Icon Close

ปฐพีสีเลือด เล่ม 4 (จบ)

ปฐพีสีเลือด เล่ม 4 (จบ)
สำนักพิมพ์singkornbangkok
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
28 พฤษภาคม 2561
ความยาว
351 หน้า (≈ 61,672 คำ)
ราคาปก
200 บาท (ประหยัด 35%)
ปฐพีสีเลือด เล่ม 4 (จบ)
ปฐพีสีเลือด เล่ม 4 (จบ)
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
เมื่อแผ่นดินที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุข ต้องลุกเป็นไฟ เจิ่งนองไปด้วยเลือด จากฝีมือของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ร้ายไปกว่านั้น...บิดาของเขาซึ่งเป็นคนดีทำประโยชน์ให้กับสังคมมาโดยตลอด ต้องมาถูกลอบสังหารเพราะเกิดไปล่วงรู้ความลับของขบวนการร้ายที่คิดจะแบ่งแยกดินแดนเข้าให้ เขาต้องการแก้แค้นให้พ่อ แต่ทว่า...เขาตัวคนเดียวไม่อาจสู้รบปรบมือกับขบวนการของพวกมันซึ่งฝังรากหยั่งลึกไปทั่วแผ่นดินล้านนาได้
แล้วเขาจะทำเช่นไร...จึงจะล้างแค้น และหยุดยั้งขบวนการแบ่งแยกดินแดนนี้ได้ คงต้องตามไปเอาใจช่วยเขาแล้วครับ
แฟนพันธุ์แท้ของ “สิงขร” ต้องไม่พลาดผลงานเรื่องเยี่ยมเรื่องนี้เด็ดขาด รับรองว่าได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน ครบครันทุกรส ความมันในอารมณ์ของการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่าน ความเข้มข้นน่าติดตามตั้งแต่บรรทัดแรกถึงบรรทัดสุดท้าย ใน... “ปฐพีสีเลือด” สิงขรรับประกันว่าท่านไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
ตัวอย่างบางตอนของปฐพีสีเลือด เล่ม ๔ ตอนจบ
ดำเดินเข้ามาในเต็นท์บัญชาการอีกครั้ง รายงานต่อไกรศรีเสียงรัว...
“ลูกพี่ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ”
“ดี เดี๋ยวมึงบอกทหารมาช่วยกันหามมันไปรอกูอยู่ข้างนอก แต่อย่าเพิ่งเอาขึ้นตะแลงแกง รอกูก่อน”
“ครับลูกพี่”
จากนั้นดำได้นำทหารสี่นายมาช่วยกันหามร่างของเอกยุทธ โดยด้านหลังคล้ายเป็นมันเลื่อมยังไงชอบกล ซึ่งไกรศรีพยายามแทงด้วยมีดปลายแหลมที่เผาจนแดงแป๊ดแต่ก็แทงเท่าไหร่ๆก็ไม่เข้า ลื่นไถลไปเสียหมดคล้ายมีเมือกหนาปึ้ก
“ท่านพี่นุกูลจะให้ไกรศรีเผามันจริงๆหรือครับ”
เรืองยศหันไปถาม
“ก็มีอยู่สองวิธีที่จะสาสมกับความแค้นนะเรืองยศ วิธีแรกเผาแม่งทั้งเป็นนี่แหละ อีกวิธีสับมันทีละชิ้นๆแต่พี่เลือกวิธีเผาดีกว่า มันจะได้ตายร้อนยังไง”
อดีตราชบุตรเชียงรุ้งบอกด้วยใบหน้าถมึงทึง แสดงออกถึงอาการขุ่นแค้นอย่างสาหัส
สากรรจ์ต่อเอกยุทธ ซึ่งทำลายคลังแสงจนเรียบวุธทั้งสามแห่ง ชีวิตทหารอีกนับสิบที่ดับดิ้นด้วยน้ำมือไอ้หนุ่มหนังเหนียว
