ซูสีไทเฮายึดบัลลังก์ฮ่องเต้ (Cixi’s Seize-Throne Mission)

เสียงเอะอะ ดังขึ้นนอกกำแพงที่พักของฮ่องเต้ สรรพเสียงดังขึ้นไม่ได้ศัพท์
และก่อนที่จะพระองค์จะทรงทำอะไรต่อไปนั้น...ก็ปรากฏร่างของขุนทหารร่างกำยำใบหน้าดุดันเหี้ยมเกรียมขึ้น...
แสงไฟจากตะเกียงส่องต้องใบหน้าของชายผู้นั้น....เขาคือนายพลหรงลู่ผู้ที่ยังดูแข็งแรง เหี้ยมโหด กร้าวแกร่ง แม้จะอยู่ในวัยกว่า 60 ปีแล้วก็ตาม
นายพลหรงลู่กล่าวชัดถ้อยชัดคำถึงสาเหตุของการเข้าควบคุมตัวองค์ฮ่องเต้ เขาแจ้งข้อหาร้ายแรงต่อพระองค์ในขณะที่ฮ่องเต้หูอื้อ ความคิดสับสน และมองหาใครสักคนที่จะช่วยเหลือพระองค์ในยามคับขันเช่นนั้น
เมื่อทรงปรายตามองไปรอบพระองค์...สิ่งที่ได้เห็นชัดเจนก็คือ แววตาของเหล่าขันที ขุนทหาร และกลุ่มผู้รับใช้ในวังที่ส่งประกายตาออกมาทุกรูปแบบ บ้างก็เย้ยหยัน บ้างก็เห็นใจ และบ้างก็หลบตาต่ำเพื่อซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้....
คืนนั้น...จักรพรรดิกวังซวี้ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโอรสแห่งสรวงสวรรค์และเป็นประมุขของแผ่นดินจีนถูกนายพลหรงลู่ควบคุมตัวจากตำหนักใหญ่โตโดยมีจุดมุ่งหมายปลายทางคือ ตำหนักเล็กๆที่อยู่ในทะเลสาบ เป็นตำหนักที่ไม่มีความสำคัญใดๆทั้งสิ้น
โอรสแห่งสวรรค์ได้รับคำทูลจากนายพลหรงลู่ว่า....เขาได้รับคำบัญชาจากพระนางซูสีไทเฮาให้มาควบคุมตัวพระองค์ไปไว้ที่ตำหนักสมุทรมุข บทบาททางการปฏิรูปแผ่นดินของพระองค์จบสิ้นลงไปแล้ว ส่วนอนาคตนอกเหนือจากนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของพระนางซูสีไทเฮาที่จะเป็นผู้ดำเนินสั่งการลงมา
เมื่อจักรพรรดิกวังซวี้แหงนพระพักตร์มองดูพระจันทร์เต็มดวงในคืนนั้นอีกครั้ง...พระองค์แทบไม่อยากเชื่อว่านั่นคือพระจันทร์ดวงเดียวกันกับที่พระองค์ได้เห็นเมื่อตอนหัวค่ำ
ความหวังทั้งหลาย มลายหายสูญ ไปกับช่วงเวลาแห่งการถูกควบคุมตัว ณ ตำหนักสมุทรมุขในคืนวันที่ 21 กันยายน 1898 นั้นเอง...