Icon Close

แหวนแห่งชะตานำพารัก 1

แหวนแห่งชะตานำพารัก 1
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
3 Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
23 กันยายน 2566
ความยาว
367 หน้า (≈ 97,736 คำ)
ราคาปก
299 บาท (ประหยัด 18%)
แหวนแห่งชะตานำพารัก 1
แหวนแห่งชะตานำพารัก 1
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
3 Rating
“ข้าไม่เห็นจะเคยรู้เลยว่าท่านหญิงอ้ายเยว่นั้น มีสหายเป็นเด็กชาวบ้านยากจนเช่นนี้ด้วยช่างทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตายิ่งนักพวกเจ้าว่าจริงหรือไม่”
“จริงดังที่เจ้าเอ่ยมาซูเหม่ย ฮ่า ฮ่า ๆ”
หลังจากที่พวกนางเอ่ยจบหนิงฮวาและพี่สาวของตนก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อยว่าพวกตนเคยรู้จักคนพวกนี้ตั้งแต่เมื่อใดกันเหตุใดพวกนางถึงได้เดินมาก่อกวนพวกตนเช่นนี้ก่อนที่หนิงฮวาจะหันไปเอ่ยถามกับอ้ายเยว่ทางสายตาทันที
“นั้นคือคุณหนูใหญ่ถังซูเหม่ย เป็นบุตรสาวคนโตของเสนาบดี ถังซูเมิ่ง ส่วนพวกนางก็เป็นสหายของ แม่นางซูเหม่ย”
“แล้วพี่อ้ายเยว่รู้จักกับพวกนางเป็นการส่วนตัวด้วยหรือไม่เจ้าคะ”
“เอ่อ คือว่า”
“รู้จักสิทำไมจะไม่รู้จักก็เมื่อก่อนท่านหญิงยังเดินตามหม่อนฉันไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เลยนี้เพคะ แล้วทำไมตอนนี้ทำเป็นไม่รู้จักหรือเป็นเพราะว่าเรื่องของ พี่หยวนจิน ที่ท่านหญิงทรงแอบมีใจให้แต่พี่หยวนจินกลับมีใจให้ข้าและขอหมั้นหมายข้ากันจึงทำให้ท่านหญิงไม่พอใจเลยตัดขาดกับพวกเรารึเพคะ”
ซูเหม่ยเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้อ้ายเยว่เสียหน้านางจงใจพูดเน้นทุกถ้อยคำเพื่อให้ท่านหญิงนั้นรู้สึกอับอายที่บุรุษที่ตนพึงใจนั้นไม่ได้เหลียวแลตนเลยแม้เพียงนิด
นางยังต้องการทำให้หนิงฮวาและหนิงเซียนนั้นรู้สึกอับอายไปด้วยโดยการพูดจาดูถูกทั้งสองคนต่อหน้าแขกในงานที่กำลังเดินชมสวนบ้างและจับกลุ่มคุยกันบ้าง
“ส่วนพวกเจ้าที่ทำเป็นมาตีสนิทกับท่านหญิงก็คงหวังที่จะเกาะท่านหญิงเพื่อยกระดับของตนเองจากเด็กชาวป่าชาวเขามาเป็นสหายคนสนิทของท่านหญิงแทนสินะข้ารู้ทันพวกเจ้าหรอก ฮ่า ฮ่า ๆ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ดูท่าแท้ของพวกเจ้าไม่ออกน่ะ”
เอ่ยจบซูเหม่ยก็ปรายหางตาไปมองที่อ้ายเยว่ด้วยสายตาดูแคลน จนทำให้หนิงฮวาที่ยืนมองการกระทำของพวกนางตั้งแต่ต้นจนจบนั้นเริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน
ก่อนที่หนิงฮวาจะเดินไปหยุดอยู่ด้านข้างของอ้ายเยว่และจับมือของนางที่ตอนนี้ได้กำเอาไว้แน่นจนมันเริ่มขึ้นสีแดงจนเป็นรอยแล้วให้คลายออกพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่สดใสไปให้กับอ้ายเยว่เพื่อเป็นการปลอบใจและบอกว่าหนิงฮวาและพี่สาวยังอยู่ข้าง ๆ นางเสมอก่อนที่หนิงฮวาจะก้าวไปยืนด้านหน้าพี่สาวทั้งสองของตนและได้เอ่ยขึ้นมาบ้าง
“พวกท่านนี้ช่างเป็นสตรีที่มีใบหน้าสวยงามกันทุกคนเลยจริง ๆ นะเจ้าคะ เพียงแต่ภายในของพวกท่านนั้นช่างน่าขยะแขยะยิ่งนักเพราะจิตใจของพวกท่านนั้นนอกจากจะดำมืดแล้วนั้นยังเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาอยู่เช่นเดียวกัน”
“แกว่าใครห่ะนั่งเด็กชั้นต่ำ แกรู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับผู้ใด”
“อ้าวนี้แม้แต่ตัวท่านยังไม่รู้ว่าตนเองเป็นใครแล้วข้าจะไปมีความสามารถรู้ได้เช่นไรกันเล่าเจ้าคะ”
“กรี๊ด!! นั่งเด็กชั้นต่ำแก แก”
“หนิงฮวาเจ้าค่ะ ชื่อของข้าคือหนิงฮวาหาใช่ชื่อแก ๆ อย่างที่พวกท่านเรียกไม่”
“ แล้วจะทำไม ข้าจะเรียกแก แกกล้ามีปัญหากับพวกเรางั้นรึ”
“โอ้ว ไม่กล้าเจ้าค่ะ ข้าจะกล้ามีปัญหากับคนที่สามารถพูดจาดูหมิ่นท่านหญิงภายในงานวันเกิดของท่านโดยไม่เกรงกลัวต่อท่านอ๋องและพระชายาได้อย่างไรกันเล่าเจ้าคะมิกล้า ๆ” หลังจากที่หนิงฮวาเอ่ยจบทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็เริ่มหันไปมองทางด้านกลุ่มของพวกซูเหม่ยพร้อมกับซุบซิบนินทาพวกนางต่าง ๆ นานา
“เห็นว่าตนเองเป็นลูกสาวคนโตของท่านเสนาบดีถังแล้วจะใช้อำนาจข่มเหงรักแกใครก็ได้เช่นนั้นรึ”
“ใช่แล้ว เสียทีที่เกิดมาในตระกูลชนชั้นสูงแต่กริยาช่างต่ำกว่าบ่าวไพร่ที่เรือนข้ายิ่งนัก”
“อย่าพูดเสียงดังไปเดี๋ยวพวกนางจะได้ยินแล้วมาเล่นงานพวกเราได้”
“จริงสิ นี้ขนาดในตำหนักของท่านอ๋องพวกนางยังกล้ารังแกท่านหญิงถึงตำหนักเช่นนี้ช่างน่าละอายใจยิ่งนัก”
เสียงกระซิบอื่น ๆ อีกมากมายจนซูเหม่ยทนฟังไม่ไหวจึงแกล้งทำเป็นบีบน้ำตา ให้ดูหน้าสงสารพร้อมทั้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนสะอื้นว่า
“หาได้เป็นอย่างที่เจ้ากล่าวหาข้าไม่ ข้านั้นเพียงแค่เดินมาแสดงความยินดีต่อท่านหญิงที่วันนี้ท่านหญิงอายุครบ 14 หนาวแล้วก็เพียงเท่านั้น เหตุใดพวกเจ้าจึงต้องว่าร้ายพวกข้าเช่นนี้กันฮือ ๆ”
“แปะแปะช่างเสแสร้งได้เก่งยิ่งนักไม่ทราบว่าที่นี่มีบุรุษใดยืนชมละครอยู่หรือเจ้าคะ ท่านถึงต้องบีบน้ำตาแสดงละครเช่นนี้”

