ล็อกอินเข้าระบบ
เข้าระบบผ่าน Social Network
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Line
เข้าสู่ระบบด้วย Apple
เข้าสู่ระบบด้วย Google
หรือ เข้าระบบด้วยบัญชี meb
จำ Password ไม่ได้
จำ Username ไม่ได้
หากยังไม่สมัครบัญชี meb โปรด
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก MEB Account
กรุณาใส่ข้อมูลที่มีเครื่องหมาย * ให้ครบถ้วน
Username
*
ต้องมีไม่ต่ำกว่า 4 ตัวอักษร และยาวไม่เกิน 32 ตัวอักษร และใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ a ถึง z, A ถึง Z หรือเครื่องหมาย _-@.
Password
*
ระบุอย่างน้อย 8 ตัว
Retype Password
*
E-mail
*
Display name
*
Phone
ระบุเฉพาะตัวเลข
First Name
Last Name
Gender
Not specified
Male
Female
ส่งข้อมูล
ล็อกอินเข้าระบบ The1
สำหรับผู้ที่มีบัญชี meb อยู่แล้ว
ครอปรูปภาพ
ล็อกอินเข้าระบบ / สมัครสมาชิก
ล็อกอินเข้าระบบ
ตะกร้า
จัดการอีบุ๊กที่วางขาย
จัดการอีบุ๊ก
อีบุ๊กทั้งหมด
เมนู
อีบุ๊กทั้งหมด
นิยายทั้งหมด
นิยายแปล
การ์ตูนทั้งหมด
อีบุ๊กทั่วไป
หนังสือเด็ก
หนังสือเรียน
หนังสือเสียง
บุฟเฟต์
หมวดหมู่ทั้งหมด
สำนักพิมพ์
เลือกหมวดหมู่ย่อย
ค้นหาสำนักพิมพ์
หน้าแรก
ขายดี
มาใหม่
โปรโมชัน
ฟรีกระจาย
ฮิตขึ้นหิ้ง
แนะนำ
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ล็อกอินเข้าระบบ
กรุณายืนยันบัตรประชาชนก่อนดำเนินรายการด้วยค่ะ
ไปยืนยันบัตรประชาชน
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชน
กรุณาดำเนินการใหม่อีกครั้งในภายหลังค่ะ
ขออภัยค่ะไม่สามารถเข้าชมได้
เนื่องจากเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
คุณสามารถให้กำลังใจนักเขียนได้ โดยให้ทิปเพิ่มจากราคาปกติ
คัมภีร์แห่งโลกทุกข์ (Studies in Pessimism)
โดย
Arthur Schopenhauer /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
ธรรมะ/ปรัชญา
ทดลองอ่าน
ซื้อ 85 บาท
5.00
1 Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
Arthur Schopenhauer /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
ธรรมะ/ปรัชญา
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
11 พฤศจิกายน 2568
ความยาว
95 หน้า
ราคาปก
229 บาท (ประหยัด 62%)
คัมภีร์แห่งโลกทุกข์ (Studies in Pessimism)
โดย
Arthur Schopenhauer /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
ไศเลนทร์
ธรรมะ/ปรัชญา
ทดลองอ่าน
ซื้อ 85 บาท
5.00
1 Rating
อยากได้
ซื้อเป็นของขวัญ
ติดตาม
นักเขียน
Arthur Schopenhauer /
รวีร์ วรกิตติกุล แปล
สำนักพิมพ์
ไศเลนทร์
หมวดหมู่
ธรรมะ/ปรัชญา
แชร์
Facebook
Twitter
LINE
ในบรรดานักคิดผู้มองเห็น "ความทุกข์" มิใช่เงาแห่งชีวิต หากคือสารัตถะแห่งการมีอยู่ อาร์เธอร์ โชเปนเฮาเออร์ (Arthur Schopenhauer) คือเสียงที่ชัดเจนที่สุด เสียงที่กล้าประกาศว่า โลกนี้มิได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความสุขของมนุษย์ แต่เพื่อให้เป็นฉากแห่งการเวียนว่ายระหว่างความปรารถนา ความผิดหวัง และความว่างเปล่าที่ไม่สิ้นสุด
Studies in Pessimism คือภูมิปัญญาอันเยือกเย็น หนังสือเล่มเล็กแต่เปี่ยมไปด้วยพลังของความจริงอันขมขื่น ผู้เขียนมิได้มุ่งหมายจะปลอบใจเรา หากมุ่งหมายให้เราตื่นจากความฝันลวงของ "ความหวัง" เพื่อจะมองเห็นธรรมชาติแท้จริงของชีวิตอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยสายตาเปลือยเปล่าของผู้ที่ไม่ต้องการหลบเร้นหลังม่านแห่งมายาใด ๆ
