Icon Close

คืนสู่อ้อมกอดจอมพล

คืนสู่อ้อมกอดจอมพล
สำนักพิมพ์หยวนเยว่圆月
หมวดหมู่นิยายรัก
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
07 พฤศจิกายน 2568
ความยาว
259 หน้า (≈ 54,606 คำ)
ราคาปก
259 บาท (ประหยัด 61%)
คืนสู่อ้อมกอดจอมพล
คืนสู่อ้อมกอดจอมพล
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating
อารัมภบท

อาชีพเซ็กซี่โชว์เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับสตรีเพศ ไม่ควรมีหญิงสาวคนใดในโลกที่จำต้องใช้ร่างกายหมายยั่วยวนบุรุษ ในการเต้นเพื่อสะกดสายตาชายหนุ่มนับร้อยเพื่อแลกกับเงินตรา
นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ต่างจากโสเภณีเลยสักนิด
แต่ทว่า สิ่งที่เธอกำลังทำท่ามกลางแสงสีในตอนนี้ ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรี แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตเธอทั้งชีวิต รวมถึงลูกชายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเธออีกด้วย
แสงไฟหลากสีค่อย ๆ หรี่ลงต่างจากเสียงปรบมือที่เริ่มดังกระหึ่มขึ้นจากผู้คนนับร้อย เสียงโห่ร้องชื่นชมอย่างประทับใจเมื่อได้ทอดมองโชว์สุดเย้ายวนจากคนที่มีสมญานามว่า เจ้าหญิงราตรี
สายตาจากชายหนุ่มนับร้อยต่างจ้องมองร่างเพรียวสวยตาเป็นมันในขณะที่เธอกำลังเอ่ยขอบคุณผู้ชม กล่องทิปที่ถูกวางไว้เบื้องหน้าเริ่มถูกเติมเต็มด้วยเงินจำนวนไม่น้อย ผู้คนที่ประทับใจในโชว์ครั้งนี้ต่างลุกแห่ขึ้นมามอบของมีค่าให้หญิงสาวในชุดเซ็กซี่มากมาย
“ขอบคุณทุกคนที่มารับชมกันในวันนี้นะคะ”
ชายส่วนใหญ่ที่มาแค่ทิปมีบ้างที่ประทับใจในโชว์ แต่ก็มีบางคนแค่อยากมองเธอในระยะใกล้ชิด เพราะเธอเป็นหญิงสาวที่ไม่เคยมีชายใดได้แตะต้องขาอ่อนแม้แต่คนเดียว เปรียบดั่งเพชรเม็ดงามของที่นี่เลยก็ว่าได้
ตลอดจนร่างงามเดินหายลับลงไปจากเวทีก็ยังคงมีสายตานับสิบที่คอยจดจ้องส่วนสะโพกโค้งเว้าที่สั่นกระเพื่อมทุกครั้งยามก้าวเท้าเดิน ก่อนเจ้าหญิงราตรีจะทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายหอมหวานชวนให้นึกถึงตลอดทั้งชั่วค่ำคืน
“วันนี้ทำได้ดีมากเลยนะ ลูกค้าประทับใจกันเพียบเลย”
“หวาก็ทำแบบทุกวันนั่นแหละพี่”
ทันทีที่โชว์การแสดงเสร็จสิ้น เป็นปกติที่เจ้าของร้านอย่างคุณชินจะมายืนต้อนรับที่หลังเวที พร้อมคำชมแทบทุกครั้งไม่ต่างจากวันแรกที่เธอขึ้นโชว์
อีกฝ่ายสม่ำเสมออย่างไร ปัจจุบันก็ยังคงเป็นอย่างนั้น…อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอยังคงทำอาชีพตรงนี้ได้อย่างไม่นึกกังวลใจ
“หึ สมแล้วที่เป็นถึงตัวท็อปของร้าน”
เสียงปรบมือดังขึ้นเรียกรอยยิ้มจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หวายังต้องฝึกฝนอีกเยอะเลย”
“ฮ่า ๆ ๆ เข้าร้านมาได้แค่ปีสองปีแต่ผลักดันตัวเองจนมาถึงแนวหน้าได้ขนาดนี้ เก่งไม่เบาแล้ว”
หากย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อน
ยี่หวา วนิดาหญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ที่กำลังหอบกระเป๋าใบใหญ่พร้อมมืออีกข้างอุ้มเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชัง เธอเดินมาสมัครงานด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้า หลังจากที่ได้นั่งคุยรับรู้ความเป็นมาก็พอจะรู้แล้วว่าชีวิตของเธอนั้นน่าสงสารมาก
วนิดาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเด็กคนนี้เพียงลำพัง วันนั้นทั้งวันเธอเดินตระเวนสมัครงานอย่าไม่ลดละแต่ทุกที่กลับส่ายหน้าปฏิเสธเช่นเดียวกันหมด โดยสาเหตุหลัก ๆ นั่นคือเจ้าตัวน้อยที่เธออุ้มมาด้วย
“คงเพราะว่ามีกำลังใจดีน่ะค่ะ”
ถึงแม้แรก ๆ วนิดาจะเหนื่อยกับงานมากเพียงใด แต่เธอก็อดทนอดกลั้นฝ่าฟันมาได้เสมอ
โดยกำลังใจเดียวของเธอคือลูกชายผู้เป็นที่รัก โชคยังดีที่เจ้าของร้านอย่างพี่ชินเมตตา เลยอนุญาตให้เธอทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย
แต่ทว่าพี่ชินที่เริ่มเห็นแววเธอเพราะวนิดาก็เป็นคนหนึ่งที่มีหน้าตาสะสวย จึงเอ่ยทาบทามตำแหน่งงานที่เงินเดือนสูงกว่าเดิมหลายเท่าและวนิดาก็ใช้เวลาเพียงปีเศษ ๆ ในการไต่เต้าขึ้นมาเป็นแนวหน้าของร้าน
“เอ้อ แล้วนี่จะไปไหนต่อรึเปล่า ลูกค้าวีไอพีเขาอยากให้ไปบริการ”
“ขอโทษนะคะพี่ แต่ยี่หวาต้องไปดูลูก”
หลังจากประตูห้องแต่งตัวเปิดออกได้ไม่นาน เสียงฝีเท้าวิ่งแจ้นเริ่มดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ก่อนจะเห็นร่างของเด็กชายในชุดเสื้อยืด ท่อนล่างของเขาสวมเป็นกางเกงขาสั้นสบาย ๆ แต่มือกำลังถือกล่องนมพร้อมกับใช้ปากดูดดึงวิ่งเข้ามาใกล้เธอ
ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาความเหนื่อยล้าของผู้เป็นแม่หายไปเป็นปลิดทิ้ง มือป้อม ๆ ของเด็กน้อยกำลังกอดขาเธอไว้แน่น ก่อนวนิดาจะย่อตัวลงไปให้อยู่ระดับเดียวกันกับลูกชายแล้วจึงใช้ท่อนแขนช้อนร่างให้มาอยู่ในอ้อมอก
“หม่ามี๊เหนื่อยไหมครับวันนี้?”
ฟันน้ำนมซี่เล็ก ๆ จมูกมนหน่อย ๆ ไหนจะตากลมใสที่กำลังจ้องมองมาทางเธอ พร้อมคำพูดที่ชวนให้ผู้เป็นแม่น้ำตาไหล
“แค่พีพีเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน…หม่ามี๊ก็ไม่เหนื่อยแล้วครับ”
หลังจากทิ้งให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยงในห้องแต่งตัวอยู่ตั้งแต่หัวค่ำ ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำหน้าที่แม่แล้ว วนิดาพาลูกชายออกมาเดินเล่นสูดอากาศด้านนอก ก่อนจะเห็นว่าท้องฟ้าในวันนี้ปลอดโปร่งเพราะไร้เมฆฝนมาบดบัง
“เป็นไงบ้างครับ หายเบื่อขึ้นบ้างยัง?”
บ่อยครั้งที่ลูกชายเธอชอบแอบออกมาเดินต้อย ๆ ข้างนอกเพียงลำพัง คงเพราะเบื่อที่ต้องนั่งเล่นนอนเล่นกับพี่เลี้ยงระหว่างรอแม่ทำงาน
ดูจากรอยเปื้อนที่เท้าก็รู้…วันนี้คงแอบหนีมาเล่นข้างนอกอีกแล้วล่ะสิ
“พีพีไม่เบื่อสักหน่อย”
จอมทัพ เด็กชายวัยสี่ขวบปลาย ๆ ที่ดูท่าพัฒนาการจะไวกว่าใครอื่น วาทศิลป์การพูดแลดูช่ำชองเกินกว่าวัยอีกทั้งนิสัยที่เป็นห่วงเป็นใยแม่ตลอดการทำงาน
เพียงแค่นี้ก็พอที่จะทำให้วนิดารู้สึกอุ่นใจไปหลายเปราะ เพราะถึงแม้ว่าครอบครัวเธอจะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนใครอื่น แต่วนิดาเองยังคงพยายามที่จะเติมเต็มส่วนที่ขาดมาโดยเสมอ
แค่เพียงได้เห็นเด็กคนนี้เติบโตมาอย่างดี…เธอก็สบายใจแล้วล่ะ
“มี๊ขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลนะครับ”
กลุ่มผมนุ่มถูกลูบไล้ด้วยฝ่ามืออุ่น เด็กน้อยเองก็หลับตาซบเข้ากับความอบอุ่นของฝ่ามือเรียว
ก่อนจะเผยรอยยิ้มบนใบหน้ายามมองสายตาผู้เป็นแม่
“ไม่เป็นไรฮะ พีพีเข้าใจว่าหม่ามี๊ทำงานเยอะ ๆ จะได้มีเงินมาซื้อขนมให้พีพี”
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเด็กแต่จอมทัพรับรู้มาโดยตลอดว่าแม่ของเขาทำงานเพียงลำพัง เพราะฉะนั้นเขาเลยต้องไม่ดื้อไม่ซน หม่ามี๊จะได้ไม่ลำบากใจ!
