Icon Close

จอมไพรใจเพชร เล่ม ๒

จอมไพรใจเพชร เล่ม ๒
สำนักพิมพ์singkornbangkok
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
19 ตุลาคม 2560
ความยาว
478 หน้า (≈ 85,748 คำ)
ราคาปก
200 บาท (ประหยัด 35%)
จอมไพรใจเพชร เล่ม ๒
จอมไพรใจเพชร เล่ม ๒
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
No Rating

จอมไพรใจเพชร เป็นภาคสองของ ยอดพธูคู่บัลลังก์ ที่สิงขรได้เขียนขึ้นตามคำเรียกร้องของแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามผลงานของ “สิงขร” มาโดยตลอด เป็นเรื่องราวของ ดาว หรือ ดาริกา ที่ยอมละทิ้งการเป็นสนมเอกของเจ้าชายแห่งเมืองลี้ลับ กลับมาเป็นตำรวจหญิงกองร้อยน้ำตาลเช่นเดิม เพียงเพราะเธอหยิ่งในศักดิ์ศรี และไม่ยอมเป็นสองรองใคร โดยถือว่า...เป็นหนึ่งในกระท่อม ดีกว่าเป็นสองในราชวัง ซึ่งเธอจะได้สมดังที่ตั้งใจหรือไม่นั้น ใครจะมาทำให้เธอเป็นเพียงหนึ่งเดียวในกระท่อม แล้วดาริกาจะได้พบกับรักแท้ หรือบัลลังก์รักของเธอหรือไม่...
ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของเรื่องราว...จอมไพรใจเพชร หรือ บัลลังก์รักดาริกา ขอเชิญทุกท่านติดตามความสนุกสนาน เข้มข้น ครบทุกรสได้แล้วครับ และขอขอบคุณทุกกำลังใจครับ
“สิงขร”

