แดน นรชน...มือปราบสิบทิศ ตอน ตะลุยเมืองกรุงเล่ม ๒ (เล่มจบ)

พันตำรวจตรีแดน นรชน ได้รับมอบหมายจาก พลตำรวจโทสงคราม ยามอุทิศ อดีตมือปราบสิบแผ่นดิน ให้เป็นหัวหน้าหน่วยปราบสิบห้าท้านรก เขากับลูกน้องในทีมงาน จึงลุยจับดะ-ฉะแหลก ไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม หากกระทำผิดแล้วละก็... แดน นรชน กัดไม่ปล่อยอย่างแน่นอน เขาตะลุยปราบไปทั้งสิบทิศ สมกับเป็นลูกน้องก้นกุฏิของ สงคราม ยามอุทิศ มือปราบสิบแผ่นดิน ที่คนชั่วได้ยินชื่อแล้วต้องครั่นคร้าม
แดน นรชน ซึ่งบุกตะลุยเมืองกรุงจะต้องพบเจอเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ นานา ของผู้ที่จ้องกระทำความผิดอย่างไรบ้าง
แดน นรชน จะปราบอะไรบ้าง และเขาจะทำได้สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมายหรือไม่
แดน นรชน มีวิธีการใด ในการปราบปรามเหล่าร้ายที่บ่อนทำลายประเทศชาติติดตาม และเป็นกำลังใจให้กับ แดน นรชน ผู้มีฉายาว่า มือปราบสิบทิศ โดยมีสโลแกนว่า...
“หลับเถิดประชา ข้าจะคุ้มภัย”
พันตำรวจตรีแดน นรชน อยู่ในชุดไปเวท เป็นชุดยีนส์เสื้อแขนยาว พกปืนสั้นมิดชิด วิทยุขนาดจิ๋วนั้นเสียบที่หูซ้ายตลอดเวลาติดต่อกับลูกทีมได้ตลอดเวลาเช่นกัน เขาเดินเข้ามาในบ้านของผู้จัดการเดชาอย่างรู้ที่ทาง
อิงนางรีบถลาไปเปิดประตูให้ แล้วพาเข้ามาพบผู้ให้กำเนิดทั้งสอง โดยที่เธอละล่ำละลัก บอกว่า…“สารวัตรแดนจะมาพาอิงไปเที่ยวห้างค่ะ”
แดนรีบชี้แจง… “จริงๆแล้วผมขอคุณอิงพาไปเที่ยวมากกว่าครับ เพราะผมคนหลังเขาอย่างที่ตำรวจที่นี่ว่าใส่หน้าผมเสมอๆ จึงไม่รู้เรื่องห้างหรอกครับ”
“เอาสิ อิงขับรถพ่อพาสารวัตรแดนเที่ยวสิ วันนี้วันหยุดพ่อว่างทั้งวัน นายฝรั่งยังไม่เรียกใช้อะไร” เดชาว่า
“ไม่ละครับคุณเดชา ผมอยากลองนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างดู กับต้องการเดินบน
สะพานลอย “
“งั้นผมรู้แล้วว่าสารวัตรมีวัตถุประสงค์ใด”
“อะไรเหรอพี่เด...” นางรัตนาเป็นภรรยาถามทันควัน
เดชารีบจาระไน…“วินมอเตอร์ไซค์ชักยุ่งขึ้นอีกแล้ว แก๊งคุมวินเริ่มจะฟื้นคืนชีพ มันเป็นหนึ่งในสิบห้าแก๊งอิทธิพลที่สารวัตรจะต้องปราบ แต่ผมอยากจะให้สารวัตรจัดการกับโจรขี้ยาที่ทุบหัวคนเอา ทรัพย์บนสะพานลอยปากซอยบ้านผมนี่แหละ วันก่อนเด็กข้างบ้านผมก็โดน รวมทั้งโจรปล้นมือถือด้วย”
“ครับ ผมจะดูลาดเลาว่าพวกมันลงมือแบบไหนแล้วจะสอยร่วงให้หมดเลยครับ”แดนนรชนว่า
“แล้วรถตู้ของสารวัตรไปจอดที่ไหนละคะ ทำไมลูกน้องทั้งหมดไม่เข้ามาในบ้านละคะ”
นางรัตนาถาม
“เราแยกย้ายกันหาข่าวครับ ผมส่งลูกน้องไปหลายจุดสำคัญๆ จากนั้นก็จะเข้าจัดการ เวลานี้เราต้องการข่าวในทางลึกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”
“อืมม…..สารวัตรไม่มีเวลาพักผ่อนเลย แม้แต่วันหยุดเหรอเนี่ย”
สองผัวเมียว่าเป็นประโยคเดียวกัน
“ครับ…เพราะตราบใดที่พวกมิจฉาชีพไม่หยุดทำชั่ว ผมก็หยุดไม่ได้ ต้องไล่ตะครุบทุกเวลานาทีอยู่อย่างนี้แหละครับ”
“เฮ้อ…ถ้ามีตำรวจอย่างสารวัตรกับท่านผู้ช่วยสงครามสักยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ผมว่าบ้านเมืองจะสงบสุขกว่านี้เยอะ” เดชาพึมพำ
