Icon Close

นิตยสาร Creative Thailand ปีที่ 4 ฉบับที่ 4

Sensual Living

ในช่วงปี 1860-1914 กลุ่มจิตรกรในอังกฤษ นำโดย อัลเบิร์ต มัวร์ (Albert Moore) เซอร์ ลอว์เรนซ์ อัลมา-ทาเดมา (Sir Lawrence Alma-Tadema) เซอร์ เฟรเดอริก เลห์ตัน (Sir Frederic Leighton) และเอ็ดเวิร์ด เบิร์น-โจนส์ (Edward Burne-Jones) ได้ร่วมกันเสนอแนวคิดและสร้างรูปแบบงานจิตรกรรมซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหญิงสาวในยุคกลาง โดยถ่ายทอดความน่าหลงใหลนั้นมาเป็นภาพเขียนเหล่าเทพธิดา (Muse) นิมฟ์ (Nymph) เทพปกรณัมกรีกหรือเหล่าวีรสตรีผู้อบอุ่นและกรุณา โดยสัญลักษณ์ของความรัญจวนใจ ลุ่มหลง เร้าอารมณ์ และสุนทรียะจากความงามเหล่านี้ได้รับการเรียกขานว่า วิกตอเรียน เพนท์ติ้ง (Victorian Painting)

เบื้องหลังแนวคิดการบูชาความงามตามธรรมชาติของผู้หญิงนั้น เกิดจากความปรารถนาที่จะยุติความธรรมดาในชีวิตประจำวันของชาวอังกฤษ เพื่อให้ผู้คนได้หันมาเสพความเพลิดเพลินและเข้าใจถึงสุนทรีภาพอันลึกซึ้งท่ามกลางความโชติช่วงทางเศรษฐกิจของยุคสมัย เหล่าศิลปินต่างตั้งใจพัฒนาความงามอันตระการตาและกระตุ้นเร้าความปรารถนาเพื่อแสดงความแข็งขืนต่อจารีตอันเคร่งครัดของยุควิกตอเรียน และสิ่งเหล่านี้ก็ดูจะได้ผล เมื่อแนวคิดการใช้ชีวิตที่ถูกเติมเต็มด้วยความรู้สึกนี้ได้แผ่ขยายไปสู่ผลงานแขนงอื่นๆ ทั้งด้านวรรณกรรม บทกวี โคลงกลอน กระทั่งโรงละครของเช็กสเปียร์ก็ยังนำเสนอแนวคิดที่เปิดเผยต่อความกระหายในรัก ผ่านการประดับตกแต่งโรงละครอย่างพิเศษเพื่อสร้างอรรถรสและความอิ่มเอมใจแก่ผู้ชม

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน อรรถรสของความเร้าอารมณ์ก็ยิ่งเติบโตและเปิดเผย รูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันเปิดทางให้ผู้คนสรรหาความสำราญใจที่สนองตอบต่อแรงปรารถนาได้หลากหลายขึ้นทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย หรือแม้แต่การก้าวข้ามศีลธรรมและหมิ่นเหม่ต่อค่านิยมในสังคม แต่การเปิดกว้างของสังคมที่ยอมรับได้ต่อความต้องการในมุมมืดของมนุษย์ ก็ได้นำมาซึ่งการสร้างธุรกิจที่ตอบสนองต่อความต้องการในด้านที่สว่างมากขึ้น ทั้งที่เป็นการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมา เช่น นิตยสารเพนท์เฮาส์ เพลย์บอย และฮัสต์เลอร์ ซึ่งมียอดขายกระจายไปตามบ้านเรือนอเมริกันชนถึง 200 ล้านเล่มต่อปี หรือการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเซ็กซ์ในออสเตรเลียที่มีรายได้เติบโตจาก 1.13 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2008 มาเป็น 1.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2009 เป็นต้น

ขณะเดียวกัน รูปแบบของการตอบสนองความปรารถนาที่ไม่โจ่งแจ้งแต่ละเมียดละไมมากกว่า ก็นำไปสู่การสร้างผลผลิตที่จรรโลงใจผู้คนผ่านรูป รส กลิ่น เสียง อย่างมีชั้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นความอิ่มเอมจากรสสัมผัสของอาหาร ความประทับใจในวิธีการบริการ หรือความดื่มด่ำจากบรรยากาศของสถานที่ที่ได้ปรุงแต่งอย่างเหมาะสม ความกระหายที่ผ่านการขัดเกลาเหล่านี้จึงนับเป็นความพยายามของสังคมที่จะมอบชีวิตแบบปุถุชนที่มีความปรารถนาจะเห็น จะรู้สึก และจะคาดหวัง ซึ่งหากสังคมสามารถรักษาด้านของความปรารถนาให้สมดุลกับบรรทัดฐานทางสังคมได้อย่างราบรื่น ชีวิตที่น่ารื่นรมย์ก็จะมาพร้อมกับการรู้จักถ่ายทอดความรื่นรมย์นั้น มาเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความมั่งคั่งต่อไปอย่างไม่รู้จบ ตราบเท่าที่ความต้องการของมนุษย์ยังไม่สิ้นสุดนั่นเอง

ในเล่มพบกับ...
The Object... MUSK The Sex Scent
Classic Item... Karma Sutra
Cover Story... Sex: The Source of Creative Energy
Creative Entrepreneur... Boudoir BY DISAYA ผัสสะจากอาภรณ์ชิ้นใน
Creative City... Maldives ความพิสุทธิ์ที่ปลุกเร้า
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
03 มกราคม 2556
ความยาว
36 หน้า
ราคาปก
ฟรี
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถล็อกอินเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า