ฟรีดริช นีทเชอ: นักปรัชญาผู้ล้มล้างค่านิยม (Friedrich Nietzsche)

หนังสือเล่มนี้มิได้เป็นเพียงชีวประวัติของนักปรัชญาผู้หนึ่ง หากคือประตูบานสำคัญที่เปิดเข้าสู่ดินแดนความคิดอันรุนแรง ลุ่มลึก และสั่นคลอนรากฐานศีลธรรมของโลกสมัยใหม่ ฟรีดริช นีทเชอ (Friedrich Nietzsche) ในสายตาของ จอร์จ บรันเดส มิใช่รูปเคารพแห่งปัญญาที่ตั้งอยู่อย่างสงบนิ่ง หากคือเปลวไฟแห่งจิตวิญญาณ ไฟที่เผาผลาญความเชื่อเก่า แสงที่สาดส่องความกล้าหาญของมนุษย์ผู้ยืนเดี่ยวดายต่อหน้าชะตากรรม
บรันเดสคือผู้อ่านนีทเชอด้วยหัวใจของนักมนุษยนิยมผู้กล้าเผชิญความจริง เขามิได้เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อสรรเสริญหรือปกป้อง หากเพื่อ "ทำความเข้าใจ" ชายผู้ยืนอยู่นอกขบวนของยุคสมัย ผู้ปฏิเสธความอบอุ่นของฝูงชน และยอมรับความโดดเดี่ยวเป็นราคาของเสรีภาพทางจิตวิญญาณ ชีวิตและความคิดของนีทเชอจึงถูกถักทอเข้าด้วยกันอย่างแยกไม่ออก ความเจ็บปวดทางร่างกาย ความเปล่าเปลี่ยวทางอารมณ์ และความเข้มข้นทางความคิด ล้วนหล่อหลอมให้เขากลายเป็นนักปรัชญาแห่งการท้าทาย
ในถ้อยคำของบรันเดส นีทเชอมิใช่นักทำลายอย่างไร้ทิศทาง แต่เป็นนักสร้างสรรค์ผู้รื้อถอนเพื่อเปิดทางให้คุณค่าใหม่ถือกำเนิด ความคิดเรื่องอำนาจเจตจำนง ความกล้าหาญที่จะเป็นตนเอง การปฏิเสธศีลธรรมแห่งความอ่อนแอ และการเรียกร้องให้มนุษย์ก้าวข้ามตน ทั้งหมดนี้มิได้ถูกนำเสนอในฐานะทฤษฎีเย็นชา หากเป็นผลพวงของชีวิตที่ถูกใช้ไปอย่างเข้มข้นจนถึงขีดสุด
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นทั้งภาพเหมือนและบทสนทนา เป็นการเผชิญหน้าระหว่างผู้อ่านกับคำถามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงว่า เรากล้าพอหรือไม่ที่จะคิดด้วยตนเอง? เราพร้อมหรือยังที่จะรับผิดชอบต่อเสรีภาพของเราโดยไม่หลบซ่อนหลังม่านศีลธรรมที่ผู้อื่นสร้างไว้? และเราจะมีชีวิตอย่างไร เมื่อพระเจ้าที่เคยเป็นศูนย์กลางของความหมายได้เงียบงันไปแล้ว
ผู้ที่เปิดหน้าแรกของหนังสือเล่มนี้ ควรเตรียมใจไว้ว่า จะมิได้พบความสบายใจ หากจะพบความตื่นรู้ มิได้พบคำตอบสำเร็จรูป หากจะพบคำถามที่ติดตามไปยาวนาน บรันเดสเชื้อเชิญเราให้เดินเคียงข้างนีทเชอ ไม่ใช่เพื่อเลียนแบบเขา หากเพื่อเรียนรู้ความกล้าหาญที่จะเป็นตนเองอย่างถึงที่สุด และเมื่ออ่านจบ ผู้อ่านจะรู้สึกว่าความคิดของตนไม่อาจกลับไปเหมือนเดิมได้อีก นั่นมิใช่ความสูญเสีย หากคือสัญญาณว่า เปลวไฟแห่งนีทเชอได้เริ่มลุกโชนขึ้นในจิตใจดังที่บรันเดสตั้งใจให้เป็น

เนษฐ์ ธาราธิเบศร์
ผู้แปล