ล็อกอินเข้าระบบ
เข้าระบบผ่าน Social Network
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Line
เข้าสู่ระบบด้วย Apple
เข้าสู่ระบบด้วย Google
หรือ เข้าระบบด้วยบัญชี meb
จำ Password ไม่ได้
จำ Username ไม่ได้
หากยังไม่สมัครบัญชี meb โปรด
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก MEB Account
กรุณาใส่ข้อมูลที่มีเครื่องหมาย * ให้ครบถ้วน
Username
*
ต้องมีไม่ต่ำกว่า 4 ตัวอักษร และยาวไม่เกิน 32 ตัวอักษร และใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ a ถึง z, A ถึง Z หรือเครื่องหมาย _-@.
Password
*
ระบุอย่างน้อย 8 ตัว
Retype Password
*
E-mail
*
Display name
*
Phone
ระบุเฉพาะตัวเลข
First Name
Last Name
Gender
Not specified
Male
Female
ส่งข้อมูล
ล็อกอินเข้าระบบ The1
สำหรับผู้ที่มีบัญชี meb อยู่แล้ว
ครอปรูปภาพ
ล็อกอินเข้าระบบ / สมัครสมาชิก
ล็อกอินเข้าระบบ
ตะกร้า
จัดการอีบุ๊กที่วางขาย
จัดการอีบุ๊ก
อีบุ๊กทั้งหมด
เมนู
อีบุ๊กทั้งหมด
นิยายทั้งหมด
นิยายแปล
การ์ตูนทั้งหมด
อีบุ๊กทั่วไป
หนังสือเด็ก
หนังสือเรียน
หนังสือเสียง
บุฟเฟต์
หมวดหมู่ทั้งหมด
สำนักพิมพ์
เลือกหมวดหมู่ย่อย
ค้นหาสำนักพิมพ์
หน้าแรก
ขายดี
มาใหม่
โปรโมชัน
ฟรีกระจาย
ฮิตขึ้นหิ้ง
แนะนำ
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ล็อกอินเข้าระบบ
กรุณายืนยันบัตรประชาชนก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ไปยืนยันบัตรประชาชน
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชน
กรุณาดำเนินการใหม่อีกครั้งในภายหลังค่ะ
ขออภัยค่ะไม่สามารถเข้าชมได้
เนื่องจากเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
คุณสามารถให้กำลังใจนักเขียนได้ โดยให้ทิปเพิ่มจากราคาปกติ
เผชิญชีวิตอย่างไม่หวาดหวั่น (Facing Life Fearlessly)
โดย
Clarence Darrow /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
วรรณกรรมทั่วไป
ทดลองอ่าน
ซื้อ 75 บาท
5.00
1 Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
Clarence Darrow /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
วรรณกรรมทั่วไป
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
ประเภทไฟล์
pdf, epub
(สารบัญ)
วันที่วางขาย
10 พฤศจิกายน 2568
ความยาว
108 หน้า (≈ 25,142 คำ)
ราคาปก
220 บาท (ประหยัด 65%)
เผชิญชีวิตอย่างไม่หวาดหวั่น (Facing Life Fearlessly)
โดย
Clarence Darrow /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
ไศเลนทร์
วรรณกรรมทั่วไป
ทดลองอ่าน
ซื้อ 75 บาท
5.00
1 Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
Clarence Darrow /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
วรรณกรรมทั่วไป
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
