแก้มเจ้าตัวเล็ก อย่างหมั่นไส้ระคนเอ็นดู
“ฮะ...ฮ่ะ จั๊กจี๋” ฟาเรหัวเราะคิกคัก ตาคู่โตเหลือบไปที่โมบายเปลือกหอยแสนสวย กึ่งจะรั้งตัวคนแบกให้โน้มมาข้างหน้า
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อ” เสียงโมบายเว่วมาตามลมคล้ายจะตอบคำทักทายนั้น
เสียงเปียโนถูกบรรเลงมาพักใหญ่แล้ว คานน เมเจอร์ ดี ถูกเล่นไปโดยไม่สะดุดแม้สักน้อย นิ้วเรียวไล่ไปราวกับตกอยู่ในภวังค์แห่งความไพเราะนั้นและพร้อมจักชักจูงทุกคนที่ได้ยินให้เข้ามาสู่โลกอันงดงามของดนตรี เสียงฝีเท้าเล็กดังมาจากบันไดวน พร้อมเสียงเจื้อยแจ้วของแม่บ้านสาวใหญ่ที่เตือนให้ระวัง แต่คงไม่ได้ผล เพราะ หน้าขาวๆจากแป้งเด็ก ก็ชะโงกจากบันไดวน ที่ตัดเป็นช่องวางออกมา ส่งเสียงแจ๋ว
“Moonlight Sonata” เพลงคานนถูกพลิกพลิ้วไปโดยไม่สะดุดแม้แต่เล็กน้อย
“ระวังค่ะ!!” เพนนีร้องบอก เมื่อ นายน้อยตัวกระจ้อยก้าวลงบันไดวนลวดลายเถาวัลย์นั่น อย่างรวดเร็วจนคนตามเองก็อดเสียวในใจว่าจะพลาดตกไปแข้งขาหัก
“คุณฟาเร ฟังป้าหน่อย” เจ้าตัวหันมาหัวเราะแหะๆหน้าขาว
แสงแดดจับร่างสูงที่สะท้อนกับเปียโนนั้นจนดูเหมือนว่าผิวบางๆของโฮเซ่จะใสแทบมองทะลุ นิ้วเรียวยาวดีดคีย์เบาๆแต่เสียงนั้นกังวานใสละมุนละไม
ฟาเรเท้าแขนลงบนหลังเปียโน เพลงโปรดเล่นไปเรื่อยๆราวกับจะไม่สิ้นสุด เจ้าตัวเล็ก หลับตาฟังคล้ายสามารถซึมซับความงามของเสียงเพลงได้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีม่วงอ่อน ที่ฉีกยิ้มกว้างให้เจ้าของดวงตาสีเดียวกันเพียงแต่เข้มกว่า
มือข้างนึงยังคงไล่ไปตามคีย์หากอีกข้างก็รั้งร่างบอบบางลงมานั่งข้างๆที่เขาเองเขยิบให้
เพลงถูกเปลี่ยนมาเป็นทำนองสดใส ที่เจ้าตัวน้อยมองหน้าคนเล่นที่ยิ้มกว้าง
“ฟลาวเวอร์ ออฟ เดอะ โน้ต” ฟาเรคราง
โฮเซ่ยิ้มก่อนที่จะเข้าเพลง นิ้วเล็กๆพรมลงบนคีย์เปียโนอีกฝั่งอย่างตั้งใจ จนคิ้วขมวดยุ่ง เสียงเพลงสดใสดังประสานกับแสงแดดอุ่น เพนนีที่กำลังตั้งโต๊ะอาหารหันมามองอย่างเอ็นดู
ตั้งแต่ฟาเรจำความได้ ฟาเรก็มีแต่โฮเซ่ โฮเซ่เป็นทั้ง พ่อ แม่ เพื่อน พี่ ในเวลาเดียวกัน ฟาเรขอมีโฮเซ่ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีก
แม้บางครั้งจะมีความสงสัยบ้าง และถึงแม้ว่าฟาเรจะยังเด็ก แต่ ฟาเรก็รู้ดีว่า การพูดเรื่องอะไรที่ทำให้โฮเซ่รู้สึกไม่ดี เธอจะไม่พูด
จูบอรุณสวัสดิ์ กับ เปียโนยามเช้านี่แทนทุกอย่างได้เสมอ แทนคำพูดเป็นล้านคำที่ โฮเซ่ ไม่สามารถจะเปล่งออกมาได้
จังหวะถูกเร่งขึ้นทั้งๆที่คนเร่งจังหวะหันมายิ้มใส่หลานสาวที่เงยหน้ามองตาเขียว และต้องรีบไล่นิ้วอย่างเร็วเพื่อตามให้ทัน
ครั้นเมื่อตามไม่ทันก็ขอ “พาล” ไว้ก่อน เลยยัดศอกไปเสียหนึ่งที
“ไม่ไหวแล้ว” ฟาเรครวญ แต่ก็ยังพยายามจะตามให้ทัน
โฮเซ่เองก็ยิ้มกว้างแล้วลดความเร็วลงจนปกติแล้วก็จบในที่สุด เด็กน้อยถอนหายใจก่อนจะทำปากยื่นใส่
อีกครั้งที่ชายหนุ่มประทับจุมพิตลงบนหน้าผากเนียน คล้ายชมเชย เจ้าตัวหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหอมแก้มกลับไปเสียทีหนึ่ง
“ทานข้าวได้แล้วค่ะ สองอาหลาน” เพนนียกถาดอาหารมาวาง ควันลอยกรุ่น
