เมียสวมรอย

“เมียจ๋า”
“คือฉัน ไม่ใช่…” ทว่า คำต่อมากลับถูกกลืนหายลงคอไปจนมิอาจได้ยินอีกแล้ว นั่นเพราะเขาจูบลงบนริมฝีปากของเธอจนแนบแน่น บรรจงบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับกำลงลิ้มลองอาหารรสชาติจัดจ้านที่หวานมัน เพียงเท่านั้น เธอก็มิอาจทำอะไรได้อีกแล้ว ร่างกายของเธอ เนื้อกายของเธอ ทุกส่วนซอกของเธอก็เจียนจวนจะระเบิดเสียตอนนั้นเอง
ริมฝีปากสุดเร่าร้อนของชายหนุ่มตะบี้ตะบันห้ำหั่นเชือดเฉือนความอ่อนนุ่มหอมกรุ่นละมุนละไมของเธออย่างไม่รู้จักอิ่ม เขาปล่อยลมหายใจอุ่นๆรวยรินรดราดอยู่บนริมฝีปากของเธอ ราวกับกำลังเป่ามนต์สะกดใส่เธออย่างนั้นเลย
“ผมถอดเสื้อผ้าออกให้นะที่รัก”
“อย่าเพิ่งนะคะ” แต่ดูเหมือนเขาจะหูหนวกด้วยในคราวนี้ ชายหนุ่มจัดการเลื่อนเสื้อผ้าตรงหัวไหล่ของเธอลงไปจนพ้นทาง เผยหัวไหล่นวลเนียนขาวผ่อง
“ว๊าวววว เมียจ๋า” เขาจุมพิตลงบนหัวไหล่นวลสวยของเธอจนแนบแน่น ก่อนกดคลึงจูบเล่นเป็นของหวาน ครานี้ ขนอ่อนทุกส่วนบนเรือนกายขาวผ่องอิ่มสวย ตั้งชันกรูเกลียวซ่านไหว เลือดในกายเดือดดิ้นพลุ่งพล่านไปทั้งตัว กระดูกอ่อนยวบราวสบู่เหลว
“คุณคะ”
เขาไม่ฟังเสียงของเธอเลย แต่กลับสวมกอดลูบไล้หุ่นสวยไม่ยอมละ บรรจงพรมจูบไปจนถ้วนทั่วทั้งหัวไหล่ ไล่รุกรานต้นคอหอมหวานแสนนุ่มนิ่มอย่างเพลิดเพลิน
“อ้า...โอวววว” หญิงสาวอ้าปากนิดๆคล้ายคนหายใจติดขัด ยามถูกกระทุ้งกระแทกด้วยอวัยวะอันตรายที่ไม่มีวันสงบของเขา ดวงตากลมกระพริบถี่ยิบ มองดูโคมไฟที่ห้อยระย้าอยู่บนฝาผนัง หัวใจดิ้นพล่าน นิ้วเท้ากดจิกพื้นมันวาวเท่าที่จะทำได้
“ซี๊ดดดดดด.....” ริมฝีปากของเขายังคงไล่วนเวียนจูบหอมอยู่บริเวณนั้นราวกับมันได้ตอกสลักเขาไว้ตรงนั้นแล้วไม่มีผิด จากนั้น เธอก็สัมผัสได้ถึงความอุ่นแผ่ซ่านที่ปลายเท้า เมื่อเขาเริ่มจะใช้ลิ้นอุ่นลากไล้หัวไหล่เธอไปอย่างคล่องแคล่วชำนาญปาก จนเธอรู้สึกเหมือนอกจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
“โอยยยยย” ริมฝีปากอิ่มสวยเม้มกันจนแน่น ราวกับไม่อยากจะปลดปล่อยเสียงแห่งความพึงพอใจนั้นออกมาให้ใครได้ยิน
“อืมมมมม”
“เมียจ๋า ผมไม่ไหวแล้ว”