Passion in Blue

Passion in Blue เป็นเรื่องราวความรักความแค้นของชายหนุ่มสองคน ที่วนเวียนอยู่รอบเกื้อกูล สไตลิสต์หนุ่มผู้ปักใจในรักแรกกับอานนท์ รุ่นพี่ผู้เมตตา แต่ทว่าก็ทำให้ช้ำใจในภายหลัง และต่อมาก็ลุ่มหลงในรักครั้งใหม่กับเคเดน หนุ่มมาดเซอร์ที่บังเอิญเคยช่วยไว้และได้ร่วมงานการ แต่จู่ๆก็พลันหายวับไปจากชีวิต จนเกือบคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีตัวตนไปแล้ว
ปมในเรื่องมีทั้งปัญหาครอบครัว การแก่งแย่งชิงดีในวงการแฟชั่น และการห้ำหั่นกันของผู้มีอิทธิพลวงการค้าของเถื่อนในโลกมืด ดูเหมือนทั้งสามสิ่งไม่น่าอยู่ในที่เดียวกันได้ แต่สุดท้ายก็ผูกจนเป็นเรื่องราวอันซับซ้อน และบีบคั้นหัวใจ ให้ได้ติดตามกันไปตั้งแต่ต้น จนจบ ว่าสุดท้ายแล้วเกื้อกูลจะเลือกใคร ระหว่างคนที่เคยเป็นรักแรกและฝังใจยากลืมเลือน กับคนที่พร้อมจะรักไม่ว่าเขาจะเคยเป็นของใคร

ถ้าเป็นคุณ และต้องเลือก จะเลือกใครกัน

++++++++++++++++++++++

“ถ้าเราได้เจอกันเร็วกว่านี้ก็คงจะดี...”
ผู้ชายคนหนึ่งพร้อมที่จะรอและให้อภัย ไม่สนใจว่าเขาเคยเป็นของใคร

“พี่รู้...พี่ขอโทษ จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”
ผู้ชายอีกคนที่เคยมอบอ้อมกอด และความสุขล้นใจให้ แม้ท้ายที่สุดจะทำให้เขาต้องเจ็บปวด

บางทีชีวิตคนเราก็ไม่ได้เหมือนในละคร ที่มีตอนจบสมหวัง จริงอยู่ที่มีฉากรักแล้วก็เป็นทุกข์ แต่ส่วนใหญ่ก็มักได้อยู่กับคนที่หัวใจปรารถนา

แต่ในชีวิตจริง การที่จะได้มาซึ่งอะไรสักอย่าง ได้ครอบครอง ได้โอบกอดสิ่งสำคัญไว้ มันยากจนหลายคนท้อ ถ้าใครพอจะมีแรง ก็สู้ต่อ แต่ถ้าคนไหนถอดใจ ก็ต้องก้มหน้ายอมรับโชคชะตากันไป ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายปลายทางชีวิตจะลงเอยกับใคร มีความสุขหรือไม่

เช่นเดียวกับเกื้อกูล เขาพบผู้ชายสองคนที่ทำให้เขาทั้งสุขและทุกข์ มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาให้มาเหมือนๆกัน คือความปรารถนาอันร้อนแรง ชวนให้ดื่มด่ำและลุ่มหลง จนบางครั้ง ต่อให้ต้องทำเรื่องต่ำช้าแค่ไหนเพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติความหอมหวานที่แสนอันตรายนั้น ก็พร้อมยอมทำโดยไม่ต้องไตร่ตรองอะไรอีกต่อไป

“เกื้ออยากจะรักคนแค่คนเดียวไปชั่วชีวิต แต่ถ้ามันจะทุกข์มากขนาดนี้ เกื้อก็ขอไม่รักใครอีกเลย เจ็บคนเดียว ตายคนเดียว คงจะสาสมกับคนอย่างเกื้อแล้ว”