ล็อกอินเข้าระบบ
เข้าระบบผ่าน Social Network
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Line
เข้าสู่ระบบด้วย Apple
เข้าสู่ระบบด้วย Google
หรือ เข้าระบบด้วยบัญชี meb
จำ Password ไม่ได้
จำ Username ไม่ได้
หากยังไม่สมัครบัญชี meb โปรด
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก MEB Account
กรุณาใส่ข้อมูลที่มีเครื่องหมาย * ให้ครบถ้วน
Username
*
ต้องมีไม่ต่ำกว่า 4 ตัวอักษร และยาวไม่เกิน 32 ตัวอักษร และใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ a ถึง z, A ถึง Z หรือเครื่องหมาย _-@.
Password
*
ระบุอย่างน้อย 8 ตัว
Retype Password
*
E-mail
*
Display name
*
Phone
ระบุเฉพาะตัวเลข
First Name
Last Name
Gender
Not specified
Male
Female
ส่งข้อมูล
ล็อกอินเข้าระบบ The1
สำหรับผู้ที่มีบัญชี meb อยู่แล้ว
ครอปรูปภาพ
ล็อกอินเข้าระบบ / สมัครสมาชิก
ล็อกอินเข้าระบบ
ตะกร้า
จัดการอีบุ๊กที่วางขาย
จัดการอีบุ๊ก
อีบุ๊กทั้งหมด
เมนู
อีบุ๊กทั้งหมด
นิยายทั้งหมด
นิยายแปล
การ์ตูนทั้งหมด
อีบุ๊กทั่วไป
หนังสือเด็ก
หนังสือเรียน
หนังสือเสียง
บุฟเฟต์
หมวดหมู่ทั้งหมด
สำนักพิมพ์
เลือกหมวดหมู่ย่อย
ค้นหาสำนักพิมพ์
หน้าแรก
ขายดี
มาใหม่
โปรโมชัน
ฟรีกระจาย
ฮิตขึ้นหิ้ง
แนะนำ
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ล็อกอินเข้าระบบ
กรุณายืนยันบัตรประชาชนก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ไปยืนยันบัตรประชาชน
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชน
กรุณาดำเนินการใหม่อีกครั้งในภายหลังค่ะ
ขออภัยค่ะไม่สามารถเข้าชมได้
เนื่องจากเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
คุณสามารถให้กำลังใจนักเขียนได้ โดยให้ทิปเพิ่มจากราคาปกติ
เสียงเพรียกของคธูลูและเรื่องสั้นอื่นๆ (The Call of Cthulhu)
โดย
H. P. Lovecraft
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
นิยายลึกลับ/เขย่าขวัญ
ทดลองอ่าน
ซื้อ 89 บาท
No Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
H. P. Lovecraft
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
นิยายลึกลับ/เขย่าขวัญ
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
ประเภทไฟล์
pdf, epub
(สารบัญ)
วันที่วางขาย
29 กันยายน 2568
ความยาว
113 หน้า (≈ 26,685 คำ)
ราคาปก
250 บาท (ประหยัด 64%)
เสียงเพรียกของคธูลูและเรื่องสั้นอื่นๆ (The Call of Cthulhu)
โดย
H. P. Lovecraft
ไศเลนทร์
นิยายลึกลับ/เขย่าขวัญ
ทดลองอ่าน
ซื้อ 89 บาท
No Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
H. P. Lovecraft
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
นิยายลึกลับ/เขย่าขวัญ
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
