หยุดล้อเล่นกับชีวิต

เรื่องย่อ “หยุดล้อเล่นกับชีวิต”
คนที่หลับใหลอยู่ในความคิดและไม่เห็นองค์รวม ไม่รู้รากของปัญหา จึงตั้งโจทย์เพื่อแพ้ ถูกหลอกให้โต้ตอบสิ่งกระตุ้นแต่ละประเด็นด้วยข้อมูลความรู้ในอดีต เพราะคิดแค่ขจัดข้อที่เคยผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิผลเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่านั้น
หมดเวลาหลับ… หยุดล้อเล่นกับชีวิต… เพราะคนที่ตื่นรู้เห็นความจริงองค์รวม รู้รากของปัญหา จึงจะตั้งโจทย์เพื่อชนะ และใช้ปัญญามุ่งเน้นทำเฉพาะงานสำคัญต่อเป้าหมายคือการแก้ปัญหานั้น แบบทำน้อยแต่ได้ผลเข้าเป้ามาก (Less is More) ทำให้ใช้พลังที่มีสามารถสร้างสรรค์ได้แบบสุดขีดและทันต่อยุคสมัย เป็นนวัตกรรมใหม่ New Normal เพราะได้เล็งคันธนูดักหน้าเป้าบินนวัตกรรมใหม่ ทำให้ลูกธนูและเป้าบินที่กำลังเดินทาง จะไปพบกันที่จุดนัดหมายได้พร้อมกัน พอดี
หนังสือเล่มนี้ใช้เวลาเขียน 7 ปี ในชื่อ Why Not The Best? แล้วใช้เวลาอีก 1 ปี 9 เดือนเพื่อย่อความจากห้าหน้าให้เหลือหน้าเดียว โดยยังมีเนื้อหาคงเดิม เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์จากทุกเนื้อหาที่อ่าน หนังสือซึ่งใช้ชื่อภาษาไทยว่า“หยุดล้อเล่นกับชีวิต” เพราะคนประมาทออกแบบชีวิตโดยพึ่งพิงสิ่งนอกกายทั้งสิ่งที่เป็นคนหรือองค์กร ซึ่งในเวลาเผชิญวิกฤตโลก ทั้งคนและองค์กรต่างก็ต้องเอาตัวเองให้รอด อาจลอยแพให้เราต้องช่วยตัวเอง คนไม่ประมาท ไม่ล้อเล่นกับชีวิต โดยออกแบบชีวิตพึ่งพาศักยภาพตัวเองเป็นศิลป์ชั้นสูง เพื่อใช้ในการสร้างชีวิตที่มีความหมายด้วยคุณค่าเกิดจากความถนัดที่พัฒนาขึ้นเป็นพรสวรรค์ ให้เราสามารถลิขิตชีวิตได้เอง
หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาครบจบในเล่มเดียว เพื่อผู้อ่านนำไปพัฒนากายและใจให้มีลักษณะเข้มแข็ง มีความมั่นใจในตัวเอง สามารถตั้งเป้าหมายชีวิตแบบที่ท้าทายเพียงพอให้เกิดมีความมานะพยายามอย่างไม่ลดละ(Passion) ที่จะพัฒนาองค์ประกอบของความสำเร็จ และเดินฝ่าฟันอุปสรรคไปบนเส้นทางสู่เป้าหมายที่ได้คิดไว้ด้วยความรอบคอบแล้ว หนังสือมีเนื้อหาจบในเล่มแบ่งเป็น 4 ส่วนบูรณาการเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน ดังนี้
ส่วนที่ 1 (บทที่ 1-8): As is การสำรวจสถานะภาพที่เป็นบริบทธรรมชาติแวดล้อมเพื่อรู้สภาพการณ์ตามจริงในปัจจุบัน แบ่งเป็น 1.1(บทที่ 1-6): ความจริงที่ต้องรู้ To Know (Basic Knowledge) เกี่ยวกับบริบทธรรมชาติแวดล้อมที่กำหนดใจกายเราให้เป็นเราในปัจจุบัน และความจริงที่เป็นสัจจะธรรมพื้นฐานเพื่อการปฏิบัติที่ดีซึ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตใจกายให้สอดคล้องกับบริบทธรรมชาติแวดล้อมที่เผชิญ 1.2(บทที่ 7-8): สิ่งที่ต้องทำ To Do (Fill Gap to get Ready) การปรับปรุงตัวเองให้เข้าถึงสติสุจริตของการปฏิบัติที่ดีเพื่อเราสามารถดำเนินชีวิตสอดคล้องกับบริบทธรรมชาติที่แวดล้อมแบบ คิด พูด ทำ อย่างเป็น “ธรรม” คือเป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน
ส่วนที่ 2 (บทที่ 9): เรื่องความคาดหวัง To Be/1 เพื่อกำหนดให้ชีวิตมีเป้าหมายที่ดีที่สร้างกำลังใจมากพอให้เกิดความมานะพยายามอย่างไม่ลดละ(PASSION)ที่จะดำเนินชีวิตฝ่าฟันไปตามเส้นทางมุ่งสู่เป้าหมายที่ท้าทายสุดขีด
ส่วนที่ 3 (บทที่ 10-11): สิ่งที่ต้องปรับตัว To Transform การปรับตัวเองให้มีองค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วนและสมบูรณ์พอดีเพื่อใช้ประกอบกันเป็นความสำเร็จตามเป้าหมายในใจ
ส่วนที่ 4.1 (บทที่ 12-13):ดำเนินชีวิตที่มีความสุขและมี“ความหมาย” To Be/2 ไม่ใช่ดำเนินชีวิตแบบคนไร้ค่า
ส่วนที่ 4.2 (บทที่ 14-22)แนวปฏิบัติที่ตระหนักรู้คุณค่าของตัวเองเพื่อมีพลังกายและพลังใจแบบสุดขีด To Be/3 โดยรู้จักให้อาหารกาย และให้อาหารใจ Heart Food ให้ใจมีพลังจิตเข้มแข็งสามารถมุ่งมั่นสติสุจริตนำการเดินทีละก้าว

ประมุข บุตรสมาน
ดินสอ ธรรม