Icon Close

กัญชา มหัศจรรย์พันธุ์พืชสายเขียว หนึ่งเดียวยาสารพัดโรค

กัญชา มหัศจรรย์พันธุ์พืชสายเขียว หนึ่งเดียวยาสารพัดโรค
4.50
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
2 Rating
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
18 สิงหาคม 2561
ความยาว
58 หน้า
ราคาปก
99 บาท
กัญชา มหัศจรรย์พันธุ์พืชสายเขียว หนึ่งเดียวยาสารพัดโรค
กัญชา มหัศจรรย์พันธุ์พืชสายเขียว หนึ่งเดียวยาสารพัดโรค
4.50
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
2 Rating
ในโลกนี้เชื่อว่าคงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก “กัญชา” พันธุ์พืชมหัศจรรย์ที่ทั่วโลกต่างยกนิ้วให้เป็น “สุดยอดแห่งความสุนทรีย์” พอเสพเข้าไปแล้วจะมีอารมณ์ที่อ่อนไหว เคลิบเคลิ้ม มองโลกอย่างอิสระตามความเป็นไปของมัน ... เป็นบ่อเกิดความคิดอันสุนทรียะ
กัญชา(ไทย)ถูกจัดอยู่ในสารเสพติดประเภทที่ 5 ซึ่งประกอบไปด้วยสารเสพติดทั้งหมด 4 รายการคือ กัญชา กระท่อม ฝิ่น และเห็ดขี้ควาย ตามพระราชบัญญัติสารเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2552 โดยกำหนดโทษสำหรับผู้เสพไว้ ให้จำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับการผู้ผลิตนำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้มีโทษ จำคุกตั้งแต่ 2 - 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 150,000 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากกัญชาเป็นพืชที่มีสารออกฤทธิ์ที่มีผลต่อร่างกายและสมอง ถ้าเสพเข้าไปจะกดประสาทส่งผลให้ผู้เสพมีอาการคล้ายเมาเหล้าเห็นมีภาพลวงตา ความคิดสับสน มีอาการคล้ายกับติดยาเสพติดประเภทอื่น ๆ บ้างเรียกกัญชาว่ายาสุขีหรือยานันทนาการ และถึงแม้ว่ากัญชาจะมีโทษตามกฎหมายแต่อีกแง่หนึ่งก็มีประโยชน์ในการที่มีสารสามารถสกัดเป็นยารักษาโรคได้อย่างน่ามหัศจรรย์ อีกทั้งยังเป็นยาสมุนไพรที่ราคาถูกโดยมีสรรพคุณใช้แทนยาราคาแพงได้หลายอย่าง และที่สำคัญยังมีความปลอดภัยกว่าสุรา บุหรี่ (จากรายงานพบว่า กัญชา 6 ต้น สามารถสกัดน้ำมันกัญชาได้ 28 กรัม เปรียบเทียบกับยาสีฟันขนาดกลางมีน้ำหนัก 160 กรัม สามารถใช้ได้หลายเดือน โดยวิธีสกัดสามารถค้นได้จาก YouTube)
ดังนั้น จากการที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 15 พฤษภาคม 2561 มีมติเห็นชอบประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ซึ่งจะเปิดช่องให้ใช้กัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยกับมนุษย์ได้เป็นครั้งแรก ก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติพิจารณาต่อไป จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้มีการนำเอากัญชามาพัฒนาเป็นยารักษาโรคต่างๆอีกต่อไป
ทั้งนี้ โดยนักวิจัยและผู้ผลิตสารสกัดกัญชาเพื่อการแพทย์ เชื่อว่าข้อกำหนดใหม่นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยและการแพทย์ไทย ขณะที่องค์การเภสัชกรรมวางแผนจะปรับปรุงอาคารเพื่อเตรียมปลูกและวิจัยกัญชา ร่างกฎหมายนี้ ยังกำหนดให้ รมว. กระทรวงสาธารณสุข มีอำนาจพิจารณาและอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะสามารถทดสอบยาเสพติดและกำหนดพื้นที่เพื่อทดลองปลูกพืชเสพติดได้
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายใหม่ยังเปลี่ยนแนวทางการรับมือกับผู้กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติด ซึ่งหากสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจนหาย ก็สามารถพ้นความผิดและไม่ต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย อีกทั้งผลที่ตามมา ก็คือ จะช่วยทำให้รัฐลดงบประมาณจากการนำเข้ายาจากต่างประเทศอีกหลายชนิด รวมทั้งทางด้านงบการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และทำให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีมากขึ้นตามไปด้วยถือเป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่งที่จะเพิ่มเม็ดเงินให้รัฐบาลได้ด้วย
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
18 สิงหาคม 2561
ความยาว
58 หน้า
ราคาปก
99 บาท
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า