“น่ารักจังเลย”
แก้มกลม ๆ ราวกับซาลาเปาถูกนวดคลึงเบา ๆ จนเด็กน้อยเผยรอยยิ้มหวาน แต่ทว่าจู่ ๆ แววตาใสกลับนิ่งงันลงพร้อมจ้องมองผู้เป็นแม่ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในหัว
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
วนิดาเกลี่ยเส้นผมที่ตกปรกหน้าให้ลูกชายในอ้อมแขน ในขณะที่มีลมหนาวพัดมาเธอยังคงใช้แผ่นหลังหันรับแทน
“พรุ่งนี้วันเกิดพีพีแล้วนะ”
“………”
ทว่าประโยคที่ผู้เป็นแม่ควรจะดีใจเมื่อถึงคราวันเกิดครบรอบห้าขวบของลูกชาย แต่ดูเหมือนแววตาวนิดาจะยังคงสั่นไหว ริมฝีปากลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงลำคอ
ไม่นานนักน้ำสีใสเริ่มค่อย ๆ แต่งแต้มดวงตาแต่ทว่ามันยังคงไม่มากพอที่จะให้เด็กน้อยสังเกตเห็นในที่น้อยแสง
“พีพีอายุครบห้าขวบแล้ว…ปะป๊าจะมาหาพีพีแล้วใช่ไหมฮะ?”
ตอนนี้...สิ่งที่เธอลำบากใจที่สุดคือคำมั่นสัญญาที่วนิดาเคยให้กับลูกไว้เมื่อครั้นอายุสองขวบ
คงเป็นเพราะเมื่อคืนนั้น จอมทัพร้องห่มร้องไห้หนักมากเมื่อรู้ความจริงว่า จริง ๆ แล้วคนเรานั้นไม่ได้มีเพียงแค่แม่แต่ต้องมีคุณพ่ออีกหนึ่งคนที่จะช่วยดูแล
เด็กน้อยจึงพยายามถามถึงผู้เป็นพ่อตลอดเวลา นอนละเมอถามหาพ่อไปอยู่ไหนทุกค่ำคืน และดูเหมือนคำตอบที่ได้กลับมานั้นจะทำให้เด็กชายคนนี้ยิ้มออกในรอบหลายอาทิตย์
เมื่อผู้เป็นแม่บอกว่าปะป๊าอยู่ต่างประเทศต้องทำงานหาเงินส่งมาให้เด็กน้อย และปะป๊าก็สัญญาไว้แล้วว่าจะกลับมาหาในตอนที่จอมทัพอายุครบห้าขวบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กชายคนนี้รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ คอยนับวันถอยหลังอย่างไม่งอแงมาโดยเสมอ
แต่ทว่านั่นก็ไม่ต่างจากระเบิดเวลาที่กำลังจะทำลายความหวังของเด็กคนนี้ไปตลอดชีวิต
“พีพีครับ”
วนิดายังคงไม่พร้อม เธอไม่อยากให้ลูกชายตนต้องมารับรู้เรื่องนี้ในวัยห้าขวบ…
สายตาแสนไร้เดียงสาที่กำลังทอดมองเธออยู่…เธอยังอยากรักษามันไว้ เธอไม่อยากให้จอมทัพต้องนอนฝันร้ายทุกคืนเหมือนเมื่อก่อน ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าการกุเรื่องโกหกขึ้นในตอนนั้น จะทำให้เด็กคนนี้รอคอยอย่างคาดหวัง
แต่ถ้าต้องการให้บอกความจริงไปว่าทั้งสองเลิกรากันตั้งแต่จอมทัพยังอยู่ในท้อง…เธอไม่รู้จะพูดออกไปยังไง
“ใช่แล้วจ้ะ…ปะป๊าจะกลับจากต่างประเทศเพื่อมาหาเราแล้ว”
เอาเถอะ…. อย่างน้อยช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงชั่วข้ามคืน ก็น่าจะเพียงพอให้เธอคิดหาทางออกได้บ้าง
“เย้! พีพีดีใจที่สุดในโลกเล้ยยย!”
แม่ขอโทษนะลูก แม่คิดมาเสมอว่าการมีแม่เพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะเติมเต็มส่วนที่ลูกขาดหาย…แต่นั่นเป็นสิ่งที่แม่คิดผิดมหันต์ แม่อยากเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้ลูกฟังแต่ในตอนนี้ลูกยังเด็กเกินไป
และแม่เองก็ละอายใจที่จะพูดเรื่องพวกนั้นด้วย…
“พรุ่งนี้ต้องแต่งตัวหล่อ ๆ รอต้อนรับปะป๊านะครับ”
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
07 พฤศจิกายน 2568
ความยาว
259 หน้า (≈ 54,606 คำ)
ราคาปก
259 บาท (ประหยัด 61%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
หนังสือเล่มนี้เปิดให้แสดงความคิดเห็นได้เฉพาะผู้ที่มีหนังสือฉบับเต็มเท่านั้น