ผมค้นพบแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องราวทั้งหมดจากความจริง...
ทั้งอื่นๆ เป็นต้นความรักที่ผิดศีลธรรมอันอยู่เหนือเหตุและผล ณ ท่วงทำนองแห่งรักต้องห้าม และบทเพลงแจ๊สของ
นอร่าห์ โจนส์อันลอยอวลมากับกรุ่นกลิ่นแห่งบทสนทนาเหล่านี้ ในจังหวะขัดเสมือนแจ๊สแห่งชายหาด ;
“ความรักบางทีก็เหมือนเพลงแจ๊ส มีจังหวะตกกับยกไม่เท่ากัน” ผมรู้ ประเด็นมันไม่เกี่ยวกัน หากประโยคล่าสุดเกิดแวบขึ้นมาในหัวอย่างฉับพลันทันใด
“ใช่” เขาเห็นด้วยอย่างเหลือเชื่อ “มันมีอะไรขัดๆ อยู่ในท่วงทำนองของบทเพลงเหมือนกัน”
“มันมีนามธรรมมากกว่ารูปธรรม ไม่สามารถจับต้องได้แท้ จริง วิธีสแกตเสียงของนักร้องบางคนก็ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ อาจเรียกว่าไร้ความไพเราะสำหรับคนเข้าไม่ถึง”
“แล้วสำหรับเราล่ะ” เขาคาดคั้นไม่น้อยสำหรับคำตอบ
ผมเดินเข้าไปใกล้ โน้มตัวพลางยื่นหน้าเข้าหาอย่างถือวิสาสะ กรุ่นกลิ่นลมหายใจอีกฝ่ายคุ้นเคยโสตสัมผัสผมอย่างประหลาด ลํ้า “เข้าถึงมันอย่างลึกซึ้ง เข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าใจมันเลยสักนิด”
รสจูบดื่มดํ่าตราตรึงเสมือนรวมเอาเสน่ห์แห่งศิลปินแจ๊ส
ระดับสามตำนานเคล้าหลอมรวมไว้ในหนึ่งเดียว
จูบเรานั้นแหบพร่าและทรงพลังอย่างนํ้าเสียงหลุยส์ อาร์มสตรอง จูบเรานี้สดใสและเริงร่าเหมือนนํ้าเสียงเอลลา ฟิทซ์เจอรัลด์ และรสผลระหว่างริมฝีปากของสองชีวิตช่างยาวนานในระยะเวลาสั้นๆ ก็เหือดแห้งและหม่นเศร้าราวนํ้าเสียงบิลลี ฮอลิเดย์
นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของ Boy’s Jazz Story รักต้องห้าม
แบทแมน
วันที่วางขาย
16 ตุลาคม 2556
ความยาว
179 หน้า (≈ 50,365 คำ)
ราคาปก
160 บาท (ประหยัด 25%)