หนิงฮวาเอ่ยออกมาอย่าหมั่นไส้พร้อมทั้งมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นบุรุษกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินพูดคุยกันเข้ามาภายในสวนและเมื่อเห็นเหตุการณ์ (ที่ไม่ทั้งหมด)ต่างก็รีบปรี่กันเข้ามาหาพวกของซูเหม่ยและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยปลอบประโลมนางไปด้วย
“ซูเอ๋อร์ใครทำอันใดเจ้า เหตุใดเจ้าถึงได้ร้องไห้เยี่ยงนี้จงบอกพี่มาเถิดเดี๋ยวพี่จะช่วยเจ้าเอง” เมื่อหนิงฮวาและหนิงเซียนได้ยินถ้อยคำที่หวานหยดจนคนฟังแทบจะละลายกลายเป็นน้ำก็ทำให้พวกนางทั้งสองเกิดอากาพะอืดพะอมขึ้นมาทั้นที ก่อนที่ทั้งสองจะหันหน้ามาสบตากันและเบะปากมองบนใส่ไปหนึ่งทีแล้วกลับมาเป็นใบหน้าเรียบเฉย
การกระทำของทั้งสองพี่น้องนั้นรวดเร็วจนไม่มีใครทันสังเกตเห็น ยกเว้นเพียงแค่ชายหนุ่มทั้งสามคนที่ยืนดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นอยู่อีกมุมหนึ่งของต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนัก ก่อนที่หนึ่งในสามคนนั้นจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตลก
“พูดได้ดี ฮ่า ๆ ข้าเพิ่งเคยพบสตรีที่พูดจาได้ตรงไปตรงมาเช่นนี้” ( หย่งหมิง )
“นั้นนะสิ ถ้าเป็นข้าโดนพูดจาเช่นนี้ใส่ข้าคงหน้าชาเหมือนโดนตบเป็นแน่” ( เหวินซาน )
“มันใช่เรื่องที่ต้องสนใจเช่นนั้นรึ คนพวกนี้กล้ารังแกเยว่เอ๋อร์ขนาดนี้เชียวรึช่างบังอาจยิ่งนัก!”
หลังจากที่ท่านแม่ทัพเอ่ยจบเขาได้ก็ได้แผ่กลิ่นอายสังหารออกมารอบๆบริเวณที่ตนและสหายอยู่ด้วยความโมโหจนสหายทั้งสองต่างเอ่ยเรียกสติแล้วบอกให้เขาใจเย็นๆไว้ก่อนรอดูว่าเด็กสาวคนนั้นจะจัดการปัญหานี้อย่างไรเขาจึงได้เก็บโทสะที่มีลงก่อน
ทางด้านของหนิงฮวาหลังจากที่หันหน้าไปมองบนเสร็จแล้วก็หันกลับมามองยังบุรุษที่มาใหม่ นี้คงจะเป็นพี่หยวนจินที่ถังซูเหม่ยเอ่ยถึงเป็นแน่ นางจึงมองสำรวจรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณแล้ว ‘ก็ถือว่าหล่อแบบธรรมดา ๆไม่เห็นจะมีสิ่งใดน่าหลงไหลเลยซักนิดเดียวไม่รู้ว่าพี่อ้ายเยว่ไปหลงไหลได้ปลื้มอะไรกับบุรุษที่มีดีแค่หน้าตาเช่นนี้กันเห้ออ’ หนิงฮวาได้แต่คิดภายในใจเพียงเท่านั้น
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
23 กันยายน 2566
ความยาว
367 หน้า (≈ 97,736 คำ)
ราคาปก
299 บาท (ประหยัด 18%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า