แดนทำหูทวนลมเสีย เพราะได้ยินประโยคนี้จนชินชาเสียแล้ว
จากนั้นนายตำรวจหนุ่มภูธรกับสาวกรุงคนสวย ลูกสาวคนเดียวของผู้จัดการห้างสรรพสินค้าใหญ่ ก็เดินเคียงคู่กันออกจากบ้าน ไม่ยอมเอารถของผู้เป็นพ่อไป เพราะแดนหมายตาคิวรถที่อยู่สี่แยกหน้าวัดอินทรารมข้างหน้า ซึ่งเป็นคิวใหญ่มาก
ที่แท้แดน นรชนได้รับการร้องเรียนลับๆจากสมาชิกวินมอเตอร์ไซค์ ที่ถูกกระทำอยู่ในเวลานี้ เขาจึงมาหาข่าวและสัมผัสดู
“สารวัตรขา…”
เรียกแดนเฉยๆสิ อย่าเรียกยศ-ตำแหน่ง จะทำให้ผมหาข่าวสะดุดหรือหาข่าวไม่ได้เลย”
“ค่ะพี่แดน…อิงก็ว่าวินนี้สงบราบเรียบไม่มีอะไรนะคะ เพราะสังเกตจากคนขับมอเตอร์ไซค์ทุกคนก็มีสีหน้าเป็นปกติดี”
“นั่นนะสิ แต่มันจะต้องมีอะไร ไม่เช่นนั้นท่านสงครามคงไม่สั่งให้ผมมาดูที่วินหน้าวัด อินทรารามนี้ เป็นวินใหญ่ด้วย”
“เหรอคะ”
จากนั้นทั้งสองก็เดินมาถึงหน้าวิน หัวหน้าวินชื่อสงบ ชี้ไปที่มอเตอร์ไซค์สองคันหน้าซึ่งคนขับเริ่มขยับควบพร้อมสตาร์ทรถ หนุ่มสาวทั้งสองแยกกันไปซ้อนท้ายคนละคัน พร้อมกับรับหมวกกันน็อคมา
สวม แล้วมอเตอร์ไซค์ทั้งสองคันก็เคลื่อนออกจากวินหน้าวัดอินทรารามแห่งนั้น
เนื่องจากวินหน้าวัดดังแห่งนี้ อยู่ห่างจากถนนใหญ่ด้วยระยะทางถึงสามกิโลเมตรเศษ จึงต้องวิ่งตัดซอยโน้นออกซอยนี้ พอตัดเข้าซอยมะลิซ้อนเท่านั้น ตำรวจจราจรจำนวนสามนายดักรออยู่แล้วที่ปากซอย พร้อมโบกมือให้หยุด
“ห่ายัดเอ้ย แกล้งจับกูอีกแล้ว” อ้วนคนขับมอเตอร์ไซค์คันที่แดนนั่งโดยสารสบถลั่น พร้อมทั้งหยุดรถอย่างกระทันหัน
รถคันที่อิงนางนั่งตามมาก็เบรคด้วยและหยุด อิงนางต้องลงจากรถ
จราจรยศจ่า ป้ายหน้าอกบอกชื่ออาทิตย์สั่งการทันที…
“เอ็งขัดคำสั่งข้านี่หว่า…ข้าสั่งเอ็งกี่ครั้งแล้วให้เอาหมวกที่ได้มาตรฐานให้ผู้โดยสารสวมใส่ หมวกแบบนี้มันหมวกเด็กเล่น แค่เคาะก็แตกแล้วมันเป็นพลาสติกอย่างบาง เกิดผู้โดยสารล้มลงกับพื้น มันกันอะไรไม่ได้ มันต้องใช้อย่างที่เอ็งสวม ปรับร้อย...”
“โธ่…วันนี้เพิ่งได้เงินร้อยกว่าบาทเองจ่า”
“งั้นเอาใบขับขี่มาดู”
“ไม่ละครับ ผมขอเสียที่นี่ก็แล้วกัน” คนขับมอเตอร์ไซค์คันที่แดนนั่งมารีบจ่าย เพราะถ้าถูกยึดใบขับขี่จะยุ่งยากมากความ
“จ่ายที่นี่ไม่ได้ ข้าไม่มีอำนาจปรับ ไปเสียที่โรงพักโน่น”
“โธ่…เสียเวลาผู้โดยสารนะครับจ่า ให้ผมเสียที่นี่เถอะ” อ้วนวิงวอน
“บอกแล้วไงข้าไม่มีอำนาจปรับ ต้องไปเสียที่โรงพัก เดี๋ยวไปพร้อมๆเพื่อนเอ็งสิ ขืนยัดเยียดให้ข้า ข้าแจ้งข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงานนะ คุกนะโว้ย” จ่าอาทิตย์ชี้หน้าว่าเสียงกร้าวไม่ยอมรับเงิน ผิดระบบของจราจรทั่วๆไป
เอ…..จ่าจราจรคนนี้ไม่ยอมรับเงินเช่นทั่วๆไป มันมีอะไรลึกเร้นแน่ๆเลย เราต้องคอยดูต่อไป แดน นรชน สุดที่จะสงสัย

แฟนพันธุ์แท้ของ “สิงขร” ต้องไม่พลาดผลงานเรื่องเยี่ยม ที่ได้บรรจงสรรค์สร้างนิยายน้ำดี ซึ่งเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ รับรองว่า...สนุกครบทุกรส จนคุณวางไม่ลงอย่างแน่นอนใน “แดน นรชน มือปราบสิบทิศ ตอนตะลุยเมืองกรุง” ซึ่งเป็นอีกภาคหนึ่งของ มือปราบสิบแผ่นดิน ที่โด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบ ครองใจท่านผู้อ่านมาแล้วครับ