มือปราบสะท้านสิบทิศ ตอน คืนความสุขให้สังคม เล่ม ๑

เมื่อมีกลุ่มคนรวมตัวกันก่อความไม่สงบ สร้างสถานการณ์ และสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดิน เพราะขัดแย้งในเรื่องของความคิดที่เห็นต่าง ทางหน่วยเหนือจึงส่งหน่วยงานของตนเองมาเพื่อคืนความสุขให้กับแผ่นดิน
ฝ่ายตำรวจจึงส่งมือปราบพระกาฬ นำโดยพล.ต.ท.สงคราม ยามอุทิศ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจ้าแห่งตำนานมือปราบสิบแผ่นดินอันลือลั่นในอดีตเมื่อยี่สิบปีก่อนโน้น และมีสโลแกนที่ดังกึกก้องไปทั้งสิบทิศนั่นก็คือ...
จะไม่รีดไถให้สิ้นคิด จะพิชิตโจรจัญไรไม่หวั่นไหว
จะรักษาเกียรติตำรวจให้เกริกไกร จะคุ้มภัยให้ประชาได้อยู่เย็น
พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกรัตน์ รัตนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรเวียงชัย มือปราบหน้าหยก ลูกศิษย์มือปราบสิบแผ่นดินรุ่นที่หนึ่ง ผู้มีสโลแกนว่า...
คนมีทรัพย์หนึ่ง คนมีสมัครพรรคพวกหนึ่งและคนมีบารมีหนึ่ง มีคดีความต้องติดคุก ไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น!
พ.ต.อ.แดน นรชน ผู้กำกับการสถานีตำรวจเพียงเดือน มือปราบสิบห้าอันตราย ลูกศิษย์มือปราบสิบแผ่นดินรุ่นที่สอง เจ้าของสโลแกนอันลือลั่นคือ
ข้าจะพิทักษ์ และรับใช้ประชาชน ข้าจะอดทนต่อความลำบาก ข้าจะไม่มักมากในลาภผล ข้าจะมุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
และ พ.ต.ท.ภุชงค์ นาคราช สวป.ผาดิน มือปราบสะท้านแผ่นดิน ผู้ซึ่งเดินตามแนวทางของ พ.ต.อ.แดน และยึดถือมือปราบสิบแผ่นดินเป็นแม่แบบอย่างเคร่งครัด มีสโลแกนอันอบอุ่นต่อมวลชนคือ...
หลับเถิดประชา ข้าจะคุ้มภัย
กลุ่มมือปราบพระกาฬจะใช้วิธีการใด เพื่อลดความขัดแย้ง และคืนความสุขให้แผ่นดินในครั้งนี้
แฟนพันธุ์แท้ของ “สิงขร” ต้องไม่พลาดผลงานเรื่องเยี่ยม ที่ได้บรรจงสรรค์สร้างนิยายน้ำดี ซึ่งเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ รับรองว่า...สนุกครบทุกรส จนคุณวางไม่ลงอย่างแน่นอนใน “มือปราบสะท้านสิบทิศ ตอนคืนความสุขให้สังคม” ซึ่งเป็นอีกภาคหนึ่งของ มือปราบสิบแผ่นดินที่โด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบ ครองใจท่านผู้อ่านมาแล้วครับ
ตัวอย่างบางตอน
ในทันทีทันใดนั้น...
