พลังแห่งการคิดบวก (เพื่อความสุขและความสำเร็จในชีวิต)

คำไมคนเราจึงควรคิดบวก และความคิดบวกนี้ มันคือความเพิ้อฝัน มันคือการที่เราไม่ยอมรับความเป็นจริงแห่งชีวิตหรือไม่?
ลองให้คุณมองออกไปข้างหน้าคุณ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณกำลัง “เห็น” และ “รู้สึก” ภาพในความเป็นจริงนั้นสิ่งที่เรามองเห็นมักจะประกอบไปด้วยสิ่งดีๆ และสิ่งที่เราคิดว่าไม่ดี ปะปนกันอยู่เสมอ ในบ้านของเรา บ้านคือสถานที่อบอุ่น คือที่พักกายและใจของเรา ในขณะเดียวกันเราก็อาจจะมองเห็นความสกปรกของบ้านเรา มองเห็นของรกๆ มองเห็นถังขยะที่มีขยะเต็มไปหมด การที่เราเป็นคนมีความคิดบวก จะช่วยให้เรามองเห็นสิ่งที่งดงาม แง่มุมที่สวยงาม และยอมรับในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และแก้ไขสิ่งไม่ดีทั้งหลายได้ด้วยความรู้สึกที่เป็นสุขมากขึ้น เหมือนกับการที่เรามองเห็นบ้านเราว่ามันคือสถานที่แห่งความอบอุ่นและเปี่ยมสุข แต่มันก็ยังมีบางส่วนที่มีฝุ่น มีขยะ และสิ่งที่เราควรทำก็คือการปัดกวาดเช็ดฝุ่นเหล่านั้นซะ เอาขยะไปทิ้งซะ เพื่อทำให้บ้านนี้มันน่าอยู่กว่าเดิม
ดังนั้นความคิดบวกจึงเป็นหนึ่งพลังพื้นฐานที่จะช่วยให้ชีวิตของเราก้าวเดินไปในโลกแห่งความจริงได้ด้วยความสุขที่มากขึ้นและรื่นรมย์ สนุกไปกับการได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันมากขึ้น เพียงแต่เพราะว่าคนเรามักจะถูกปลูกฝังให้มองเห็นสิ่งไม่ดีก่อนเสมอ จนทำให้เรากลายเป็น “นักจับผิด” ที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง เช่นว่า ขณะที่มองทุ่งหญ้าเขียวขจี แทนที่เราจะรู้สึกมีความสุขกับทุ่งหญ้าเขียวขจี เรากลับมองไปรอบๆ แล้วพบว่ามันมีหลุมอยู่ตรงมุมนั้น มีใบไม้แห้งอยู่ตรงมุมนี้ มีเศษขยะอยู่ตรงกลาง มีบ่อโคลนอยู่ริมๆนั่น และไปโฟกัสอยู่กับสิ่งเหล่านั้นจนทำให้ชีวิตไม่มีความสุขได้ง่ายๆ
การมีความคิดบวก จะช่วยให้เราฝึกที่จะ “จับถูก” ให้มากกว่าจับผิด และแก้ไขสิ่งที่ผิดให้มันถูกต้องสมควรมากขึ้นนั่นเอง ที่สำคัญก็คือ “ความคิดบวก” ถือเป็นทักษะหนึ่ง และเมื่อมันขึ้นชื่อว่า “ทักษะ” แล้ว! นั่นหมายความว่ามันคือสิ่งที่ฝึกฝนได้ เรียนรู้ได้ และพัฒนาให้มีมากขึ้นได้นั่นเอง... ข้อดีของการเป็นคนมีความคิดบวก ยังมีอีกมากมายนัก และนี่คือพลังที่จะนำเราไปสู่ความสุขและความสำเร็จในชีวิตได้อย่างไรบ้าง หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ และฝึกฝนไปพร้อมๆกัน แต่ความรู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนและลงมือทำ ก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่รู้...