รักที่ข้ามเส้น

พิธีกรก็เริ่มถามคำถามต่าง ๆ แม้ว่าเขาจะรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่คำตอบของเขากลับราบรื่น และดูเป็นธรรมชาติ จนทำให้บรรยากาศของรายการเป็นไปอย่างผ่อนคลาย

"คุณคชาไม่มีท่าทีตื่นเต้นเลยนะคะ นี่เป็นการออกรายการครั้งแรกจริง ๆ หรือเปล่าคะ?" พิธีกรแซวยิ้ม ๆ

คชาคลี่ยิ้มบาง ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร

เมื่อถึงช่วงคำถามสำคัญ พิธีกรเปลี่ยนโหมดเข้าสู่ประเด็นทางธุรกิจ

"งั้นเรามาถึงคำถามที่นักธุรกิจทุกท่านคงอยากทราบกันนะคะ"

คชาพยักหน้ารอรับคำถาม

"ตอนนี้คุณเข้าไปบริหารโรงแรมของเครือวรวงศ์ทั้งหมด คุณมองเห็นอะไรในธุรกิจนี้คะ ถึงได้เข้าซื้อหุ้น จนขึ้นมาเป็นรองประธานบริษัท?"

เขาเว้นจังหวะครู่หนึ่งก่อนตอบ "ถ้าพูดถึงจุดสำคัญของธุรกิจ วงการโรงแรมเป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนใจอยู่แล้วครับ โรงแรมวรวงศ์มีหลายสาขา เป็นโรงแรมระดับห้าดาว ถ้าถามว่าสุดสัปดาห์นี้จะไปพักผ่อนที่ไหนดี ผมเชื่อว่าร้อยละเก้าสิบต้องเลือกโรงแรมวรวงศ์แน่ ๆ ครับ"

พิธีกรพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่แล้วคชาก็พูดต่อด้วยประโยคที่ทำให้ทั้งสตูดิโอแทบหยุดหายใจ

"แต่เหตุผลที่ผมเข้ามาถือหุ้นหลัก เพราะคุณพ่ออุดมยกหุ้นให้ผมในวันแต่งงานครับ"

"อะไรนะคะ!!" พิธีกรถึงกับยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาเบิกกว้างราวกับได้ยินอะไรที่คาดไม่ถึง "คุณแต่งงานแล้วเหรอคะ!?"

"ครับ" คชาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ คล้ายจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเธอ

พิธีกรสาวรีบตั้งสติ "แบบนี้สาว ๆ กว่าครึ่งประเทศคงต้องอกหักแล้วนะคะเนี่ย" เธอพูดแซว ก่อนคลี่ยิ้มหวานกลบเกลื่อน

จากนั้น เธอขยับเข้าใกล้เล็กน้อยก่อนถามเสียงเบาลง "ได้ยินว่าคุณอุดมมีลูกสาวหนึ่งคน แต่พวกเราไม่เคยเห็นเธอออกสื่อเลย เพราะเธอไปอยู่ต่างประเทศ และไม่สนใจจะสืบทอดกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ" เธอเว้นจังหวะไปนิดหนึ่ง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ "ภรรยาของคุณไม่ใช่ว่า"

คชาพยักหน้ารับ ก่อนตอบชัดเจน "ใช่ครับ ภรรยาของผมคือลูกสาวของคุณพ่ออุดม"

เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วสตูดิโอ นี่ถือเป็นข่าวใหญ่ที่ทำให้วงการธุรกิจต้องสั่นสะเทือน! สองบริษัทยักษ์ใหญ่แต่งงานกัน กลายเป็นอาณาจักรยักษ์ใหญ่ ข่าวออกไป พรุ่งนี้หุ้นต้องขึ้นแน่ๆ!!!