ในบรรดางานเขียนของ เอช. พี. เลิฟคราฟต์ น้อยเรื่องนักที่จะสะท้อนแก่นแท้ของจักรวาลทัศน์อันมืดมนของเขาได้ชัดเจนเท่า เสียงเพรียกของคธูลู (The Call of Cthulhu) เรื่องเล่านี้มิใช่เพียงงานเขียนสยองขวัญ หากแต่เป็นภาพวาดขนาดใหญ่ที่กรีดด้วยหมึกดำลงบนผืนผ้าใบแห่งสติปัญญาของมนุษย์ เรื่องราวเริ่มต้นด้วยบันทึกและเศษซากของข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยผู้บรรยาย ซึ่งค่อย ๆ คลี่คลายออกเป็นตำนานสยดสยองของสิ่งมีชีวิตโบราณจากห้วงจักรวาลอันห่างไกล สิ่งนั้นก็คือ "คธูลู" เทพโบราณผู้หลับใหลอยู่ใต้เกลียวคลื่นทะเลลึก ดั่งมังกรอันนิรันดร์ที่มิอาจสยบได้
สิ่งที่ทำให้เสียงเพรียกของคธูลู โดดเด่นจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เพียงความสยดสยองของรูปร่างปีศาจที่เลิฟคราฟต์บรรยายไว้ดุจฝันร้ายปนภาพนิมิต แต่คือบรรยากาศที่ค่อย ๆ ทับถมลงบนใจของผู้อ่านทีละชั้น เสมือนหมอกพิษที่ซึมเข้าสู่จิตใจ เนื้อหานำเสนอผ่านมุมมองที่กระจัดกระจาย ทั้งบันทึก ตำนาน เรื่องเล่า และบทความวิชาการ ทำให้ความจริงปรากฏออกมาอย่างแหว่งวิ่นคล้ายภาพสะท้อนในกระจกที่แตกร้าว ยิ่งผู้อ่านพยายามต่อชิ้นส่วนให้สมบูรณ์ ความสยองก็ยิ่งบานสะพรั่ง
เสียงเพรียกของคธูลู เป็นการประกาศว่ามนุษย์คือสิ่งมีชีวิตเล็กน้อยในห้วงจักรวาล มนุษย์มิได้เป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่ง แต่เป็นเพียงฝุ่นผงที่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ความรู้และวิทยาการที่เราภาคภูมิกลับเป็นเหมือนเปลวเทียนริบหรี่ เมื่อเทียบกับห้วงอเวจีแห่งความลี้ลับที่กบดานอยู่หลังม่านแห่งความจริง คธูลูจึงมิใช่เพียงสัตว์ประหลาด แต่เป็นสัญลักษณ์ของความไร้ความหมาย ความพ่ายแพ้ของเหตุผล และความเล็กจ้อยของชีวิต
ในอีกแง่มุมหนึ่ง เรื่องนี้ยังสะท้อนความกลัวที่ฝังลึกของเลิฟคราฟต์ต่อสิ่งที่เขามองว่า "อื่น" หรือ "แปลกปลอม" เกาะเรลเยห์ ที่จมอยู่ใต้ทะเลอันไร้แผนที่ คือภาพแทนของความไม่รู้และสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ ส่วนลัทธิที่บูชาคธูลูเป็นสัญลักษณ์ของความหวาดระแวงต่อวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้งที่มาจากต่างแดนและจากห้วงจิตใต้สำนึกของมนุษย์เอง
อีกหนึ่งแง่มุมสำคัญคือการเล่นกับ "ความรู้" เรื่องราวเผยให้เห็นว่าความรู้คือประตูที่เปิดสู่หายนะ เมื่อผู้บรรยายค้นหาลึกลงไป เขาก็ยิ่งเข้าใกล้ความจริงที่อันตรายจนเกินจะรับไหว เลิฟคราฟต์ กำลังชี้ให้เราเห็นว่า การรู้ทุกสิ่งไม่ใช่พร แต่เป็นคำสาป เพราะเบื้องหลังความจริงแท้ คือความสยองที่มนุษย์มิอาจทนมองมันได้
เสียงเพรียกของคธูลูจึงเป็นทั้งตำนานสยองขวัญและปรัชญาอันเยือกเย็น มันบอกเล่าเรื่องราวของปีศาจ แฝงการสำรวจขอบเขตของมนุษย์ในห้วงจักรวาล ที่ซึ่งเหตุผล ความเชื่อ และศรัทธา ล้วนเป็นเพียงเส้นด้ายบางเบาที่พร้อมจะขาดสะบั้นลง เมื่อสัมผัสกับเสียงเรียกจากความมืดอันไร้ก้นบึ้ง