ผลงานของคลาเรนซ์ แดร์โรว์ นักกฎหมายผู้ยิ่งใหญ่ นักคิดผู้กล้าหาญ และมนุษย์ผู้เห็นความเปราะบางของชีวิตอย่างแจ่มชัด เขาคือเสียงของปัญญาที่เปล่งออกมาจากหัวใจที่ผ่านไฟแห่งความสงสัย ความทุกข์ และความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์อย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าใคร บทความทั้งสี่เรื่องที่ข้าพเจ้านำมาแปลนี้ คือการสะท้อนปรัชญาชีวิตของเขาที่ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดของโลกด้วยความสงบของผู้ที่ไม่แสวงหาความปลอบใจจากสิ่งลึกลับ แต่แสวงหาความจริงจากความซื่อสัตย์ต่อใจของตนเอง
เผชิญชีวิตอย่างไม่หวาดหวั่น หรือ Facing Life Fearlessly แดร์โรว์เชื่อว่าชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ต้องหลบหนี แต่คือสิ่งที่ต้องมองตรงเข้าไปด้วยสายตาแห่งสติและความเข้าใจ เขาไม่เรียกร้องให้มนุษย์ยอมจำนนต่อโชคชะตา หรือแสร้งยิ้มให้ความทุกข์ แต่ให้ "เห็น" มันอย่างเต็มตา และยอมรับว่าความทุกข์คือส่วนหนึ่งของการมีชีวิต ในสายตาของแดร์โรว์ ความกลัวคือศัตรูที่แท้จริงของมนุษย์ กลัวความตาย กลัวความสูญเสีย กลัวสิ่งที่ไม่รู้ เขาให้เราปลดปล่อยตนเองจากความกลัวนั้นเสีย ไม่ใช่ด้วยศรัทธาอันมืดบอด แต่ด้วยปัญญา ด้วยความเข้าใจว่า "ความกลัว" เป็นสิ่งที่เกิดจากจิตใจของเราเอง มิใช่จากธรรมชาติ
แดร์โรว์มองว่า หากเรามีความกล้าที่จะมองชีวิตโดยไม่หลอกตัวเอง เราจะพบว่าไม่มีสิ่งใดในโลกที่ควรหวาดกลัว ความตายไม่ใช่ศัตรู หากคือการคืนสู่ความสงบอันนิรันดร์ ความทุกข์ไม่ใช่คำสาป แต่คือเครื่องเตือนใจให้เรารู้ว่าชีวิตนี้เปราะบางและมีค่าเกินกว่าจะใช้ไปอย่างไร้สติ สำหรับแดร์โรว์ "การเผชิญชีวิตอย่างไม่หวาดหวั่น" ไม่ได้หมายถึงการแข็งแกร่งอย่างวีรบุรุษ หากคือการซื่อตรงต่อความจริงอย่างมนุษย์ผู้ตื่นรู้ รู้ว่าความงามของชีวิตอยู่ในความไม่แน่นอน และรู้ว่าความสงบที่แท้จริงเกิดจากการยอมรับความจริงทั้งหมด ทั้งความสุข ความทุกข์ ความเกิด และความดับอย่างอ่อนโยน
ในเรื่อง ความปลอบประโลมแห่งลัทธิมองโลกในแง่ร้าย หรือ The Consolations of Pessimism แดร์โรว์ได้กลับหัวแนวคิดของโลกที่ชื่นชม "ความหวัง" และตีตรา "ความสิ้นหวัง" ว่าเป็นความผิด เขาเขียนอย่างคมคายว่า การมองโลกในแง่ร้าย มิใช่คำสาป หากคือความเข้าใจที่ลึกที่สุดของผู้ที่มองชีวิตโดยไม่ใส่สีแต่งแต้ม ความหวังที่ไร้เหตุผลทำให้มนุษย์วิ่งตามเงา ส่วนการมองโลกในแง่ร้ายที่แท้จริงกลับทำให้เรายืนอยู่กับความจริงโดยไม่ต้องกลัวว่าความผิดหวัง
แดร์โรว์กล่าวว่า ผู้ที่กล้ามองโลกอย่างมืดมนอย่างซื่อสัตย์ ต่างหากที่มีโอกาสพบ "ความสงบ" เพราะเขาไม่ถูกหลอกโดยภาพลวงของความดีงามที่โลกสร้างขึ้นเพื่อปลอบตัวเอง การมองโลกในแง่ร้ายทำให้เราหยุดแสวงหาสวรรค์ที่ไม่มีอยู่จริง และเริ่มสร้างความเมตตาในโลกที่เราอยู่จริง ๆ
สำหรับแดร์โรว์ "ความสิ้นหวัง" ไม่ใช่ความพ่ายแพ้แต่คืออิสรภาพ อิสรภาพจากการคาดหวัง อิสรภาพจากการหลอกตัวเอง เมื่อเราไม่ต้องเชื่อว่าทุกสิ่งจะต้องดีเสมอ เราก็เริ่มเข้าใจว่า แม้ในความมืดของโลก ก็ยังมีความงามของแสงเล็ก ๆ ที่เกิดจากการยอมรับอย่างสงบ เขาไม่ได้สอนให้คนสิ้นหวัง แต่สอนให้เรารู้ว่า "การยอมรับความสิ้นหวัง" ต่างหาก คือหนทางที่จะนำไปสู่ความสงบที่แท้จริง เพราะมันคือการวางภาระของการต้องทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบ แล้วอยู่กับมันอย่างเข้าใจ
