ภรรยาคนนี้ไม่ใช่ : Mpreg

แต่งงานกันมาห้าปี มันคงถึงเวลาที่ต้องทำตามหัวใจเสียที ....เขาตัดสินใจโทรไปในรายการที่เธอชอบฟัง ถ้าจะให้พูดต่อหน้าคงเป็นการทำร้ายจิตใจเธอมากเกินไป....หวังว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะบอก...
-------------------------------------------------------------

“....อ่า เอ่อ สวัสดีครับ”

(ว้าย....ผู้ชาย! วันนี้มีผู้ชายโทรเข้ามาในรายการเราค่ะ) เสียงวี้ดว้ายของพิธีกรดังขึ้น ทำให้คนที่โทรเข้ามาเริ่มขาดความมั่นใจ....แต่ว่าเขาตัดสินใจแล้ว (สวัสดีนะคะ ไม่ทราบว่าสุดหล่อชื่ออะไรเอ่ย)

“ขอไม่บอกแล้วกันนะครับ”

(อ้าว....ทำไมล่ะ ไม่อยากรู้จักพวกเราหรอ) พิธีกรหญิงอีกคนที่นั่งเข้าคู่เอ่ยแซวเข้ามา

“.....”

(มึงเขาเงียบว่ะ) (ก็มึงไปแซวเขาอะ) เสียงพิธีกรทะเลาะกันดังออกมาตามสาย

(สุดหล่อยังอยู่ไหมคะ ตอบหน่อยเร็ว) พิธีกรชายที่มีความเป็นผู้หญิงในตัวสูงเอ่ยถาม

“ครับ”

(ว้าย ๆ เขายังอยู่ ไม่เป็นไรไม่ต้องบอกชื่อก็ได้ ว่าแต่โทรเข้ามาในรายการจะเล่าเรื่องอะไรให้พวกเราฟังเอ่ย)

“คือ....เรื่องชีวิตคู่ของผมครับ”

(โอ๊ย ๆ อิจฉา ฉันอิจฉาคนที่ได้แต่งงานกับสุดหล่อจังเลย) ทั้งที่ได้ยินแค่เสียงแต่มโนว่าคนปลายสายเป็นคนหล่อไปเรียบร้อย

“คือผมอยากหย่ากับภรรยานะครับ”

(ฮะ! เอ่อ.......อ่า) พิธีกรชายที่เอ่ยแซวบ่อย ๆ ถึงกับเงียบ (อ่า....ปัญหาคู่ชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคู่ต้องเจออยู่แล้ว เชิญคุณเสียงหล่อเล่าเรื่องของตัวเองเลยค่ะ) พิธีกรหญิงอีกคนพอจะมีสติจึงดำเนินรายการต่อไป

“ผมไม่ได้รักเขา....ไม่ได้รักมาตั้งแต่แรก”

(อ่า...ขอถามสาเหตุที่ต้องมาแต่งงานกันได้ไหมคะ) พิธีกรที่พอจะมีสติขึ้นมาถามต่อ

“มันอาจฟังดูตลกนะครับ แต่เราแต่งกันเพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่”

(ไม่น่าเชื่อว่าสมัยนี้ยังมีเรื่องแบบนั้นอยู่)

“ครับ ผมเองก็ไม่อยากเชื่อจนมันเกิดขึ้นกับตัวผม”

(ฟังจากเสียงดูเหมือนไม่ค่อยมั่นใจอะไรหรือเปล่าคะ...หรือว่านี่จะเป็นเหตุผลที่โทรเข้ามาในรายการเรา)

“ผมกับเขาแต่งงานกันมาก็เข้าปีที่ห้าแล้วครับ”

(นานอยู่นะคะ แล้วคือปรับตัวเข้ากันไม่ได้หรือว่าเขามีนิสัยที่เราไม่โอเค)

“คงเพราะผมไม่อยากแต่งแต่แรก ทำให้ใจไม่เคยเปิดรับเขาเข้ามา” พิธีกรที่ได้ฟังต่างรู้สึกสงสารภรรยาของอีกฝ่าย แต่พวกเขาก็เป็นแค่คนนอกเรื่องราวที่แท้จริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้

(อ้อ....คือ ขอถามคำถามที่ค่อนข้างส่วนตัวหน่อยได้ไหมคะ) พิธีกรหญิงถามเพื่อลองเชิงอีกฝ่าย

“ครับ”

(ความสัมพันธ์นี่ ดำเนินเหมือนคู่สามีภรรยาปกติเลยไหมคะ....อ่า หรือว่าแยกกันอยู่)

“ปกติครับ”

(....ปกติ) คนที่ฟังอยู่อดตกใจไม่ได้....ถ้าปกติคือมีความสัมพันธ์ทางกายด้วยกันงี้เหรอ (อ่า...ค่ะ แล้ววันนี้ที่โทรมาก็ไม่ได้อยากให้เราช่วยอะไรแค่อยากจะบอกเลิกภรรยาผ่านทางรายการของเรา)

“....ครับ”

(โอเคค่ะ จากที่ฟังมาทางเราก็ไม่รู้เรื่องราวโดยละเอียดแต่คิดว่าคุณภรรยาควรปล่อยสามีคนนี้ไปจะดีกว่า)

“....”

(อยู่กับคนที่ไม่ได้รักอยู่ไปก็มีแต่ทุกข์.....ไม่ใช่แค่ทางฝั่งสามีนะคะ ทางฝั่งคุณภรรยาก็ด้วย) พิธีที่เป็นผู้หญิงเลือกจะออกความเห็นก่อน

(แล้วก็ขอฝากไว้นิดหนึ่ง.....อย่ามาเสียใจทีหลังนะคะ)

.....เสียใจงั้นหรอ ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้เขาคงจะเสียใจยิ่งกว่า.....

(ทางฝั่งเราก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ขอให้โชคดีกับทางเดินที่เลือกก็แล้วกันเนอะ.....อ่า ขอถามอีกคำถามได้ไหมเอ่ย) พิธีกรชายน้ำเสียงติดจะผิดหวังนิดหน่อย....ปกติเคยเจอแต่โทรมาบอกรักกลางรายการ โทรมาบอกเลิกแบบนี้ก็เพิ่งเคยเจอเหมือนกัน

“ได้ครับ”

(ภรรยาคนนี้ไม่ใช่สำหรับเราเลยจริง ๆ เหรอ)

“ไม่ใช่เลยครับ” ตลอดเวลาห้าปีมันคงพิสูจน์ทุกอย่างได้แล้ว “ภรรยาคนนี้ไม่ใช่สำหรับผม”

(หู้ย....ชัดเจน ยังไงก็ขอบคุณที่โทรเข้ามาเล่าเรื่องในรายการนะคะ)

“ครับ....ขอบคุณมากครับ”

คนที่โทรเข้าไปถอนหายใจหลังจากการสนทนาสิ้นสุด เขาหยิบรูปภาพใบหนึ่งในกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาดู

...รักแรก และ รักเดียวของเขา....


***ใครที่อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ขอฝาก เฮียหนึ่งไม่กินเกี๊ยว ไว้ในอ้อมใจอีกเรื่องด้วยนะคะ
ใครทีมเฮียหนึ่งเชิญทางนี้ค่ะ