นอกจากเสียงเพรียกของคธูลู ในเล่มนี้ยังมีเรื่อง 1. คัมภีร์ The Book เรื่องสั้นชิ้นนี้เปรียบเสมือนบันทึกแห่งฝันร้าย เป็นงานที่ค้างคาและยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่กลับสะท้อนหัวใจของเลิฟคราฟต์ได้อย่างงดงาม เรื่องราวเริ่มจากหนังสือลึกลับ แหล่งรวมความรู้ต้องห้ามที่เปิดประตูสู่ห้วงโลกเหนือสำนึก หนังสือในเรื่องไม่ใช่เพียงวัตถุ หากเป็นสัญลักษณ์ของความทะเยอทะยานที่มุ่งสู่ความรู้สูงสุด และการล่มสลายที่รอคอยอยู่เบื้องหลัง ความรู้ในจักรวาลของเลิฟคราฟต์คือหีบสมบัติพิษ ใครก็ตามที่เปิดมัน ย่อมไม่อาจหลีกพ้นความบ้าคลั่ง โดยแฝงแง่มุมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับความรู้ ความรู้ที่ไม่ใช่เสรีภาพ หากเป็นพันธนาการ ความอยากรู้อยากเห็นกลายเป็นบ่วงรัดคอ มนุษย์ที่ไขประตูสู่ความจริงเกินจะรับไหว จะจบลงด้วยการถูกกลืนสู่ความมืดนิรนาม
2. แมวแห่งอุลธาร์ The Cats of Ulthar เรื่องเล่าที่ดูเรียบง่ายดุจนิทาน แต่แฝงด้วยกลิ่นอายแห่งความลี้ลับ อุลธาร์คือเมืองที่แมวได้รับการเคารพว่าเป็นสัญญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นทั้งผู้พิทักษ์ ความงาม และความยุติธรรม มีเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามีภรรยาผู้โหดร้ายที่ชอบฆ่าแมว สุดท้ายจบลงด้วยการล้างแค้นอันลี้ลับจากฝูงแมวทั่วทั้งเมือง โดยเรื่องนี้จะสะท้อนถึงความเชื่อของเลิฟคราฟต์ ที่ยกย่องแมวในฐานะสิ่งมีชีวิตที่มีสายใยโยงไปถึงความลึกลับและโลกอื่น แมวในอุลธาร์ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับอันเร้นลับของจักรวาล พลังที่อยู่เหนือกฎของมนุษย์ เรื่องนี้ยังสื่อถึง "ความยุติธรรมแบบจักรวาล" ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ผู้ที่กระทำความโหดร้ายย่อมถูกชำระบัญชีโดยพลังที่เกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจ
3. แดกอน Dagon ซึ่งเป็นเรื่องแรก ๆ ของเลิฟคราฟต์ที่สะท้อนโครงร่างของ "จักรวาลสยอง" ได้ชัดเจน บอกเล่าเรื่องราวของทหารผู้หนึ่งที่พบเกาะประหลาดที่โผล่ขึ้นจากทะเล เขาได้เห็นสิ่งมีชีวิตมหึมาดุจเทพโบราณที่มีนามว่าแดกอน การเผชิญหน้านั้นทำให้เขาจมอยู่กับความบ้าคลั่งและความหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรื่องนี้คือบทกวีแห่งความเล็กจ้อยของมนุษย์ต่อธรรมชาติและสิ่งที่เหนือกว่า สิ่งมีชีวิตโบราณใต้ท้องทะเลคือสัญลักษณ์ของความจริงที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำแห่งเหตุผลและวิทยาศาสตร์ มนุษย์เพียงก้าวเลยขอบเขตไปนิดเดียวก็พร้อมจะถูกกลืนหายไปโดยพลังอย่างไม่อาจควบคุมได้