ส่วนเรื่อง เหตุใดข้าพเจ้าจึงเป็น "แอกนอสทิค" หรือ Why I Am an Agnostic คือบทสารภาพทางปรัชญาของแดร์โรว์ ถ้อยคำของผู้ที่เดินผ่านเส้นทางแห่งศรัทธา จนไปถึงขอบเขตที่ศรัทธาไม่อาจตอบคำถามของจิตใจได้อีกต่อไป เขาไม่ได้ปฏิเสธพระเจ้าอย่างคนโกรธแค้น แต่ตั้งคำถามด้วยความจริงใจของผู้แสวงหาความหมายของชีวิต แดร์โรว์กล่าวว่า ความไม่รู้ (agnosticism) คือความซื่อสัตย์ทางปัญญา เพราะไม่มีใครรู้ได้จริงว่ามีพระเจ้าหรือไม่ เขาไม่อาจยอมรับคำตอบที่สังคมหรือศาสนาบังคับให้เชื่อ โดยปราศจากเหตุผลหรือหลักฐาน เพราะสำหรับเขา "ความจริงที่ไม่อาจพิสูจน์ได้" ไม่ควรได้รับการบูชา เขาเห็นว่าศาสนาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความกลัวกลัวความตาย กลัวความไร้ความหมาย และกลัวความว่างเปล่าหลังความตาย ศาสนาอาจมอบความปลอบใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็พรากเสรีภาพของความคิดไปจากมนุษย์ ทำให้เรากลัวเกินกว่าจะตั้งคำถาม แดร์โรว์ไม่ปฏิเสธคุณค่าของศีลธรรม แต่เขาปฏิเสธแนวคิดที่ว่าความดีต้องมีรางวัล และความชั่วต้องถูกลงโทษ เขาเชื่อว่ามนุษย์ควรทำดีเพราะเข้าใจ ไม่ใช่เพราะหวังจะได้รับการอภัยจากสิ่งลึกลับ "ความไม่เชื่อในพระเจ้า" สำหรับแดร์โรว์ จึงไม่ใช่ช่องว่างของปัญญา แต่คือความอ่อนน้อมของผู้ที่กล้ายอมรับว่าความจริงนั้นใหญ่เกินกว่าที่จะถูกบรรจุลงในหลักคำสอนใด
ปรัชญาชีวิตแบบแดร์โรว์คือปรัชญาที่ไม่หลบเลี่ยงความเจ็บปวด ไม่หลีกหนีจากความไม่แน่นอน และไม่ซ่อนตัวในศรัทธา เขาเรียกร้องให้มนุษย์ยืนอยู่ในโลกด้วยความซื่อสัตย์และเมตตา ด้วยใจที่ไม่หลอกตัวเองและไม่ลวงใคร เขามองว่าความจริงของชีวิตอาจโหดร้าย แต่การหลอกตัวเองว่าสวยงามยิ่งโหดร้ายกว่า ในความไม่รู้ เราอาจพบความสงบ ในความสิ้นหวัง เราอาจพบความเข้าใจ และในความไม่ศรัทธา เราอาจพบความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด เพราะมันเกิดจากมนุษย์ถึงมนุษย์ ไม่ผ่านอำนาจหรือคำสัญญาใด ๆ แดร์โรว์คือผู้มองโลกเหนือม่านมายา เขาเชื่อว่าความกล้าที่แท้จริงของมนุษย์คือการใช้ชีวิตในโลกที่มืดมิดโดยที่ไม่ต้องสร้างแสงเทียมขึ้นมาหลอกตัวเอง เมื่ออ่านบทความเหล่านี้จบ เราอาจไม่ได้พบกับคำตอบใด ๆ แต่จะได้ยินเสียงหนึ่งแผ่วเบาในใจ เสียงของความจริงที่ว่า ชีวิตนี้อาจไร้ความหมาย แต่ก็ยังงดงามอย่างประหลาด เพียงเพราะเรากล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันอย่างซื่อตรง
รวีร์ วรกิตติกุล
ผู้แปล
หนังสือแปล
คลาสสิก
เสียดสีสังคม
ปรัชญา
วรรณคดี
ประเภทไฟล์
pdf, epub
(สารบัญ)
วันที่วางขาย
10 พฤศจิกายน 2568
ความยาว
108 หน้า (≈ 25,142 คำ)
ราคาปก
220 บาท (ประหยัด 65%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถ
เข้าสู่ระบบ
เพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า
รีวิวทั้งหมด