สมุดจดดวงของอู้ด เล่ม 3

ต่อไปผมจะอ่านราศีจักรผสมทักษารวมไปเลยนะครับ เริ่มจาก ๖ ตัวแทนของสมมุติเทพ หรือก็คือพระราชา

๖ มนตรี เป็นเกษตรที่ราศีตุลย์ ภพวินาสน์ = ตำแหน่งราชา(6) จะคงอยู่ตลอดไป(เกษตร) เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของปวงชน(ตุลย์) เป็นผู้ช่วยเหลือประเทศ(มนตรี) อยู่เบื้องหลัง(วินาสน์)
๖ ร่วม ๗ ศรี ที่เป็นอุจ ในเรือนวินาสน์ = องค์ราชา(6) จะเสวยสุขมั่งมี(ศรี) อยู่บนภาระความกดดัน(7) ที่ประชาชน(ตุลย์) จำนวนมาก(อุจ) ต้องแบกรับคอยช่วยเหลือ(มนตรี) อยู่เบื้องหลัง(วินาสน์)
๗ เป็นเจ้าสหัชชะ กุม ๖ เจ้าปัตนิ = การเจรจา(สหัชชะ) กับศัตรูเพื่อนบ้าน(6 เจ้าปัตนิ) ที่เป็นไปในลักษณะเอาผลประโยชน์เข้าตัว พูดถึงเรื่องเก่าๆ(7) จะเกิดความราบรื่น(7 ศรี) เกิดรายได้เข้าประเทศ(6 มนตรี) เสมอ(6 เกษตร)
สถาปัตยกรรมของเก่า(7 ในเรือน 6) ที่ใหญ่โต(อุจ) ผู้คนทั่วไปชื่นชอบ(ตุลย์) จะทำเงิน(เรือน 6) ได้ตลอดไป(เกษตร) มีคนเข้าออก(7 สหัชชะ) เยอะมาก(อุจ) อย่างไม่น่าเชื่อ(วินาสน์) = นครวัด นครธม หรือแม้แต่เขาพระวิหารที่เขมรใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาจากไทยไป คือรายได้หลักของประเทศ นักท่องเที่ยวจะมาชมกันเยอะมาก
๖๗ ร่วม ๔ เดช ในเรือนวินาสน์ = รายได้จากการเข้าชมโบราณสถาน(67) คือรายได้หลัก(64 คู่ธาตุน้ำ) เป็นงานบริหารจัดการหลัก(4 เดช) ที่ประเทศต้องทำอยู่เบื้องหลัง(วินาสน์)
๔ เป็นเจ้าลาภะ/มรณะ = นักท่องเที่ยว นักศึกษา(4) จากต่างประเทศ(มรณะ) จะเอาเงินมาให้(ลาภะ)
๖๔๗ ร่วม ๑ นิจ กาลี เจ้ากัมมะ ในเรือนวินาสน์ = รายได้จากนักท่องเที่ยวที่เข้าชมโบราณสถาน(647) ได้มาจากการโชว์ศักยภาพ(16) อย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี(1 นิจ) แปลกพิสดาร ไม่มีใครเขาทำกัน(1กาลี) เพียงหวังเอาผลประโยชน์เข้าตัว(17) อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร(14) เพื่อสร้างงาน(1 เจ้ากัมมะ) ให้ชาวบ้านจำนวนมาก(17) และจะตั้งใจทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ(17 คู่ธาตุไฟ) เพราะทำแล้วสำเร็จดี(7 ศรี) ได้เงินเยอะด้วย(46 คู่ธาตุน้ำ)

ต่อไปอ่าน ๑ ซึ่งหมายถึงตัวนายกรัฐมนตรี การที่วาง ๑ กาลีให้เป็นนิจในเรือนวินาสน์ แบบนี้จะส่งผลอย่างไรต่อประเทศกันนะ เค้าว่ากันว่าหากให้ดาวกาลีหมดกำลัง กาลีจะไม่ส่งผลร้าย แถมยังพลิกร้ายกลายเป็นดีอีกด้วย
ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า.. ไปดูกัน

๑ นิจ กุม ๖ เกษตร ในวินาสน์ = ฤกษ์นี้กำหนดให้พระราชาได้ครองอำจาจ(6) ตลอดไป(เกษตร) และให้ตัวนายก(1) อ่อนกำลังลง(นิจ) ไม่สามารถมาแย่งชิงตำแหน่งกษัตริย์ได้ ทำได้แค่เพียงเป็นตัวแทนของราชา(16)
แถม ๖ ยังกุม ๗ อุจ ศรี = ทำให้ตัวราชา(6) ยึดเกาะบัลลังค์กษัตริย์(7 ศรี) ได้อย่างเหนียวแน่น ยาวนาน(7อุจ)