ตำรวจกองปราบในชุดเครื่องแบบสีดำสนิท แบบเดียวกับชุดของมือปราบสิบแผ่นดินจำนวน
หกนายเข้ามาในห้องทำความเคารพต่อ พล.ต.ท.สงครามแล้วนำตัวผู้กำกับเลิศรัตน์ซึ่งเวลานี้ไร้เส้นเอ็นเสีย
แล้วออกไปจากห้องเพื่อเข้ากรุงเทพ เพราะมีคดีพัวพันหลายท้องที่หลายคดี
ส่วน พ.ต.ท.วสิน ถูกแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเช่นกัน แต่ถูกกันเป็นพยานนั่งอยู่ที่มุมห้อง โดย พ.ต.อ.โอภาส รอง ผบก.ภ.นั่งสอบปากคำคร่าวๆไปก่อน
ในนาทีนั้น...ประตูห้องเปิดผางออก พล.ต.ชิดชัยผู้บังคับการทหารของจังหวัดนี้ซึ่งเป็นสามีของคุณนายมินตรานายทุนเงินกู้นอกระบบพาทหารในเครื่องแบบจำนวนหลายนายเข้ามาในห้องของ พล.ต.ต.วินจนเต็มพรืดไปหมด นายทหารใหญ่ซึ่งนอกเครื่องแบบตรงไปหา พล.ต.ต.วิน เพราะรู้จักดี...
"ผู้การวิน ผมขอร้องอย่าล้ำเส้นต่างคนต่างอยู่ ทางใครก็ทางมัน ผมยังไม่ยุ่มย่ามบ่อนของท่านเลยนะ"
พล.ต.ต.วินรีบบอกเสียงสะท้านเลือดขึ้นหน้า...
"ผู้การชิดชัย นี่พลตำรวจโทสงคราม ยามอุทิศ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหัวหน้าชุดคืนความสุขให้สังคมฝ่ายตำรวจครับ"
พล.ต.ชิดชัยรีบทำความเคารพ พล.ต.ท.สงครามเพราะยศตำแหน่งที่สูงกว่าและขึ้นชื่อว่าทหารแล้ว เรื่องระเบียบวินัยนั้นเคร่งครัดจนฝังเข้าสายเลือดเสียแล้ว
ท่าทีของ พล.ต.ชิดชัยไม่ยอมอ่อนลงง่ายๆเพราะขนลูกน้องมาเพียบ ประกอบกับมีกลิ่นละมุดสุกอ่อนๆ บ่งบอกว่าดื่มมาได้ระดับแล้วนั่นเอง จึงเอ่ยกับ พล.ต.ท.สงครามว่า...
"ท่านมาจังหวัดนี้ก็ดีแล้วเราขอเจรจากันด้วยสัมพันธภาพอันดีระหว่างทหารกับตำรวจ อย่าได้ขุ่นข้องหมองใจกันเลยนะท่าน"
"ดีครับผู้การ เราต่างก็ทำงานเพื่อคืนความสุขให้ประชาชนด้วยกัน เชิญผู้การว่ามาเถอะครับ บางเรื่องผมไม่เข้าใจ"พล.ต.ท.สงครามบอกตามตรง
ด.ต.นภารีบนำเก้าอี้ให้ พล.ต.ชิดชัยนั่งลงตรงหน้า พล.ต.ท.สงครามและ พล.ต.ต.วินแล้วเอ่ยขึ้นเสียงดังตามแบบฉบับ...
"คืองี้ครับท่าน ผมขอให้ผู้การวินปล่อยตัวนายยักษ์หรือฉกรรจ์เสีย ถึงจับไปก็แค่ปรับทำร้ายร่างกายเท่านั้น แล้วระหว่างทหารและตำรวจก็จะไม่ขุ่นข้องหมองใจเพราะทางใครก็ทางมัน อย่างบ่อนทั้งหลายแหล่ผมยังไม่ให้ทหารเข้าไปยุ่งทั้งๆที่อยู่ระหว่างกฎอัยการศึกพวกผมมีอำนาจดำเนินการท่านก็รู้ดี"
"แต่นายยักษ์มีคดีเก่าหลายคดีนะครับ เราไม่ดำเนินการก็เท่ากับละเว้นหน้าที่"
พล.ต.ท.สงครามว่า
"ตรงนี้แหละที่เป็นเส้นกั้นระหว่างเรา ถ้าท่านกับผู้การวินมีความจริงใจต้องการปรองดองอย่างแท้จริงต้องมาจากพวกเราเป็นลำดับแรก ทหารและตำรวจไม่ล้ำเส้นกันและกัน อะไรๆมันก็ไม่เกิดตามมา เป็นอันว่าช่วยส่งตัวไอ้ดำหรือฉกรรจ์ให้ผมและไม่ยุ่งกับธุรกิจของแม่บ้านผม ผมก็จะไม่ยุ่งกับบ่อนของพวกท่าน โอเคนะครับ"
พล.ต.ต.วินเลือดขึ้นหน้าแต่ถูกห้ามไม่ให้พูด โดย พล.ต.ท.สงครามพูดขึ้นเบาๆ...