โชเปนเฮาเออร์เริ่มต้นจากสมมุติฐานที่เรียบง่ายแต่สั่นสะเทือนใจ ชีวิตคือความทุกข์ ความสุขเป็นเพียงการขจัดชั่วขณะของความปรารถนา ความพึงพอใจเกิดขึ้นก็เพื่อดับลงในไม่ช้า และเมื่อดับลงแล้ว ความเบื่อหน่ายก็เข้ามาแทนที่ โลกจึงกลายเป็นวงล้อของความโศกและความว่าง ที่หมุนไปไม่รู้จบ ชีวิตมิได้มีจุดหมายอันสูงส่ง ไม่มีแสงทองแห่งความสมบูรณ์แบบรออยู่เบื้องหน้า มีแต่การดิ้นรนอย่างเงียบงันของสรรพสิ่งที่ถูกขับเคลื่อนโดย "เจตจำนง" (Will) พลังไร้เหตุผลและไร้จุดหมายที่ผลักดันให้ทุกชีวิตต้องแสวงหา ปรารถนา ต้องทุกข์ แต่ความมืดหม่นที่โชเปนเฮาเออร์ชี้ให้เห็น มิได้มีไว้เพื่อให้เราสิ้นหวัง หากเพื่อให้เรารู้เท่าทันความหลอกลวงของชีวิต เขาเชื้อเชิญให้เรามองโลกด้วยสติของผู้ตื่น ไม่ใช่ด้วยสายตาของผู้หลงเพ้อฝันในภาพมายา การตระหนักว่าความทุกข์คือธรรมชาติของการมีอยู่ หาใช่ความพ่ายแพ้ หากเป็นก้าวแรกของการหลุดพ้นจากความหลงผิดใน "ความสุข" ที่ไม่มีอยู่จริง
ในบทว่าด้วย "On the Sufferings of the World" เขาเปิดม่านให้เห็นภาพที่แท้จริงของโลกที่เต็มไปด้วยความปวดร้าว ไม่ใช่เพราะความโชคร้ายเฉพาะราย แต่เพราะความทุกข์คือกฎแห่งสรรพชีวิต "ทุกชีวิตคือการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และในการต่อสู้นั้น ทุกชีวิตต้องทำร้ายกันเอง" โลกทั้งโลกจึงเป็น "โรงละครแห่งความทุกข์ทรมาน" ที่ทุกบทบาทล้วนต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและหยดน้ำตา
ในบท "On Suicide" เขากล่าว การฆ่าตัวตายไม่ใช่การปฏิเสธชีวิต เพราะผู้ฆ่าตัวตายยังคงยึดติดกับ "ความต้องการ" เพียงแต่ต้องการหลุดพ้นจากความทุกข์เฉพาะหน้า เขาจึงเห็นว่าการดับทุกข์อย่างแท้จริงมิใช่ความตายทางร่างกาย หากคือการระงับ "เจตจำนง" การดับไฟแห่งความอยากซึ่งเผาผลาญใจมนุษย์ให้มอดไหม้ตลอดกาล
ในบท "On Women" อาจดูขัดแย้งกับยุคสมัย เขาแสดงทัศนะอย่างตรงไปตรงมาในแบบนักคิดผู้มองโลกด้วยสายตาธรรมชาติ มิใช่อคติทางสังคม เขามองเพศหญิงในฐานะส่วนหนึ่งของกลไกแห่งชีวิต ที่ถูกกำหนดโดยธรรมชาติให้สืบทอดสายพันธุ์ ไม่ใช่เพื่อความงามหรือความโรแมนติก แต่เพื่อ "การดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์" และในแง่นี้ เขาเพียงชี้ให้เห็นว่า "ความจริงของธรรมชาติ" มิใช่ความชั่วหรือดี
ในบท "On the Vanity of Existence" และ "On the Misery of Life" เขาเปรียบชีวิตมนุษย์ดั่งภาพลวงในกระจก สรรพสิ่งเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดยั้ง แต่หาเนื้อแท้มิได้เลย ชีวิตจึงเป็นเพียงภาพมายาแห่งเจตจำนงที่สะท้อนซ้ำ ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีจุดจบที่แท้จริง นั่นคือโศกนาฏกรรมของการเกิด แต่ในความสิ้นหวังนั้นเอง โชเปนเฮาเออร์ก็วางหนทางแห่งปัญญาไว้ให้แก่ผู้แสวงหาความสงบ เขาเชื่อว่าศิลปะ ดนตรี ความเมตตา และความสงบทางจิตใจคือหนทางชั่วคราวที่ทำให้เราหลุดจากอำนาจของเจตจำนง เราอาจไม่สามารถหลีกพ้นจากโลก แต่เราสามารถมองมันด้วยสายตาของผู้ไม่ปรารถนาอะไรอีก สายตาที่สงบ เยือกเย็น และเป็นอิสระ
Studies in Pessimism จึงมิใช่เพียงหนังสือแห่งความมืด แต่เป็นแสงเทียนแห่งสติปัญญาที่ส่องให้เห็นความจริงของชีวิตอย่างไม่ปรุงแต่ง โชเปนเฮาเออร์มิได้สอนให้เรารังเกียจโลก แต่สอนให้เราเข้าใจมัน เข้าใจว่าเบื้องหลังทุกเสียงหัวเราะมีร่องรอยน้ำตา และเบื้องหลังทุกความสุขมีเงาแห่งความทุกข์ซ่อนอยู่เสมอ
นี่คือหนังสือที่ผู้กล้ามองความจริงเท่านั้นจึงจะเข้าใจ เป็นเสียงกระซิบจากนักปราชญ์ผู้ยอมรับความทุกข์ด้วยความสง่างาม และแปรเปลี่ยนความมืดแห่งโลกให้กลายเป็นความสว่างแห่งปัญญาในใจของตนเอง "ผู้ที่เห็นความจริงของโลกว่าเป็นความทุกข์ มิได้สิ้นหวัง เขาเพียงตื่นจากความฝันในขณะที่คนอื่นยังคงหลับใหลอยู่"
รวีร์ วรกิตติกุล
ผู้แปล
หนังสือแปล
คลาสสิก
ปรัชญา
พัฒนาตนเอง
จิตวิทยา
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
11 พฤศจิกายน 2568
ความยาว
95 หน้า
ราคาปก
229 บาท (ประหยัด 62%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถ
เข้าสู่ระบบ
เพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า
รีวิวทั้งหมด