แต่โหรท่านคงลืมเรื่องสำคัญของกาลีไป 2 อย่าง
@ 7 ศรี เป็นคู่ธาตุ กับ 1 กาลี ทำให้กาลีมีกำลัง = ความแปลกบางอย่าง(กาลี) ในตัวนายกกัมพูชา(1) จะเกี่ยวข้องกับ(กุม) ความโหดเหี้ยม การหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง(7) โดยจะใช้ตำแหน่งหน้าที่การงาน(คู่ธาตุไฟ) ทำให้เกิดผลสำเร็จ(ศรี) อย่างหน้าด้านๆ ไร้มนุษยธรรม(1นิจ) และจะทำอย่างลับๆ เกิดความวิบัติฉิบหาย(วินาสน์) ทำแบบไม่สนใจความสุขของประชาชน(1นิจ เรือนตุลย์)
@ 1 กาลี กุม 47 คู่สมพลประหัตประหาร และ 6 = นายก(1) จะใช้ความไร้เกียติไร้ศักดิ์ศรี(1นิจ) ศึกษาความเป็นไปได้(14 ในเรือน 6) วางแผนอย่างรอบคอบ รอเวลาที่เหมาะสม(17 ในเรือน 6) เพื่อตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่อย่างแปลกประหลาด(1 กาลี) หรือก็คือก่อรัฐประหาร(47)
(47 มีฉายาว่า คู่สมพลประหัตประหาร ลองไปสังเกตกันดูเถอะครับ ดาวคู่นี้มักจะเกี่ยวข้องกับความตาย และการวางแผนโค่นล้มอะไรบางอย่างเสมอๆ)

ตอนที่วางฤกษ์ การปลดแอกทำได้สำเร็จ(2 ศุภะกุมลัคน์) แต่ผู้คนก็เป็นสุขแค่ชั่วคราว(2นิจ) ตัวเจ้านโรดมจะส่งคนไปตั้งพรรคการเมืองของตัวเอง(89ในสหัชชะ โยคลัคน์) เพื่อให้ตัวเองควบคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ(89เล็ง 0ในศุภะ) เนื่องจากยังมีฝูงชนจำนวนมากคอยเบียดเบียนบัลลังค์ราชาเป็นคลื่นใต้น้ำอยู่(1476 เบียนลัคน์)
ในเวลาต่อมาผู้คนจะอดอยาก การหากินลำบาก การค้าทำไม่ได้ การศึกษาก็ไม่มีให้ลูกหลาน ชนชั้นปัญญาต้องตายและติดคุก มีเพียงผู้ใหญ่บางส่วนเท่านั้นที่รอดมาได้(5ประ ในมรณะ) การเมืองการปกครองจึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว(0ใน ศุภะโดน 5ในมรณะเบียน) เกิดผู้นำอำมหิต โหดร้ายผิดมนุษย์มนา มาสร้างความฉิบหายให้ประเทศ(1นิจ กาลี ในวินาสน์) คนๆนี้คิดล้มล้างระบอบกษัตริย์ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ(1467 ในวินาสน์) เขาจึงใช้อำนาจที่มีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พี่น้องในชาติกันเองจำนวนมากมายมหาศาล อย่างไร้มนุษยธรรม(147 เกนท์กับ 89ในสหัชชะ) เกิดเป็นกลียุคขึ้น(147 เกนท์ 0ในศุภะ) = ยุคเขมรแดงครองอำนาจ

เหตุการณ์นี้คงเป็นเรื่องของคำสาปแช่งที่เขมรโดนคนโบราณทำไว้ ด้วยอำนาจของ 1467 ในวินาสน์ เพราะ 17 คือคู่ธาตุไฟ / 7 คือของเก่า ความแค้น / 1 คือพลังงานที่ทำให้มีชีวิต / พอ 1 เป็นกาลี ก็คือ การใช้วิชามืดเพื่อทำให้พลังงานบางอย่างเกิดขึ้นบนโลก / กลุ่มดาว 1467 นี้อยู่เรือนวินาสน์ พอผสมธาตุกันแล้วจะได้เป็น วิชาไสยศาสตร์ / ซึ่งคุนไสยในคราวนี้ก็เกิดผลสำเร็จซะด้วยเพราะ 7 เป็นศรี ตัวความสำเร็จ
ดังนั้นเมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันจะได้ความว่า เป็นคุนไสยที่คนสมัยก่อนทำไว้เพราะเคียดแค้นมาก(7อุจ) หวังผลให้เกิดความฉิบหายแก่ประเทศเขมร(วินาสน์ลัคน์) โดยจะมีผู้นำประเทศที่จิตอ่อน เห็นแก่ตัว เป็นผู้ทำให้ไฟแค้นนี้เกิดขึ้นจริง(1นิจ)