"ธุรกิจแม่บ้านของท่านคือออกเงินกู้นอกระบบใช่มั้ยท่าน"
พล.ต.ท.สงครามถามตรงๆ
"ใช่ครับ"
พล.ต.ชิดชัย ผู้บังคับการทหารรับตรงๆอย่างชายชาติทหารเช่นกัน
"โดยจ้างนายยักษ์หรือฉกรรจ์กับพวกทวงหนี้ใช่มั้ยครับ"
"ใช่ครับท่าน ผู้กำกับเลิศรัตน์ก็ดำเนินกิจการร่วมกับแม่บ้านผม ผมถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ทีธนาคารกับไฟแน้นซ์ทำไมทำได้ ขูดรีดประชาชนไปปีหนึ่งๆเป็นหมื่นๆแสนๆล้าน นายแบงก์ร่ำรวยมหาศาล ท่านก็คงรู้ดี แบ่งให้ข้าราชการเรามีกินมีใช้บ้างไม่ได้เชียวหรือ"
"ดอกร้อยละยี่สิบมันแพงมากนะผู้การ ยังผิดกฎหมายด้วย"
มือปราบสิบแผ่นดินบอก
"ดอกถูกดอกแพงผมว่าไม่ใช่ประเด็น เราให้แม่ค้ากู้เพื่อนำไปลงทุนแล้วได้กำไรมาเลี้ยงครอบครัว ถือว่าช่วยสร้างโอกาสให้กับแม่ค้าคนนั้นๆและถือว่าแม่บ้านผมสร้างโอกาสให้กับแม่ค้านับร้อยๆรายแล้ว ไปพึ่งแบงก์ไม่ได้เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แม่บ้านผมให้กู้โดยไม่มีอะไรมาค้ำประกันถือว่าสร้างสรรค์สังคม"
"ปัญหาอยู่ที่การทวงหนี้นะผู้การ" พล.ต.ท.สงครามว่า
"ทุกอย่างมีปัญหาทั้งนั้นนะท่านผู้ช่วย หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องอภัยกัน"
"ทวงหนี้โหดมาก ผิดกฎหมายด้วยครับ"
"เรื่องนี้ผมเห็นด้วยนะท่านผู้ช่วย เพราะคนเราต้องทำตามที่ตกลงไว้ไม่มีวินัยในเรื่องนี้เสียแล้วต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูกหนี้รายอื่นๆ ปกครองคนหมู่มากต้องเด็ดขาด ผมว่าเรื่องทวงหนี้เป็นการสมควรแก่เหตุ"
พล.ต.ชิดชัยผู้บังคับการทหารยืนยันว่าการทวงหนี้โหดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะลูกหนี้ที่เฉื่อยชาจะได้ไม่เอาเป็นตัวอย่าง
"แต่คดีนี้ทวงหนี้ถึงขั้นพยายามฆ่ากันด้วย ผมต้องดำเนินคดี"
พล.ต.ท.สงครามยืนยันหนักแน่น
"ผมพูดแทบตาย ท่านผู้ช่วยไม่ยอมเข้าใจเท่ากับไม่ยอมปรองดอง ผมจะไม่กลับจนกว่าจะได้ตัวคนงานทั้งสี่คนของผมคืน"
พล.ต.ชิดชัยยื่นคำขาด
ทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบนับสิบไหวตัวพรึบพรับ