แค้นรักนายฮ้อยทมิฬแห่งลุ่มน้ำชี

อารัมภบท

"แค้นรักนายฮ้อยทมิฬแห่งลุ่มน้ำชี" เป็นเรื่องราวของนายฮ้อยโขงผู้อาภัพที่ต้องสูญเสียผู้เป็นพ่อจากไข้ป่า ระหว่างเดินทางไปค้าขายควายกับขบวนของนายฮ้อยพลจนทำให้ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่เกิด ชีวิตของนายฮ้อยโขงจึงเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูจากผู้เป็นแม่ และความรักที่ได้รับจากผู้เป็นแม่นั้น ทำให้นายฮ้อยโขงรักแม่ยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง
เมื่อแม่ล้มป่วยลงนายฮ้อยโขงจึงได้นำข้าวเปลือกไปขายหวังจะนำเงินจำนวนนั้นมาซื้อยาให้กับผู้เป็นแม่ เพื่อยื้อชีวิตของท่านไว้ให้อยู่กับเขาไปนาน ๆ แต่แล้วกลับถูกเจ้าของโรงสีข้าวอย่างเสี่ยชัยยะกดราคา และยังปล่อยให้นายฮ้อยโขงต้องรอคอยเป็นเวลานาน
ทำให้นายฮ้อยโขงนำเงินไปซื้อยามาให้แม่กินไม่ทันเวลา จึงเป็นเหตุให้ผู้เป็นแม่ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับทิ้งให้นายฮ้อยโขงจมอยู่กับความรู้สึกผิด ด้วยความเจ็บแค้น ในครั้งนี้นายฮ้อยโขงจึงเลือกที่จะให้ชัยยศซึ่งเป็นลูกชายของเสี่ยชัยยะเป็นผู้ชดใช้ความแค้นทั้งหมดของเขา

*****************

คำโปรย
"พ่อของมึงมันขี้โกง มึงเป็นลูกของมัน มึงต้องชดใช้แทนมัน มึงต้องรับผิดชอบความเจ็บปวดของกู"

****************
นิยามของนายฮ้อย

นายฮ้อย เป็นภาษถิ่นอีสานหมายถึงผู้ที่ทำการค้าตามหมู่บ้านตำบล รวมถึงผู้ที่เร่ขายของไปในถิ่นไกล ๆ รวมถึงพวกที่เที่ยวหาซื้อของถูกเพื่อจะไปขายแพงเอากำไร ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผู้ชาย เพราะสมัยก่อนคนอีสานมักนิยมให้ผู้หญิงทำหน้าที่เป็นแม่บ้านแม่เรือน ตักน้ำ ตำข้าว ปลูกฝ้าย ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าและทำงานฝีมือ
นายฮ้อยเป็นอาชีพที่มีความสำคัญในภาคอีสานมาตั้งแต่สมัยก่อน พวกเขาจะเดินทางไกลเพื่อหาซื้อวัวควาย มาขายต่อ นอกจากนี้นายฮ้อยยังมีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงดูสัตว์ ทำให้สามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในการดูแลวัวควายที่ซื้อไปได้
ในอดีต นายฮ้อยมักจะแต่งตัวด้วยผ้าขาวม้าคาดพุง โพกหัว พันหน้า บางคนอาจสวมหมวกปีกหรือหมวกคาวบอยนายฮ้อยยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ที่มีความกล้าหาญและมีความสามารถในการปกป้องทรัพย์สินจากโจรและสัตว์ป่า ซึ่งในปัจจุบันนายฮ้อยยังคงมีบทบาทสำคัญในการค้าขายวัวควายในภาคอีสาน