ไม่ทราบว่าโหรท่านพลาดตรงนี้ไปได้อย่างไร ยิ่งโหรวางให้ 1กาลี กุม 6มนตรี นั่นก็แปลว่ากาลีจะทำร้ายมนตรีไปด้วย = การทำลายประเทศนี้จะไม่มีใครมาช่วยเหลือได้เลย ต้องรอให้พวกคอมมิวนิสต์ด้วยกันมาช่วยเหลือกันเองด้วยการยึดดินแดน(47 มาช่วย) กาลีจะได้โชว์ฝีมือทำลายประเทศอย่างเมามันส์ สาแก่ใจผู้สาปแช่งยิ่งนัก(16 คู่สมพล) การจ้องจะทำรัฐประหารแบบนี้จะเกิดขึ้นตลอดไป(147 ในวินาสน์) ตราบใดที่เจ้านโรดม สีหนุ ยังคงเป็นกษัตริย์อยู่(6เกษตร ในวินาสน์)
ทางแก้มี 2 ทางคือ รอให้กษัตริย์สิ้นบุญ หรือไม่ก็วางฤกษ์ก่อตั้งประเทศใหม่อย่างเป็นทางการ "แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" ผมว่าฟ้าคงเลือกทางเลือกแรกให้เขมรครับ แต่ถึงกระนั้นหากยังคงใช้ฤกษ์อันเดิมอยู่ กษัตริย์องค์ใหม่ก็ยังคงต้องรับผลของฤกษ์ต้องสาปนี้อยู่เหมือนเดิมตลอดไป

ต่อมากัมพูชาก็ได้นายกคนใหม่ คนๆนี้ก็จ้องจะทำรัฐประหารอีกตามอำนาจของดวงเมืองและคำสาปแช่ง แต่ก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้ เพราะกษัตริย์(6) ยังมีคนเข้าข้างอยู่(มนตรี) จำนวนมาก(เกษตร) นายกคนนี้จึงตัดสินใจทำเรื่องประหลาด(1 กาลี) แต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นจ้าวครองเมือง(47) เพื่อทำงานให้ประเทศได้สำเร็จ(4เดชกุม7ศรี) มีตำแหน่งเทียบเท่ากษัตริย์ที่ยังอยู่อย่างเป็นทางการ(47 กุม 16) หน้าด้านๆ(1นิจ) น่าเหลือเชื่อ(วินาสน์)
กาลีก็ยังคงเป็นกาลีอยู่วันยังค่ำครับ ถึงแม้กาลีจะทำร้ายตัวกษัตริย์ไม่ได้ แต่กาลีก็ทำร้ายประชาชนเต็มๆ(๑กาลี เบียน ๒ ตัวประชาชนที่อุตส่าห์ได้อิสรภาพมา) อันที่จริงกาลีแปลว่า "แปลก" การที่กาลีจะมีกำลังได้นั้นก็เพราะ ๑ กาลี มันดันทำตัว "ชั่วร้าย" ตามความหมายอื่นๆของกาลีด้วยตัวมันเอง
หรือก็คือ ตัวนายกเขาทำตัวชั่วร้ายตรงตามความหมายกาลีด้วยตัวเขาเอง แล้วประเทศชาติก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้มีนายกได้ เพราะหากไม่มีนายก หรือให้อำนาจนายกน้อยๆตามความหมายนิจ กาลีถึงจะไม่สามารถสำแดงฤทธิ์ออกมาได้

นี่จึงเป็นเหมือนคำสาปที่เลือกวางฤกษ์ให้ ๑ เป็นทั้งกาลีและนิจในวินาสน์ ที่จริงการเป็นนิจของดาวไม่ได้แปลว่ามันจะต้องส่งผลร้ายเสมอไป ๑ เป็นนิจ คือ ยอมลดเกียรติตัวเองเพื่อคลุกคลีกับประชาชน ส่วนภพวินาสน์ก็ไม่ได้แปลว่าต้องวิบัติ ฉิบหาย มันยังมีความหมายว่าเหนือความคาดหมาย หรืองานที่จำเป็นต้องทำอีกด้วย
เหตุที่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นของ ๑ นิจ ในเรือนวินาสน์ ส่งผลร้ายต่อประเทศกัมพูชา อย่างหนัก นั่นก็เป็นเพราะตัวนายกทุกยุคทุกสมัยเขาทำตัวแบบนิจและแบบวินาสน์ด้วยตัวเขาเอง ไม่มีใครไปบังคับพวกเขาเลย ไม่ต้องไปโทษแต่ดวง
ดวงมันเป็นแค่แผนที่ครับ มันแค่บอกแนวโน้มของถนนแต่ละเส้นว่าจะเป็นอย่างไร... คนเราสามารถเลี่ยงเส้นทางที่จะเดินได้เสมอ นี่จึงทำให้คนเราสามารถเบี่ยงเบนผลลัพธ์ที่จะเกิดจากดวงชะตาได้ทุกคน ขอเพียงมีสติ และตั้งใจว่าจะเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรม อย่างที่พุทธะเคยกล่าวไว้