ทว่า...เจ้าตัวไม่ค่อยจะตกใจเท่าไหร่ คงเชื่อในคาถาแคล้วคลาดซึ่งร่ายกำกับอยู่ในใจตลอดเวลา เขาเชื่อว่าต้องแคล้วคลาดจากการถูกเผาแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
“ท่านอา ท่านพี่ ผมสังเกตเห็นว่ารบขัดขวางเราไม่ให้ฆ่าเจ้านั่น ผิดสังเกตอย่างที่ผมว่ามั้ยครับ”
สุรเชษฐ์กระซิบกระซาบ
“อืมม...เห็นจะจริงอย่างสุรเชษฐ์ว่ามานะ แต่อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่าเราทำของเราไปอย่างนี้แหละ”นุกูลว่า
“เกิดเขาเอาไปฟ้องเจ้าฟ้าเหนือหัวอย่างที่พูดล่ะครับเจ้าพี่จะทำยังไง ผมว่าไม่ควรผ่านไปง่ายๆในประเด็นนี้นะครับ”
“นี่เรืองยศ พี่บอกเมื่อกี้แล้วไงว่าเรื่องนี้เบื้องบนไม่ได้ใส่ใจหรอก มันขี้ปะติ๋วเกินไป เราจัดการฆ่ามันให้สมแค้นเถอะ”นุกูลตัดบท
“ท่านเจ้าครับ”
“มีอะไรอีกไกรศรี”นุกูลหันไปถามเจ้าหนุ่มก้นกุฏิ
“ผมข้องใจไอ้รบจริงๆ อย่างที่ท่านสุรเชษฐ์ข้องใจครับเจ้า”
“ข้องใจยังไง”
“ก็ตรงที่ว่ามันพยายามขัดขวางเราไม่ให้เผาไอ้เอก ทั้งที่มันก็ฝ่ายเดียวกับเราแต่กลับมีใจเอนเอียงอยากช่วยไอ้เอกยุทธงั้นแหละ”
“ท่านอา ไกรศรีกับผมคิดตรงกันเลยในประเด็นนี้”สุรเชษฐ์สอด
“นี่สุรเชษฐ์ ไกรศรี ฟังให้ดีนะ เวลานี้รบเปรียบเสมือนจเรที่หน่วยเหนือส่งมาตรวจงาน เขาอาจจะมีความคิดไปอีกแบบหนึ่ง สมัยที่ฉันอยู่ในฉาน พม่าส่งข้ารัฐการมาตรวจงานแบบนี้เหมือนกัน ฉันเห็นว่าเล่นไม่ยาก ถ้าไม่เก็บข้ารัฐการกลุ่มนั้นซะ ก็เลี้ยงดูปูเสื่อให้อิ่มหมีพีมันไปเลย มันจะได้ไม่ปากมาก พม่าถึงได้กวาดล้างฉานไม่สำเร็จสักที”
“แต่ไอ้รบ มันไม่เล่นกับเรานะครับท่านเจ้า”ไกรศรีแย้ง
“เอาน่า...เสาหินแปดศอกตอกเป็นหลักเอามือผลักทุกวันยังรู้ไหว รบก็เหมือนหมั่นเอาใจ ฉันคิดว่าเขาคงเอนเอียงมาทางเราบ้าง ไกรศรีก็เหมือนกันยั้งๆปากไว้มั่ง ไม่งั้นเราอาจจะ
เดือดร้อนกันทั้งกองทัพ อย่าลืมนะ เจ้าฟ้าตะวันเหนือของเรานั้นมีหูตาทิพย์จริงๆ”นุกูลย้ำ
ไกรศรีจึงสงบปากคำลง
“เราออกไปจัดการกันเถอะ ถ้าท่านพี่นุกูลมั่นใจละก็ พวกเราเอายังไงเอากันใช่มั้ยสุรเชษฐ์”
“ครับท่านพี่เรืองยศ”
จากนั้นทั้งหมดออกจากเต็นท์บัญชาการที่ลานหน้าเต็นท์นั่นเอง บัดนี้กองไฟกองใหญ่ถูกก่อขึ้น เปลวไฟกำลังลุกโชนไม่มากนัก เหมาะสำหรับที่จะลนหรือย่างสัตว์ป่า ข้างบนมีแคร่ย่างข่าสูงเหนือเปลวไฟขึ้นไปเพียงศอกกว่าเป็นที่สำหรับย่างคน
เอกยุทธถูกมัดมือมัดเท้าแน่นหนา โดยถูกปล่อยให้นอนทิ้งไว้ที่พื้นดินใกล้ๆกองไฟนั่นเอง
ดำกระแทกส้นเท้าใส่หน้าอกเอกยุทธอย่างแรง
“เฮ้ยไอ้เอก มึงใช้สายตาด่ากูนี่หว่า”
บึก
“โอ๊ย”
เอกยุทธร้องลั่น ทำท่าทางคล้ายเจ็บปวดสุดแสน หายใจหอบถี่ เขาไม่ร้องขอชีวิตแม้แต่คำเดียว
พลโทเจ้านุกูลเดินเข้ามาใกล้แล้วก้มหน้าพูด...
