ความคิดหลักของนักปรัชญาการเมือง เล่มที่ 2

หนังสือเรื่อง ความคิดหลักของนักปรัชญาการเมือง เล่มที่ 2 เล่มนี้ ผู้เขียนได้มีการวิเคราะห์ในเชิงทฤษฎีการเมืองเพิ่มเติมแต่ยังคงโครงสร้างการนำเสนอหนังสือไว้ตามเดิม โดยได้มีการวิเคราะห์ความคิดสำคัญในปรัชญาการเมืองในเรื่องต่างๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงของสังคมการเมืองของนักปรัชญาการเมือง การนำแนวคิดในปรัชญาการเมืองไปประยุกต์และพัฒนาทฤษฎีการปฏิวัติ การพัฒนาทฤษฎีประโยชน์นิยมให้เป็นรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยผู้แทน การทำให้คนจำนวนมากที่สุดมีความสุขตามอุดมการณ์ประโยชน์นิยม การปกครองตามอุดมการณ์อนุรักษนิยม เผด็จการนิยม เสรีนิยม และประโยชน์นิยม อีกทั้งในการปรับปรุงเนื้อหาครั้งนี้ ผู้เขียนได้ปรับปรุงสำนวนการเขียนและการนำเสนอใหม่หลายส่วนเพื่อให้ผู้อ่านมีความสะดวกในการอ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาต่อไป

หนังสือเล่มนี้มีมโนทัศน์ต่างๆ ของนักปรัชญาการเมืองคนสำคัญ อาทิ รากฐานความคิดหลักของนักปรัชญาการเมือง ความคิดหลักของ เบิร์ก, เฮเกล, มาร์กซ์, เบนเธม, เจมส์ มิลล์, และจอห์น มิลล์ รวมถึงการสังเคราะห์องค์ความรู้เกี่ยวกับความคิดหลักของนักปรัชญาการเมือง

ผู้เขียนพยายามเสนอรากฐานความคิดหลักในปรัชญาการเมืองในเชิงเปรียบเทียบความคิดหลักของนักปรัชญาการเมืองคนสำคัญในระดับโลกประกอบด้วยเบิร์ก, เฮเกล, มาร์กซ์, เจอเรมี เบนเธม, เจมส์ มิลล์ และจอห์น มิลล์

ข้อเสนอในปรัชญาการเมืองของนักปรัชญาการเมืองเหล่านี้ได้วางรากฐานอุดมการณ์ทางการเมืองในสังคมการเมืองอันนำไปสู่การเป็นรากฐานในการต่อสู้ทางการเมืองและการสถาปนาระบอบการเมืองการปกครองที่แตกต่างกัน

การศึกษาความคิดหลักของนักปรัชญาการเมืองเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในแง่ของการนำไปเป็นฐานในการวิเคราะห์การเมืองการปกครอง การออกแบบระบบสังคมการเมือง และการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป

จะเห็นได้ว่า หนังสือ ความคิดหลักของนักปรัชญาการเมือง เล่มที่ 2 เล่มนี้มีสาระสำคัญ ประกอบด้วยรากฐานความคิดหลักของนักปรัชญาการเมือง ความคิดหลักของ เบิร์ก, เฮเกล, มาร์กซ์, เจอเรมี เบนเธม, เจมส์ มิลล์ และจอห์น มิลล์ รวมถึงการสังเคราะห์องค์ความรู้เกี่ยวกับความคิดหลักของนักปรัชญาการเมือง

ผู้เขียนยังได้มีการสรุปคำกล่าว ประโยค วลี ที่เป็นอมตะ ซึ่งผู้ศึกษาต้องอ่านซ้ำแล้ว ซ้ำอีก เป็นสิบจบ ร้อยจบ พันจบ แล้วไตร่ตรองใคร่ครวญด้วยตัวเอง เพื่อนำไปสู่การวิจารณ์และการตีความด้วยตนเอง อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ศึกษาโดยตรงต่อไป

หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ ผู้เรียนจะได้ประโยชน์ในแง่ของการมีหลักตั้งต้นในการศึกษาค้นคว้า การเตรียมตัวสอบ และการเก็งข้อสอบ อันเนื่องจากไม่ว่าจะเรียนกับผู้สอนคนใดก็มีหลักการที่ต้องรู้ไม่แตกต่างจากนี้มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เรียนกับผู้เขียน เพราะสิ่งที่นำเสนอนี้คือ แนวข้อสอบ ก็ว่าได้
ผู้สอนคนอื่นๆ ก็อาจได้ประโยชน์ในแง่การนำไปปรับใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนของตนเองเพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุดต่อไป
หนังสือเล่มนี้มีสาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นปรัชญาการเมือง ซึ่งผู้เขียนได้เขียนหนังสือไว้หลายเล่ม

ในการนี้จึงขออวยพรให้ผู้อ่านทุกคนมีความสุขและมีชีวิตที่ดีที่สุดต่อไป

ไพรวัลย์ เคนพรม