ตุลาการ กรรมตาม"ทัณฑ์"

สำหรับผู้อ่าน หนังสือเล่มนี้มิได้เป็นเพียงการเล่าเรื่องของผู้พิพากษาที่ล้มเหลว แต่เป็นกระจกสะท้อนให้เราเห็นถึงความเปราะบางของมนุษย์ ไม่ว่าเราจะอยู่ในตำแหน่งใด ความหลงผิด ความเย่อหยิ่ง หรือความหวาดระแวง ล้วนเป็นกิเลสที่สามารถครอบงำเราได้ หากเราขาดสติ และปัญญา ในการพิจารณา เรื่องราวของผู้พิพากษาเหล่านี้ จึงเป็นคำเตือนและแรงบันดาลใจให้เราทบทวนการกระทำของตนเอง และมุ่งมั่นที่จะดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ ความเมตตา และความยุติธรรม

การนี้ .....เมื่อก้าวแรกของการเขียน หนังสือ เรื่อง "ตุลาการ กรรมตามทัณฑ์" เริ่มต้นขึ้น ผู้เขียนตั้งใจให้หนังสือเล่มนี้ เป็นมากกว่าการเล่าเรื่องราวของผู้พิพากษาที่พลาดพลั้ง มันคือการเดินทางสู่ส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ สำรวจกิเลสที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดของวิจารณญาณ และสะท้อนถึงกฎแห่งกรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผ่านกรณีศึกษาของผู้พิพากษาจากหลากหลายมุมโลก ตั้งแต่ท้องถิ่นอันเงียบสงบของเชียงใหม่ ไปจนถึงมหานครอันคึกคักอย่างนิวยอร์ก และสิงคโปร์ หวังว่าผู้อ่านจะได้เห็นภาพของความเปราะบาง ความกล้าหาญ และการต่อสู้ภายในของผู้ที่แบกรับหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ในการพิทักษ์ความยุติธรรม
ในแต่ละตอนช่วงท้ายๆของเล่มนี้ ผู้เขียนได้ถักทอเพิ่มเติมเรื่องราวของความล้มเหลวที่เกิดจากกิเลสความอคติ ความโลภ ความโกรธ ความเกียจคร้าน ความหลงตัว ความยึดติด และความกลัวเพื่อแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ผู้ที่มีความรู้ และอำนาจก็ไม่อาจรอดพ้นจากผลของการกระทำที่ปราศจากสติ ผ่านปรัชญาพุทธศาสนา และ แรงบันดาลใจจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ผู้เขียนหวังว่าเรื่องราวเหล่านี้ จะเป็นเครื่องเตือนใจว่า ความยุติธรรมที่แท้จริงต้องตั้งมั่นบนสติ ความซื่อสัตย์ และความกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
การเขียนหนังสือเล่มนี้ ไม่เพียงเป็นการสำรวจความผิดพลาดของผู้อื่น แต่ยังเป็นการทบทวนตัวเองในฐานะนักเขียน ทุกตัวละคร ทุกฉาก และทุกบทเรียนในเล่มนี้ สะท้อนถึงความจริงที่ว่า มนุษย์ทุกคนล้วนเผชิญหน้ากับกิเลสในรูปแบบต่างๆ และการเอาชนะกิเลสนั้นต้องอาศัยการตระหนักรู้ และความมุ่งมั่น
ผู้เขียนหวังว่า ผู้อ่านจะพบแรงบันดาลใจจากตัวละครที่หันไปพึ่งพาธรรมะเพื่อเยียวยาจิตใจ และเห็นว่าความทุกข์จากกรรม สามารถกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและการค้นพบตัวเอง

ในฐานะนักเขียน รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ และหวังว่า หนังสือเรื่อง "ตุลาการ กรรมตามทัณฑ์" จะไม่เพียงเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ และความบันเทิง แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมทางที่ชวนให้ผู้อ่านทบทวนการกระทำของตนเอง และมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตด้วยสติ และความเมตตา ขอให้ทุกท่านที่พลิกหน้ากระดาษเล่มนี้พบแสงสว่างแห่งปัญญา และก้าวเดินบนเส้นทางแห่งความยุติธรรมทั้งในใจ และในสังคม

ในท้ายที่สุด หนังสือ **"ตุลาการ กรรมตามทัณฑ์"** ขอฝากข้อคิดไว้ว่า ความยุติธรรมมิใช่เพียงหน้าที่ของผู้พิพากษา แต่เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคนในสังคม ไม่ว่าเราจะอยู่ในบทบาทใด การเลือกที่จะยืนหยัดเพื่อความจริง และความถูกต้อง แม้ในยามที่มันยากลำบาก ย่อมเป็นการสร้างรากฐานให้กับโลกที่ยุติธรรมยิ่งขึ้น ขอให้เรื่องราวในเล่มนี้เป็นแสงสว่างที่นำทางให้เราก้าวไปข้างหน้าด้วยสติ

และไม่หลงลืมว่า ทุกการกระทำของเราจะทิ้งร่องรอยไว้ในผืนผ้าของเวลาร่องรอยที่อาจกลายเป็นกรรม หรือกลายเป็นบุญกุศลที่นำพาความสงบสุขมาสู่ใจเรา และผู้อื่น

ขอโปรดสนับสนุนหนังสือที่น่าอ่าน น่าศึกษา เล่มนี้
ขอขอบคุณ