เทพนวนาคินทร์ ผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนา

คำโปรยปกหนังสือเทพนวนาคินทร์ ผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนา
ขอถวายพระเกียรติแด่ องค์นาคาธิบดี วิสุทธิเทวา ทุกพระองค์คือ
"เทพนวนาคินทร์"
ด้วยโลกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง โลกหนุนรอบ
ตังเองและหมุนรอบดวงอาทิตย์ นั่นคือกฎของจักรวล
เรื่องจักรวาลโดยนักวิทยาศาสตร์ได้บอกเป็นกฎเกณฑ์ไว้ว่า "โลกเป็นดาว
เคราะห์"ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง จึงต้องอาศัยแสงสว่างและพลังงานความร้อนจากดวง
อาทิตย์ที่เป็นแม่ข่ายของจักวาลแห่งนี้
ดังนั้นสภาวะของโลกในแต่ละฤดูจะแตกต่างกันออกไป ตามปริมาณความ
ร้อนที่ได้รับจากดวงอาทิตย์เพราะหมุนเอาส่วนต่างๆ เข้ารับความร้อนไม่เท่ากัน ภาวะ
การณ์ในส่วนต่างๆ ของโลกจึงแตกต่างกันตามวัน ตามเดือน และตามปีที่กำหนด
เอาไว้ ซึ่งก็เกิดมาจากความคิดของผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกก็คือ "มนุษย์"นั่นเอง
"มนุษย์" เป็นสัตว์ประเสริฐมีภาษาของแต่ละกลุ่มหรือเผ่าพันธ์ของตัวเอง
ได้พัฒนาการขึ้นมา ชนชาติไทยก็เป็นอีกหนึ่งเผ่าพันธุ์ของ "มนุษยยยชาติ"ของโลกใบนี้
มีระเบียบและกฎเกณฑ์การอาศัยอยู่ร่วมกัน แบบพึ่งพาอาศัยกัน มีมิตรไมตรีที่ดีที่ต่อ
มนุษย์เผ่าพันธ์อื่นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จนชาวโลกย่องว่าเป็น "สยามเมืองยิ้ม"
ธรรมชาติย่อมมีกฎของธรรมชาติ และมีการกระทำที่เหนือกฎของธรรมชาติ
เพื่อให้เกิดความสมดุลฉันใด คนไทยหรือคนสยามก็ได้ตั้งกติกาเหนือธรรมชาติขึ้นมา
คือการอยู่เหนือกฎของโลกการกำหนด "วัฏจักรสามโลก"ของคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธถือว่าเป็นเรื่อง
ที่น่าคิดและติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะพื้นฐานของการกำหนดให้ปฏิบัติเพื่อไปสู่
จุดหมายที่วางเอาไว้สูงสุด ทุกคนต้องทำดีทั้งเพื่อตัวเพื่อสังคม
และเพื่อประเทศชาติ ซึ่งเกิดผลต่อชีวิตในชาติภพปัจจุบันและอนาคต
การกำหนด "วัฏจักรชีวิต"ของสิ่งที่มีชีวิตที่มองเห็นตัวตนเองคือ มนุษย์และ
ที่มองไม่เห็นตัวตน คือเทวดา กับพญานาค
สวรรค์คือโลกในส่วนที่อยู่บนท้องฟ้ามี เทวาอารักษ์ หรือ เทพอัปสร ต่างๆ
อาศัยอยู่ ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนมนุษย์ที่ทำความดี สร้างคุณประโยชน์ให้สังคมและ
ประเทศชาติก็จะได้ไปจุติในสรวงสวรรค์
"มนุษย์" ก็ใช้ชีวิตโนโลกในฐานะสัตว์ประเสร็ฐไปตามวิถีของสังคมและ
ประเทศชาติของตัวเองกำหนด แต่ปัจปัจบันนี้มีการเอากติกาโลกเข้ามามีส่วนของการ
ดำเป็นชีวิตด้วยเช่นกฎทหาร กฎกีฬา กฎการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้
โลกดำรงอยู่และชนชาติตัวเองยังดำรงอยู่ในโลกต่อไป