ตัวอย่างบางตอน...
"แล้วผู้หญิงที่ชื่อบังอรเป็นใคร" เธอถามจริงจัง
"เป็นน้องสาวแม่ผม เสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่ใช่แม่ผม พูดเรื่องอื่นเถอะดาว"
เขาบอกเสียงสั่นสะท้าน บ่งบอกความไม่พร้อมจะฟัง
"ก็ได้ ถ้านายไม่สบายใจละก็ รณภพ...พรุ่งนี้ถ้าเราค้นพบปล่องอากาศเจอ นายจะพาเราลงไปในถ้ำเลยใช่มั้ย"
"ก็คงเป็นแบบนั้น แต่มันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่เราคิด คุณเตรียมตัวให้ดีก็แล้วกัน ในการโรยตัว
ลงไปกับปล่องลมที่สูงชันเพื่อเข้าไปในถ้ำ อาจจะไม่มีอากาศหายใจ ทางที่ดีคุณรอผมอยู่ที่ปล่องอากาศก็แล้วกัน ผมจะลงไปสำรวจคนเดียว มันจะสะดวกกว่า"
"ไม่ นายถึงไหนฉันถึงนั้น ฉันเชื่อว่าดาลัดก็คงคิดแบบฉัน พวกเราเป็นตำรวจ เรียนวิธีการไต่หน้าผาลงหน้าผามาไม่รู้กี่สิบครั้งแล้ว แม้ในที่มืดก็ฝึกมาแล้ว นายไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ว่าแต่นายเหอะ ไม่ได้เรียนวิชาการไต่หน้าผามาเลยจะไหวหรือ"
"ต้องไหว ถ้าไม่ไหวก็ไม่ลงไป" เขายืนยันแข็งขัน
"ขอถามอีกเรื่องเดียวเท่านั้น นายทำไมให้คาถาบังตาแค่พี่หนานบุญตันเท่านั้น ฉันว่าจะต้องมีเหตุผลนอกเหนือไปจากที่นายให้ไว้อย่างแน่นอน"
"ครับ มันเป็นคาถาสำคัญถ้าตกไปอยู่ในมือคนไม่ดี คนอื่นจะเดือดร้อนสำหรับพี่หนานบุญตันนั้นเป็นคนที่เพียบพร้อมแน่ ผมจึงให้เพียงคนเดียวเท่านั้น"
"ฉันไม่ได้อิจฉาตาร้อนใดๆนะ แต่มันก็น่าคิดจริงๆ"
"ดาว...ผมจะบอกให้นะ คาถาบทนั้นมันใช้ได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น เห็นชัดๆก็คือเสกก้อนหินให้เป็นก้อนทองคำ แต่พอมนต์จางก็กลายเป็นหินอย่างเดิม คุณอย่าคิดอยากได้เลยนะ ที่สำคัญไปกว่านั้น หนานบุญตันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อ่านอักษรล้านนาโบราณออก แล้วผมจะให้ใครได้เล่า"
"นี่แปลว่านางกระสือเฒ่าเขียนคาถาเป็นอักษรล้านนาใช่มั้ย"
"ใช่"
"งั้นก็สมควรให้พี่หนานเพียงคนเดียว เพราะอ่านอักษรนั้นออก เหตุผลง่ายๆแค่นี้นายทำไมไม่บอกให้ทราบโดยทั่วกัน อ้างไปโน่น...ดวงตาเห็นธรรม โลภ โกรธ หลง ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากอยู่ได้ พิลึกคนจริงๆนายเนี่ย"
"ผมต้องการสอนคนไง"
"สอนฉันด้วยใช่มั้ย"
"ใช่"
ดาริกาถอนใจนิดหนึ่ง แล้วบอกกับเขาว่า..."ฉันไม่ติดใจเรื่องคาถาบังตาคนอีกต่อไปแล้ว รณจ๊ะ...ดูคุณเคร่งเครียดเหลือเกิน ผ่อนสายป่านบ้างก็จะดีนะที่รัก "
"ให้ผมทำยังไง"
เขาหันมาถามเสียงแผ่วเบา นัยน์ตาเยิ้มขึ้นมาทันใด
เธอชี้หน้าเขา พร้อมทำตาเขียวปั๊ด...
"ผ่อนคลายแบบนั้นไม่มีทาง ตราบใดที่หลังไม่แตะฟูก"
"แล้วจะให้ผมทำยังไง ง้างนกแล้วไม่ได้ยิงเนี่ยมันทรมาทรกรรมนะ"
"นายร้องเพลงให้ฉันฟังสิ ท่ามกลางจันทร์ข้างแรมงี้แหละ ดาวเกลื่อนนภาไปหมดเห็นมั้ย"
ว่าพลาง...นายตำรวจหญิงแสนสวยขยับเข้าแนบชิดต้นแขนซ้าย พร้อมกอดต้นแขนข้างนั้นของเขาไว้แน่น แนบแก้มข้างขวาไปกับต้นแขนของเขาด้วย
"เพลงอะไรดี"
"เพลงอะไรก็ได้ ให้มันเข้ากับบรรยากาศในเวลานี้"
จากนั้น...เสียงแผ่วนุ่มทุ้มก็ดังออกจากปากหยักได้รูปนั้น...
...ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร มาดล...จิตมาดล...ใจ เสน่หา...รักนี้จริงจากใจหรือเปล่า หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา...หรือแกล้งเพียงแต่แลตา ยั่วอุราให้หลงลำพอง
...สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้าง รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง...รักแรกช้ำน้ำตานอง ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย
ดาริกาสะอื้นเบาๆ เมื่อเขาร้องเพลงเสน่หาจบ
รณภพก้มลงถาม..."คุณร้องไห้ทำไม"
"มันกินใจฉันนะสิ เสียงคุณเพราะจัง"
"กินใจตรงท่อนไหน"
เขาถามพลางใช้มือปาดน้ำตาให้เธอ
"สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้าง รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง รักแรกช้ำน้ำตานอง ถ้าเป็นสองฉันคงต้องขาดใจตาย"
"อ้อ...ผมให้สัญญานะดาว จะไม่ให้คุณต้องช้ำน้ำตานองอีก"
"ค่ะ ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ"