โฮเซ่อุ้มร่างเล็ก ขึ้นจากเก้าอี้ ไปวางที่เก้าอี้ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นผู้คนที่เดินผ่านไปมา ซุ้มกุหลาบสีขาวนวลก็แข่งกันบานอยู่
นิ้วเรียวเกล้าผมยาวหยักศกน้อยๆมาขมวดกับยางรัดรูปดอกกุหลาบระยิบระยับ เจ้าตัวน้อยเองก็ทาแยมลงบนขนมปังก่อนจะยื่นให้คนข้างหลังที่ก้มลงมากัดไปหนึ่งคำ แล้วขนมปังก็บันดาลหายเข้าไปในท้อง ฟาเรหมดเกลี้ยง
นิ้วเรียวคล้องสายสร้อยเส้นสวยลงบนคอเล็กๆนั่นอย่างรักใคร่ ดวงตาคู่โตช้อนขึ้นมอง พอดีกับที่ริมฝีปากอุ่นๆก็ประทับลงมาบนเปลือกตา ฟาเรสัมผัสได้ถึง กระแสเสียงที่ไม่ได้อาจได้ยินด้วยหู เบาๆ ที่แทรกซึมเข้าไปในมโนสำนึกแผ่วผิว
“สุขสันต์วันเกิด”
สายสร้อยที่ที่พันกันห้าเส้น เหลือบระยับกระทบแสงแดด ตัวอักษรกุญแจซอลตัวใหญ่ทอประกายแต่ไม่อาจสู้ประกายของเพชรและมุกแสนสวย เม็ดหนึ่งเป็น ฟา เม็ดหนึ่ง เป็น เร บน บันได ห้าเส้น
ฟาเรจูบเบาๆลงบนแก้มกรุ่นเนียนด้วยความรักเต็มเปี่ยม
เพนนีมองอย่างเอ็นดู น่ารักจริงๆ เธอดีใจเหลือเกินที่โฮเซ่ อุ้มเด็กคนนี้มาเมื่อ เกือบ5 ปีก่อน
เพลงที่เล่นเองฟังเอง ย่อมไม่ไพเราะเท่า เล่นเพื่อใครสักคน
แล้วจะยิ่งไพเราะยิ่งนัก หาก คนนั้น คือ คนที่เรารัก
เพลงของอัจฉริยะที่เล่นเพื่อ คนที่รักที่สุด นั้นไพเราะ หาใดเปรียบ เช่นที่เพนนีได้ยินอยู่ทุกวัน
“อิจฉาเหรอ จ๊ะ เพนนี” เสียงกระเซ้าจากคนช่างเจรจา โฮเซ่เองก็ยิ้มจนแก้มบุ๋ม
“มาให้ฟากอดทีนึง” แขนนิ่มโอบเข้าหาร่างเพนนีที่เดินมาหา อ้อมกอดบางๆนี่อบอุ่นยิ่งนัก
“ฟารักเพนนีน้อยกว่าโฮซ นิดนึง”
เสียงหัวเราะสดใสท่ามกลางแดดอุ่น สะท้อนก้องราวระฆังเงิน
เด็กสาวผมสีอ่อนลืมตาโพลงในความมืด เสียงหายใจสะท้อนก้องที่ตนเองรับรู้ได้ในความมืดว่ามันดังมากแค่ไหน มันดังเสียจนกลบเสียงหายใจเป็นระยะสม่ำเสมอของเหล่าเพื่อนร่วมห้องที่ยังคงอยู่ในนิทราอันสงบสุข ฟาเรยกมือขึ้นลูบหน้าผากเนียนที่ชื้นเหงื่อลวกๆ อะไรบางอย่าง สัมผัสบางอย่างที่เลือนหายไปราวไอน้ำที่ระฝ้าบนกระจกใส ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งปวดหัวมากขึ้นเท่านั้น
แววตาในความมืดนั้นสั่นระริก พอๆกับลำคอที่แห้งผาก อะไรนะ.... อะไร.... คิดออกสักทีสิ
“ฝันร้ายเหรอ” เสียงเรียก ทำให้เด็กสาวตื่นจากภวังค์ ยังดีที่ระงับอาการสะดุ้งไว้ได้
“เปล่า คืนนี้ร้อนน่ะ” เด็กสาวหน้าตายุ่งเหยิงงัวเงีย หรี่ตาอย่างแปลกใจ ความง่วงงุนทำให้ร่างนั้นทรุดลงนอนต่อไม่ยากนัก
“ฝันดี ฟาเร”
ฝันร้ายเหรอ? มันจะเป็นฝันร้ายหรือฝันดี เธอไม่รู้ แต่ขอให้ความอบอุ่นที่เหลือร่องรอยนั้นยืนยันกับเธอทีว่า นั่นคือ ฝันดี
ฝันที่เธอไม่เคยจำได้สักครั้ง
ฟาเรถอนหายใจยาว ก่อนจะฝังตัวลงบนหมอนใบเก่าแต่สะอาด แล้วเข้าสู่นิทราอย่างรวดเร็ว
***++**+++**++***
]
แฟนตาซี
ประเภทไฟล์
pdf, epub
(สารบัญ)
วันที่วางขาย
03 เมษายน 2558
ความยาว
1635 หน้า (≈ 207,869 คำ)
ราคาปก
380 บาท (ประหยัด 47%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถ
เข้าสู่ระบบ
เพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า
รีวิวทั้งหมด