มีอีกสิ่งหนึ่งที่ "มนุษย์"ได้กำหนดให้มีชีวิตและดำเนินความเป็นอยู่ตามแบบ
ฉบับของตัวเอง แต่มีการติดต่อและร่วมชีวิตกับมนุษษยในบางโอกาส แต่มนุษย์ไม่
สามารถมองเห็นตัวตนของพวกเขาได้ เพียงแต่จินตนาการรูปร่างออกมาแบบที่คิดว่า
จะเป็น แถมยังมอบยศฐาบรรดาศักดิ์ให้เหมือนมนุษย์เลย
"เมืองบาดาล" และพญานาคหรือนาคราช มีตำนานมายาวนาน อาจจะ
มากกว่า "พระพุทธศาสนา"ด้วย เพราะในขณะที่พระพระพุทธเจ้า ศาสดาของพระพุทธ
ศาสนากำลังปฏิบัติตนเพื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์นั้น พญานาคยังได้เข้ามารับใช้เพื่อ
บดบังลมฝนและพายุ อีกทั้งยังมาช่วยปราบมารที่มาทำลายพระพุทธองค์
"พญานาค"จึงได้ถูกกำหนดยศฐาบรรดาศักติเมื่อทำดี ปฏิบัติชอบตาม
ครรลอง โดยเฉพาะการปฏิบัติทางธรรมะ ตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างเคร่งครัดก็
จะทำให้วิธีชีวิตเก่งกล้ามีอิทธิฤทธิ์มากมายและจะจะบรรลุได้เป็น "เทพยดา" ซึ่งจะมีชื่อ
ชัดเจน โดยเฉพาะท่านที่ได้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์ของบรรดาเหล่านาคาทั้งหลาย
ทั้ง ๙ กษัตริย์ของเหล่านาคาทั้งหลาย ก็จะได้รับพระยศต่อท้ายชื่อของท่าน
เป็น "วิสุทธิเทวา" เกือบทุกพระองค์ และกษัตริย์พญานาคราชที่ดูแลประเทศไทย
นั้นมีชื่อว่า "เจ้าปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา" ก็เป็นการยืนว่าพระองค์
ได้บรรลุการปฏิบัติเป็น "ชั้นเทพ"ที่มาจากพญานาคราชโดยสมบูรณ์
ที่ประทับของพระองค์ก็อยู่ที่ "คำชะโมด" อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดอุดรธานี
ที่ได้รับการเรียกขานว่าเป็น "วังนาคินทร์" สิ่งที่ท่านเมตตาคือการให้โชคลาภแก่คน
ที่ไปกราบไหว้ขอพร หรือเมตตาให้ได้ดิบได้ดีตามที่ขอในแบบต่างๆ มากมาย
หนังสือเล่มนี้จึงได้จัดทำขึ้นเพื่อประกาศเกียรติคุณเจ้าปูศรีสุทโธอย่าง
สมพระเกียรติ ท่านจะได้สัมผัสกับพญานาคอันเรืองนามทั้ง ๙ องค์
๑.พญาอนันตนาคราช พาหนะ คู่บารมีของพระนารายณ์
๒.พญามุจลินท์นาคราช
๓.พญาภุชงค์นาคราช
๔.พญาศรีสุทโธนาคราช
๕.พญาศรีสัตตนาคราช
๖.พญาเพชรภัทรนาคราช หรือ พญาเกล็ดแก้วนาคราช
๗.พญานาคดำแสนสิริจันทรานาคราช
๘.พญายัสมัญนาคราช
๙.พญาครรตระศรีเทวานาคราช
ทั้ง ๙ องค์นาคาธิบดี ผู้ครองนครบาดาล
นอกจากนั้นผู้อ่านยังจะได้สัมผัสเรื่องราวอันลึกลับเกี่ยวกับ
นาค หรือ พญานาคราช
องค์นาคาธิบดี หรือ กษัตริย์แห่งนาคา
เจ้าปู่ศรีสุทโธ แห่ง วังนาคินทน์
พญานาคราช กับ อริยสงฆ์ในแดนสยาม
ตำนานพญานาคสร้างแม่น้ำโขง แม่น้ำน่าน
ตำนานพญานาคกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
สัตว์หิมพานต์กับตำนานบนงานศิลปะ
แม่น้ำโขงมหานทีแห่งชีวิต
ตลอดจนพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบที่มีฤทธิ์ ในการสื่อสารกับเหล่าเทพนาคาธิบดี เหล่านี้ได้
อันเป็นเรื่องราวที่เป็นปัจจัตตัง