ยูบิควิทัส อาณาจักรจอมโกหก นภากาศ

ยังคงมุ่งมั่นในคำกล่าวที่ว่า "ผู้เขียนตั้งใจเขียนนิทานโกหกให้ได้สักเรื่อง" โดยได้แรงบันดาลใจจากการได้อ่านนิทานโกหกที่มีชื่อเสียงของเยอรมันและนิทานข้างถนนของฝรั่งเศส กอปรกับชอบนิทานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ร่วมกับจินตนาการไปในโลกยุคอนาคต ที่หากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก้าวไกลกว่ายุคควอนตัมคอมพิวเตอร์อีกสักสามเจนเนอเรชัน บัดนั้นความรู้วิทยาศาสตร์ก็คงพัฒนาสุดขั้ว นั่นจึงจะทำให้อาณาจักรยูบิควิทัส (อาณาจักรจอมโกหก) เกิดขึ้นได้ ทว่าแทนที่จะได้หนังสือสักเล่มเท่านั้น มันกลับเกิดความผิดพลาดบางอย่างกับผู้เขียน ทำให้ความคิดพลิกผันกลับมาเขียนเป็นเรื่องยาวแนววิทยาศาสตร์ผสมนิทานแทน
ในสามโยชน์แรกถือเป็นบรรพแรก (Episode I) จะเป็นการนำ ผู้เข้าแข่งขันสู่อาณาจักรใช้จินตนาการ เพื่อสร้างอาวุธแห่งกาย ถือเป็นบรรพแรกของเรื่อง ตั้งแต่โยชน์ที่ 4 ถือเป็นบรรพสอง (Episode II) ซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องเข้าสู่อาณาจักรเพื่อนำเอาธาตุต่าง ๆ มาเป็นอาวุธเพิ่มเติมจากอาวุธแห่งกาย เป็นการสร้างอาวุธแห่งธาตุ ในโยชน์ 4 พวกเขาจะต้องนำเอาธาตุดินมาสร้างเป็นอาวุธในกายตน แต่ต้องผจญภัยในดินแดนแห่งดินซึ่งสรรพสิ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าเกินปัจจุบัน ควบคุมด้วยจินตนาการและเทคโนโลยีทั้งคอมพิวเตอร์ การแพทย์ ฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและอื่น ๆ ในขณะเดียวกันแต่ละการพักผ่อนจะต้องมีนิทานโกหกให้ได้เล่าขานรับรู้ สำหรับในโยชน์ที่ 5 พวกเขาได้นำเอาธาตุน้ำมาใช้ในบริบทของการหล่อหลอมเข้าสู่กายจิตของตัวเอง เพื่อนำตนเองไปสู่การสร้างอนันต์กายให้เกิดขึ้น เพื่อจะก้าวเข้าสู่มหานครจอมโกหก คือ มหานครยูบิควิทัสให้ได้ ในโยชน์ที่ 6 นภากาศนี้ พวกเขาจะต้องเผชิญกับความเวิ้งว้างว่างเปล่าของอากาศธาตุ ทั้งที่สรรพสิ่งภายนอกสัมผัสของกาย ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังต้องเผชิญกับสิ่งภายในแห่งตนทั้ง จิต มโนควบคุม และวัยแห่งตนสู่อีกสภาวะของการข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปอีกด้วย มาเป็นกำลังใจให้พวกเขาว่าโยชน์นี้จะได้พบกับสิ่งใด จะได้เดินทางไปต่อกันจบครบทุกคนทั้งหมดหรือไม่ จะผ่านโยชน์ที่ 6 เข้าสู่โยชน์ที่ 7 เป็นลำดับต่อไป
ได้ไหม หรือจะต้องมีใครระเห็จกลับสู่ความเป็นปัจจุบันอันเป็นมนุษย์ปกติทั่วไป
ขอบพระคุณ คุณชมพู่ แห่งอักษราลัยบุ๊ก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกท่าน ที่ทำให้เรื่องเหลือเชื่อเหล่านี้เกิดขึ้นได้และยังคงได้เดินทางต่อไป และต่อไป

ด้วยจิตคารวะอย่างสูงยิ่ง
ยูบิคฯ