4. อซาธอท Azathoth แม้จะเป็นเพียงเศษชิ้นงานที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ชื่อของมันก็กลายเป็นเสาหลักในจักรวาลของเลิฟคราฟต์ อซาธอทคือ "เทพบอดผู้บ้าคลั่ง" ศูนย์กลางแห่งจักรวาลที่เต้นระบำไร้ทิศทางท่ามกลางเสียงดนตรีปีศาจ อซาธอทไม่ได้มีเจตนา ไม่ได้มีความชั่วร้าย หากเป็นความไร้สำนึกอันบริสุทธิ์ พลังแห่งการสร้างและทำลายโดยปราศจากความหมาย ในแง่ของปรัชญา อซาธอทคือภาพแทนของจักรวาลที่ไร้เหตุผล จักรวาลที่ดำรงอยู่อย่างไร้เป้าหมาย ความสยองมิได้อยู่ที่ความชั่วร้าย หากอยู่ที่การไร้ซึ่งความหมายโดยสิ้นเชิง มนุษย์เมื่อเปรียบกับการเต้นระบำของอซาธอท ก็ไม่ต่างอะไรจากฝุ่นละอองในพายุที่ไร้ทิศทาง
5. นยาร์ลาธอเทป Nyarlathotep แตกต่างจากเทพโบราณองค์อื่น ๆ นยาร์ลาธอเทปมิได้เป็นสิ่งที่หลับใหลหรือไร้สำนึก แต่เป็นตัวแทนแห่งการเคลื่อนไหว การแทรกแซง และการหลอกลวง เขาเดินทางไปทั่วโลกในรูปร่างมนุษย์ มอบความสยองและความบ้าคลั่งให้แก่ผู้คน เรื่องสั้นนี้บรรยายการเดินทางของเขาพร้อมการล่มสลายของสังคมและเหตุผลของมนุษย์ นยาร์ลาธอเทปคือสัญลักษณ์ของความวุ่นวายและความจริงที่บ่อนทำลายโครงสร้างของมนุษย์ เขาคือ "ทูตแห่งเทพโบราณ" ผู้เผยให้เห็นว่ามนุษย์ไม่ต่างอะไรจากหุ่นเชิด นยาร์ลาธอเทปยังสะท้อนความหวาดกลัวของเลิฟคราฟต์ต่อความเสื่อมถอยของอารยธรรมและการครอบงำของพลังที่ไม่อาจต้านทาน
6. คนนอก The Outsider หนึ่งในผลงานที่เปี่ยมด้วยโศกนาฏกรรมและความงามทางกวี เรื่องเล่าของผู้เล่าที่อาศัยอยู่ในความมืดมาตลอดชีวิต และค่อย ๆ ปีนขึ้นมาสู่แสงสว่าง ทว่าเมื่อพบผู้คน เขากลับทำให้ทุกคนแตกตื่นหนีไป สุดท้ายเขาจึงได้รู้ว่า "ปีศาจ" ที่ผู้คนหวาดกลัวนั้นก็คือตัวเขาเอง คนนอกแตกต่างจากเรื่องอื่น ตรงที่เป็นเรื่องส่วนตัวอย่างยิ่ง มันสะท้อนความโดดเดี่ยว ความรู้สึกแปลกแยก และการตระหนักถึงความอัปลักษณ์ของตนเองในสายตาสังคม เป็นทั้งสัญลักษณ์ของ "ความเป็นอื่น" ที่เลิฟคราฟต์รู้สึกมาตลอดชีวิต และยังสะท้อนสภาวะของมนุษย์โดยทั่วไป ที่ต่างไขว่คว้าหาแสงสว่าง แต่กลับต้องพบว่าตนเองมิใช่สิ่งที่โลกพร้อมจะยอมรับ
ผลงานเหล่านี้ของเลิฟคราฟต์คือเงาสะท้อนของความหวาดกลัวที่อยู่เหนือกาลเวลา ความกลัวต่อความไม่รู้ ความกลัวต่อการไร้ความหมาย และความกลัวต่อ "ความเป็นอื่น" ที่เรามิอาจทำความเข้าใจได้ แต่ละเรื่องไม่ใช่เพียงการเล่าถึงปีศาจหรือเทพเจ้า แต่คือการเปิดม่านให้เห็นความเปราะบางของมนุษย์ในจักรวาลที่ไม่แยแสต่อการดำรงอยู่ของเรา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านที่น่าเคารพทั้งหลายจะชื่นชอบกัน แม้เพียงเรื่องเดียวก็ยังดี
เมธา วราภักดิ์กูล
ผู้แปล
หนังสือแปล
ปีศาจ
ลึกลับ
ปรัชญา
สยองขวัญ
ประเภทไฟล์
pdf, epub
(สารบัญ)
วันที่วางขาย
29 กันยายน 2568
ความยาว
113 หน้า (≈ 26,685 คำ)
ราคาปก
250 บาท (ประหยัด 64%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถ
เข้าสู่ระบบ
เพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า
รีวิวทั้งหมด