เขารั้งร่างนุ่มนิ่มนั้นเข้ามากอดเต็มตัว แล้วฝังจมูกลงที่แก้มผ่องหอมกรุ่น เอ่ยเสียงนุ่มทุ้มที่หูหอมละมุนว่า..."ดาว คุณลืมความหลังเสียให้สิ้น แล้วเริ่มต้นกับผมนะครับ แม้ผมจะเป็นเพียงหัวหมา แต่ก็มีศักดิ์ศรียิ่งกว่าเป็นหางราชสีห์นะ"
"ค่ะ ฉันคิดได้นานแล้ว ถึงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับนาย"
"ถ้าคุณไม่พบผม แล้วคุณจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใคร"
"ไม่รู้ แต่ก็ต้องเริ่มต้นแน่ๆ ขอบคุณที่เบื้องบนส่งเทพเจ้าน้อยลงมาให้ฉัน รณภพ...ฉันรักนาย"
"ผมก็รักคุณ คุณคือดาวประดับใจผมนะ"
ลมพัดมาวูบหนึ่ง หอบเอากลิ่นดอกไม้ป่ามาด้วย ทั้งสองกอดกระชับกันแน่น พลางสูดดมอย่างสดชื่น
รณภพ ก้มลงกระซิบ..."ดาวจ๊ะ"
"ขา"
ดาริกาเงยหน้าขึ้นขานรับ ได้กลิ่นปากหอมอ่อนๆ
"มีอีกเพลงหนึ่งชื่อ...อ่าวอารมณ์ ผมขอมอบให้คุณโดยเฉพาะ เป็นเพลงมีความหมายลึกซึ้งสำหรับสองเรา ตอนผมเป็นเด็ก พ่อร้องให้แม่ฟัง ผมก็นอนหนุนตักแม่ฟังด้วย"
"เหรอ งั้นร้องสิ..."
"...มาเถิดหนาคนดี เอนกายลงที่ตรงนี้ พี่มีอ้อมแขนคอยกอด อย่าลังเลหันเหเอื้อนออด อย่าให้ความทุกข์เป็นมอด คอยกัดกร่อนชีวา ...
....ลืมเสียเรื่องเศร้าหมองศรี โลกใหม่โลกนี้ใช่ของเราสองคน สุขใกล้มือคว้าไว้ก่อนประเสริฐล้น กอดพี่ให้แน่นหน้ามน เดี๋ยวฝนจะโปรยลงมา"
"อุ๊ย เพราะจังเลย ฉันมีความสุขอะไรเช่นนี้"
เธอสะอื้นทั้งน้ำตา และมีรอยยิ้มอีกครั้ง
"ร้องไห้อีกแล้ว" เขาบอกพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้อีกครั้ง
"ก็เพลงมันไพเราะ มีความหมายสำหรับฉันมาก เสียงคุณก็เพราะ ฉันก็เลยซึ้งทั้งน้ำตาไง"
"คุณชอบท่อนไหน ที่ประทับใจจนร้องไห้ล่ะ"
"ทุกท่อนเลย โดยเฉพาะท่อนสุดท้าย..."
"อ๋อ...ลืมเสียเรื่องเศร้าหมองศรี โลกใหม่โลกนี้ใช่ของเราสองคน สุขใกล้มือคว้าไว้ก่อนประเสริฐล้น กอดพี่ให้แน่นหน้ามน เดี๋ยวฝนจะโปรยลงมา"
"เพราะแล้วก็มีความหมายที่สุดเลย" เธอบอกเสียงเครือ พร้อมทั้งกอดเขาแน่นเข้าไปอีก
เขาเองก็กอดเธอจนแน่น สองมือโลมลูบรอนตะโพกขึ้นลงแผ่วพลิ้ว มีความสุขจนลืมโลกไปชั่วขณะ แล้วกระซิบบอกเธอว่า...
"ผมรักคุณ"
"ฉันก็รักนาย"
"ผมจะเป็นอ่าวอารมณ์ให้คุณนะ"
"ค่ะ"
"ถามจริงๆ คุณลืมสิ้นหรือยังเรื่องเศร้าหมองศรี"
"ลืมเกือบหมดแล้วค่ะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องให้วันเวลาช่วย นายจำไว้อย่างนะรณ...นายไม่ใช่รักแรกของฉัน แต่นายเป็นรักสุดท้ายและจะเป็นรักสุดท้ายของฉันตราบเท่านิรันดร"
"ครับ...แต่คุณคือรักแรกของผม จะเป็นรักเดียวตลอดไปด้วย"
ดาริกาเกือกกลิ้งใบหน้ากับแผ่นอกเขาอย่างมีความสุขที่สุด สิ่งรอบกายคล้ายลอยฟ่อง หัวใจพองโตอิ่มเอิบอิ่มเอม สะอื้นเบาๆแต่เป็นสะอื้นรักที่สมหวังและอิ่มเอม แม้จะมีสวรรค์วิมานแมนมารออยู่ตรงหน้า เธอก็ขอไม่ขอตะกายสู่สวรรค์นั้น แต่จะขอสู่รังรักกับชาวดินที่มีค่าเทียบเท่า บัลลังก์รักแห่งดาริกา
เลยทีเดียว
รณภพกอดกระชับร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นนั้นไว้ แล้วแหงนมองบนท้องฟ้า ยามไร้เดือนเช่นนี้ กลับมีหมู่ดาริกาดารดาษเต็มท้องฟ้าไปหมด
ดาริกาแหงนมองตาม เธอถามขึ้น..."นายชอบดูดาวเหรอ"
"เมื่อก่อนผมชอบนอนหนุนตักแม่ดูดาวที่ชานบ้านที่น่าน แม่จะชี้ให้ดูหมู่ดาวที่แม่รู้จัก แต่นาทีนี้...ผมจะดูดาวประกายที่ประจำใจของผมเท่านั้น"
"ดวงไหนเหรอฉันมองไม่เห็น"
"อยู่แนบอกผมนี่ไง"
"ให้แนบตลอดไป ห้ามนายมีดาวดวงไหนอีกนะ ถ้ามีฉันจะกลั้นใจตายให้ดู"
เธอบอกเสียงแง่งอน และงอแงนิดๆ
"ผมให้สัญญา"
"งั้นนายต้องอีกหนึ่งเพลงเกี่ยวกับดาว ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด เพราะฉันมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่ฉันรักและร้องเพลงเพราะๆ เนื้อเพลงไพเราะจับใจให้ฉันฟัง ต่อให้บันไดวิมานชั้นฟ้ามาเกยรออยู่ตรงหน้า ฉันก็ไม่ขอแตะบันไดนั้นเป็นอันขาด แต่จะขอเป็นดาวประกายที่ประดับใจนายตลอดไป"
"ก็ได้...ชื่อเพลงดาวประกาย"
"อุ๊ย...เพื่อฉันโดยเฉพาะใช่มั้ย"
"ใช่ครับ"
จากนั้น...เสียงเพลงแผ่วนุ่มทุ้มก็ดังขึ้นอีกครั้ง...

ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
19 ตุลาคม 2560
ความยาว
478 หน้า (≈ 85,748 คำ)
ราคาปก
200 บาท (ประหยัด 35%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถล็อกอินเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า