“เอกยุทธ ฉันให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้ายบอกที่ซ่อนพวกเธอมาซะ แล้วฉันจะไม่ย่างสด แต่จะขังเธอไว้ก่อน ว่าไงจะยอมบอกมั้ย”
“ไม่”
“ทำไมวะ ชีวิตของแกไม่ยอมรักเลยเรอะ”
นุกูลชักยัวะขึ้นมาอีก
“รักครับ แต่รักแล้วเพื่อนฝูงตายหรือเดือดร้อน ผมรักตัวเองแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“แกมันคนหรือสัตว์กันแน่วะ”นุกูลขึ้นเสียงอีก
“ท่านถามผมแบบนี้ หมายความว่ายังไงครับ”
“อ้าว ถ้าเป็นคนมันก็ต้องมีการเห็นแก่ตัวบ้างซิวะ ไม่งั้นจะเป็นคนได้ยังไง ยิ่งเจ็บ
มากๆ แบบนี้แล้วจะโดนเผาด้วยเป็นคนอื่นบอกไปแล้ว อมพระนำหาเหี้ยอยู่ทำไม”
“ถ้าเป็นสัตว์ละครับ”
ชายหนุ่มนอนหงาย กัดฟันถาม
“สัตว์มันก็ไม่เห็นแก่ตัวซิวะ เพราะมันไม่ได้แดกข้าวอย่างคนนี่หว่า มันโง่งั่งของมันอยู่อย่างนั้น มันสมองของมันไม่ได้คิดที่จะสร้างสรรค์อะไร ไม่อยู่รูก็นอนปลัก นานๆเข้าคนก็เอามันไปฆ่ากินซะ”
“งั้นผมขอเป็นสัตว์เถอะครับ”
“เอกยุทธ”เจ้านุกูลกระแทกเสียงดังลั่น“เกิดมากูก็ไม่เคยพบเคยเห็นคนอย่างมึง โง่บัดซบบรรลัยโลกเลยที่ยอมตายแทนคนอื่น ไกรศรี...มันอยากตายก็ให้มันตาย เผาแม่งเลย”
“ครับท่าน”
ไกรศรีรับลูกทันที ซึ่งมีความอาฆาตพยาบาทเอกยุทธมานานในหลายๆเรื่องเช่นเคียดแค้นที่จะเอานุ่นเป็นเมียแต่ถูกเอกยุทธขัดขวาง แล้วก็แค้นที่ไม่ได้คาถาคงกระพันชาตรี
“ไอ้ดำ บอกทหารช่วยกันโยนไอ้เอกยุทธขึ้นตะแลงแกงเดี๋ยวนี้”
“ครับลูกพี่”
ดำรับคำสั่ง พร้อมทั้งบอกทหารช่วยกันยกร่างเอกยุทธขึ้นวางที่แคร่ย่าง
มาถึงวินาทีนี้แล้ว...เอกยุทธยังมองไม่เห็นผลของคาถาแคล้วคลาด จะช่วยให้แคล้วคลาดจากการโดนถูกเผาได้อย่างไร เพราะจะโดนเผาทั้งเป็นอยู่รอมร่อไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้ว
ฉับพลันทันใด ก่อนที่ร่างของเอกยุทธหลังจะทันแตะพื้นแคร่ไม้ขนาดใหญ่นั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นที่วิทยุสนามของพลโทเจ้านุกูล


ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
28 พฤษภาคม 2561
ความยาว
351 หน้า (≈ 61,672 คำ)
ราคาปก
200 บาท (ประหยัด 35%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า